รับนโยบายปลดล็อกการท่องเที่ยวของไทย AirAsia Super App ได้ฤกษ์เปิดตัวบริการ Ride-Hailing อย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยชื่อ “แอร์เอเชีย ไรด์” (airasia ride) โดยไทยถือเป็นประเทศที่สองรองจากมาเลเซีย พร้อมเปิดตัวเลขแท็กซี่ในระบบที่มีแล้วถึง 3,000 ราย ด้านผู้บริหารชูจุดแข็งคือ “การไม่เก็บส่วนแบ่งรายได้จากแท็กซี่ที่เข้าร่วม” ตั้งเป้ามียอด Booking แตะ 50,000 ครั้งในเดือนแรกของการเปิดตัว และ 500,000 ครั้งภายในสิ้นปีนี้
การทำธุรกิจสายการบินอย่างเดียวอาจไม่พออีกต่อไป โดยหนึ่งในบริษัทที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้อย่างน่าสนใจอาจะเป็นกรณีของกลุ่มแอร์เอเชีย เมื่อ “โทนี่ เฟอร์นันเดส” ผู้บริหารยักษ์ใหญ่ของทางกลุ่มได้ออกมาประกาศทรานสฟอร์มองค์กรสู่ยุคดิจิทัล พร้อมเปลี่ยนชื่อจาก AirAsia Group สู่ “Capital A” พร้อมตั้งเป้าว่าจะต้องสามารถเข้าถึงผู้คนกว่า 1 พันล้านคนในอาเซียนให้ได้ภายในปี 2026
หลังจากเปิดตัว airasia food ไปเมื่อไม่นานมานี้ ล่าสุดทาง airasia Super App (แอร์เอเชีย ซูเปอร์แอพ) ได้ประกาศเปิดตัว “airasia xpress” บริการส่งของของทางค่ายอย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะเริ่มต้นจากพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้ง 50 เขตก่อน และมีแผนจะขยายไปยังปริมณฑลและต่างจังหวัดในเร็ว ๆ นี้
ไม่ต้องแปลกใจหากเช้านี้จะมีหลายคนเริ่มมองเห็นไรเดอร์ใส่เสื้อสีแดงบนท้องถนนกันบ้างแล้ว ซึ่งก็คือ ไรเดอร์ของ airasia food (แอร์เอเชียฟู้ด) ภายใต้การบริหารของ “แอร์เอเชีย ดิจิทัล” หน่วยธุรกิจด้านดิจิทัลกลุ่มแอร์เอเชีย กับการเปิดตัวบริการในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยในกรุงเทพฯ รองรับ 4 พื้นที่ ได้แก่ ดินแดง จตุจักร ลาดพร้าว และห้วยขวาง
กลุ่มแอร์เอเชียประกาศเข้าซื้อกิจการ Gojek (โกเจ็ก) ประเทศไทยแล้ว พร้อมดัน airasia super app แจ้งเกิด โดยจะใช้ชื่อแอป Gojek ถึงวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ เตรียมขยายตลาดสู่เชียงใหม่ – ภูเก็ต ด้าน Gojek ประกาศปรับกลยุทธ์ระหว่างประเทศใหม่ หันไปเพิ่มการลงทุนในการดำเนินงานในเวียดนามและสิงคโปร์แทน
