ป๊อปคอร์น

จุดเริ่มต้นของป๊อปคอร์นก่อนจะกลายมาเป็นของทานเล่นยอดฮิตประจำโรงภาพยนตร์นั้นสามารถย้อนไปไกลถึงกว่า 5,000 ปีในอดีต จากกลุ่มชนพื้นเมืองอเมริกันในทวีปอเมริกาที่นำเมล็ดข้าวโพดมาคั่วก่อนทาน และนอกจากจะเป็นอาหารแล้ว ป๊อปคอร์นยังถูกนำไปทำเครื่องประดับด้วยเช่นกัน ในปี 1517 มีบันทึกว่าป๊อปคอร์นเป็นส่วนประกอบสำคัญในพิธีกรรมเพื่อบูชาเทพ เช่น เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ ด้วยการร้อยเป็นมงกุฎหรือสร้อยคอเพื่อสวมใส่ และนำไปประดับบนรูปปั้นเทพอีกด้วย

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ต้อนรับเดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรักที่มาพร้อมเทศกาลแห่งความหวานละมุนกับแคมเปญ “Let’s celebrate sweet moment in Valentine’s season” ให้ทุกคู่รักได้เติมเต็มความรักที่หอมหวานและอร่อยให้แก่กัน ด้วยป๊อปคอร์นสตรอว์เบอร์รี รสชาติเอ็กซ์คลูซีฟที่จำหน่ายเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จับมือ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ผนึกกำลังทำ Collaboration Marketing ออกป๊อปคอร์นรสชาติใหม่ “ป๊อปคอร์นรสต้มยำ” ป๊อปคอร์นรสจัดจ้าน แซ่บ ซี๊ด จี๊ด ถึงเครื่องต้มยำ ส่งมอบความอร่อยคู่กับ 7อัพ เลมอนโซดา ที่ผสมน้ำเลมอนแท้ ๆ จัดเซ็ทแซ่บซี๊ดคูณสองกับ “7อัพ เลมอนโซดา Combo Set” …

หลังจากปั้นธุรกิจสตรีมมิ่งจนเติบโตและก้าวข้ามปัญหาแชร์พาสเวิร์ดได้เรียบร้อยโรงเรียน Netflix ตอนนี้อาจถึงเวลาเปิดตัวสินค้าใหม่ได้อย่างสบายใจ นั่นคือธุรกิจ “ป๊อปคอร์น” สำหรับให้ผู้บริโภคได้หม่ำกันเพลิน ๆ ระหว่างดูหนัง (ของ Netflix)

SF ผู้ประกอบธุรกิจโรงภาพยนตร์ชั้นนำของประเทศไทย ผนึกกำลัง “อาฟเตอร์ยำ” (After Yum) เปิดตัวป๊อปคอร์นรสชาติใหม่ “ไก่ทอดซอสยำปู” จำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เฉพาะที่โรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมทั้งช่องทางออนไลน์ของ SF Cinema

ช่วง 3 ปีของสถานการณ์โควิด-19 อุตสาหกรรมภาพยนตร์กระทบหนัก ไม่ว่าจะเป็น “โรงหนัง” ถูกสั่งปิดชั่วคราวยาวนานหลายเดือน จากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด ส่วน “สตูดิโอสร้างหนัง” เลื่อนฉายหนังฟอร์มยักษ์ออกไปในช่วงโควิด

หลังจากช่วงโควิด “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” ได้เริ่มเข้าสู่ธุรกิจ Trading ต่อยอดความสำเร็จ “ป๊อปคอร์น” จากโรงหนังสู่หน้าบ้าน ขยายไลน์สินค้าเปิดตัว POPSTAR เพิ่มช่องทางจำหน่าย Popcorn To Go นอกโรงหนัง

ปีก่อน “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” (MAJOR) ได้ขายหุ้นทั้งหมดสัดส่วน 30% ใน “สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์” (SF) ผู้พัฒนาและบริหารศูนย์การค้ารายใหญ่ในประเทศไทยรวม 19 แห่ง เช่น เมกา บางนา, เอสพลานาด รับเงินไป 7,765 ล้านบาท โดยได้กำไรจากการขายหุ้น SF  3,163 ล้านบาท