HomePR News“ไอบริก” ผนึก 2 งานยกระดับเอสเอ็มอียุค New Normal [PR]

“ไอบริก” ผนึก 2 งานยกระดับเอสเอ็มอียุค New Normal [PR]

แชร์ :

22นายสักกฉัฐ ศิวะบวร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอบริก จำกัด ผู้จัดงานแสดงสินค้า (Trade Show) ระดับแนวหน้าของประเทศไทย ในฐานะประธานการจัดงาน SME BIZ ASIA 2016 in Conjunction with Thailand Synchrotron Conference & Exhibition 2016  เปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ ของอาเซียน มีประชากรมากกว่า 67 ล้านคน เป็น 1 ใน 20 ประเทศอันดับต้นๆ ที่ต่างชาติสนใจจะเข้ามาลงทุน

นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางในเอเชียสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือธุรกิจเอสเอ็มอี ในการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ร่วมกันและสร้างเครือข่ายธุรกิจอย่างรวดเร็วจากข้อดีของการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ทั้งนี้ บริษัทฯ ในฐานะที่มีประสบการณ์ในการจัดเทรดโชว์มายาวนาน ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาและยกระดับธุรกิจเอสเอ็มอีไทย จึงร่วมกับสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นหน่วยงานในกำกับของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งหนึ่งในภารกิจที่สำคัญคือ การนำผลงานวิจัยไปใช้เพื่อตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจแล้วไม่ต่ำกว่า 3,200 ล้านบาทในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผลงานวิจัยที่โดดเด่น ได้แก่ นวัตกรรมไข่มุกสีทองจากการฉายแสงซินโครตรอนเพื่อเปลี่ยนไข่มุกธรรมชาติให้เป็นสีทองเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก เป็นต้น โดยเตรียมผนึก 2 เวทีใหญ่ในการจัดงาน  SME BIZ ASIA 2016 in Conjunction with Thailand Synchrotron Conference & Exhibition 2016 ในระหว่างวันที่ 26 – 28 กุมภาพันธ์ 2559 ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการจัดประชุมอิมแพค เมืองทองธานี  ภายใต้แนวคิด “SMEs ยุค New Normal : โอกาสและความท้าทาย” (The New Normal : Opportunities and Challenges for SMEs)

“คำว่า ‘New Normal’ หมายถึง ‘สภาพแวดล้อมใหม่’ หรือ ‘บริบทใหม่’ ที่เกิดขึ้นจากการวางแผนเชิงธุรกิจในปัจจุบันที่มีความยากลำบากขึ้น เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาบริบทของเศรษฐกิจการเงินโลกและเศรษฐกิจไทย มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในมิติต่างๆ เช่น การค้าระหว่างประเทศชะลอตัวจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง ระบบการเงินโลกที่เชื่อมโยงมากขึ้นและส่งผลต่อภาวะการเงินในประเทศ รวมทั้งโครงสร้างประชากรที่กำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยปรากฏการณ์เหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณที่อาจบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของระบบเศรษฐกิจที่จะส่งผลกระทบต่อรูปแบบและแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะยาว ดังนั้นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจึงต้องเรียนรู้และเข้าใจบริบทใหม่ทางธุรกิจ แนวโน้มการบริโภค และตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อปรับตัวให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น” นายสักกฉัฐ กล่าว

สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมแสดงสินค้าภายในงาน SME BIZ ASIA 2016 in Conjunction with Thailand Synchrotron Conference & Exhibition 2016 ประกอบด้วย 1.สถาบันการเงิน  การให้บริการประกันภัย 2.การตลาดดิจิตอลและเทคโนโลยีดิจิตอล เช่น การสื่อการตลาดบนโลกออนไลน์ ผู้พัฒนาเว็บไซต์ แอปพลิเคชั่นและสื่อมัลติมีเดีย  การโฆษณาบนโลกออนไลน์ การผลิตสื่อในสังคมออนไลน์ และระบบขนส่งออนไลน์  3.นวัตกรรมด้านการพิมพ์สื่อสิ่งพิมพ์ และการออกแบบ  4.ระบบอัตโนมัติและเครื่องใช้ในสำนักงาน  5.ธุรกิจแฟรนไชส์   6.ระบบขนส่ง และ 7.ระบบรักษาความปลอดภัยและการประหยัดพลังงาน ในขณะที่สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนจะนำเสนอนิทรรศการและให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้แสงซินโครตรอนเพื่อประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรมซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาด้านกระบวนการผลิตและเพิ่มมูลค่าสินค้า  ส่วนผู้เข้าร่วมชมงาน ได้แก่ ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีทั้งในประเทศไทยและประเทศสมาชิก AEC ผู้ที่ต้องการพัฒนาธุรกิจ และสร้างความเข้มแข็งให้เครือข่ายธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้คาดว่าจะมีจำนวนผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 10,000 ราย

ไฮไลต์ของงาน SME Biz Asia 2016 คือ รายการสัมมนาที่ SMEs พลาดไม่ได้ โดยวิทยากรชั้นแนวหน้า อาทิ “จาก AEC สู่ RCEP, APEC, TPP… SMEs ในกรอบความร่วมมือระดับภูมิภาค” โดย ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์,“ธุรกิจและการปรับตัวของ SMEs ในยุค New Normal” โดย ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์, “China’s New Normal : ผลกระทบต่อโลกและ AEC โดย  ดร.สมภพ มานะรังสรรค์, “Industry 4.0 กับเทคโนโลยีฉลาดเพื่อโลกยั่งยืน” โดยดร.กมลพรรณ แสงมหาชัย“เจาะใจ 3 นักสู้เพื่อ SMEs : ดร.การดี เลียวไพโรจน์, สักกฉัฐ ศิวะบวร, พีรวงศ์ จาตุรงคกุล, และหัวข้อที่น่าสนใจมากมาย โดยผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศจาก Google, BM Intelligence Group (HK) ฯลฯ สำหรับหน่วยงานหรือองค์กรที่สนใจเข้าร่วมงาน สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่  โทร. 02-574-6511 (AUTO) หรือคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.smebizasia.com

 ด้าน รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลปรับนโยบายการทำงานโดยให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ อยู่ในกลุ่มเศรษฐกิจ ภายใต้การนำของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้ปรับโหมดการทำงานเพื่อตอบโจทย์ประเทศด้านเศรษฐกิจ สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาขยายผลต่อยอดกิจกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของเอสเอ็มอี สร้างธุรกิจและผู้ประกอบการยุคใหม่ ประกอบกับการแข่งขันของเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้การสร้างนวัตกรรมเพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์กลายเป็นสิ่งสำคัญ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) จึงได้จัดงานประชุมและแสดงนิทรรศการ Thailand Synchrotron Conference and Exhibition 2016 ร่วมกับงาน SME BIZ ASIA 2016 เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการใช้ประโยชน์จากแสงซินโครตรอน ทั้งในภาควิชาการและภาคอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถและกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาธุรกิจเอสเอ็มอีไทยให้สามารถแข่งในตลาดโลกได้


แชร์ :