HomeBrand Move !!พบ “นทท.รัสเซีย” เล็งจองทริปแบบ Last-Minute Booking เพิ่มขึ้น “ภูเก็ต-พัทยา-กรุงเทพฯ” ยืนหนึ่ง

พบ “นทท.รัสเซีย” เล็งจองทริปแบบ Last-Minute Booking เพิ่มขึ้น “ภูเก็ต-พัทยา-กรุงเทพฯ” ยืนหนึ่ง

แชร์ :

พบนักท่องเที่ยวกลุ่ม CIS หรือกลุ่มที่ใช้ภาษารัสเซียเป็นหลัก กำลังเปลี่ยนพฤติกรรมในการมาท่องเที่ยวประเทศไทยอีกครั้ง เห็นได้จากรายงานการท่องเที่ยวไตรมาส 3 ของปี 2568 จาก Yango Ads ที่เผยว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวสนใจ “หัวหินและเกาะช้าง” เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังเป็นการค้นหาทัวร์ท่องเที่ยวในประเทศไทยแบบ Last-Minute Booking (การจองใกล้วันเดินทางแบบกระชั้นชิด) มากถึง 95% อีกด้วย ส่วนปัญหาความขัดแย้งบริเวณชายแดนไม่มีผลต่อการตัดสินใจ เนื่องจากพื้นที่หลักที่ต้องการไปคือจังหวัด “ภูเก็ต-ชลบุรี-กรุงเทพฯ” นั่นเอง

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ปฏิเสธไม่ได้ว่า นักท่องเที่ยวกลุ่ม CIS หรือกลุ่มที่ใช้ภาษารัสเซียเป็นหลัก กำลังเป็นกลุ่มที่มีบทบาทมากขึ้นในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย โดยข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยว อ้างอิงจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 7 ธันวาคม 2568 เผยว่า ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทั้งสิ้น 30,273,872 คน โดยนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียติดอันดับ 1 ใน 5 ตลาดนักท่องเที่ยวหลักของไทย และมีจำนวนมากถึง 1,685,931 คนในช่วงเวลาดังกล่าว

“ภูเก็ต-พัทยา-กรุงเทพฯ” จุดหมายยอดฮิต

จังหวัดภูเก็ตยังครองอันดับหนึ่งของของจังหวัดที่มีการค้นหามากที่สุดในรายงานชิ้นนี้ รองลงมาคือพัทยา (จังหวัดชลบุรี) และกรุงเทพฯ ในอันดับสาม แต่คุณเนฮะก็เปิดเผยด้วยว่า รูปแบบการจอง หรือการพักอาศัยของนักท่องเที่ยวที่มาภูเก็ตกับกรุงเทพฯ จะแตกต่างกัน เช่น ระยะเวลาการพักในภูเก็ตอาจพักยาว 5 – 6 วัน แต่ถ้ามากรุงเทพฯ จะพักราว 2 วันเท่านั้น สะท้อนว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เลือกใช้กรุงเทพฯ เป็นจุดเชื่อมต่อในการเดินทางมากกว่า 

ส่วนช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากที่สุดคือ ไตรมาส 1 (เดือนมกราคม-มีนาคม) และไตรมาส 4 (เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน)  เนื่องจากเป็นช่วงฤดูหนาวของประเทศกลุ่ม CIS นั่นเอง

ใครบ้างที่สนใจ Last-Minute Booking

คุณเนฮะ ดาวาร์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ Yango Ads ประเทศไทย

และเมื่อเจาะลึกลงไปถึงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวกลุ่ม CIS เกี่ยวกับการค้นหาทริปแบบ Last-Minute Booking นั้น คุณเนฮะ ดาวาร์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ Yango Ads ประเทศไทย และเป็นผู้เผยแพร่รายงานดังกล่าวให้ข้อมูลว่า มาจากการเปิดฟรีวีซ่าของประเทศไทย ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่ม CIS เดินทางเข้ามาได้สะดวกมากขึ้น (หมายเหตุ กลุ่ม CIS หรือกลุ่มที่ใช้ภาษารัสเซียเป็นหลัก ประกอบด้วย สหพันธรัฐรัสเซีย, ยูเครน, มอลโควา, จอร์เจีย, อาร์เมเนีย, อาเซอร์ไบจาน, เบลารุส, คาซัคสถาน, อุซเบกิสถาน, คีร์กีสถาน, เติร์กเมนิสถาน และทาจิกิสถาน) ประกอบกับประเทศไทยเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวทำให้ความนิยมในการเสิร์ชหาข้อมูลเพิ่มขึ้น

นอกจากนั้น ในรายงานดังกล่าวยังพบด้วยว่า นักท่องเที่ยวกลุ่ม CIS ที่สนใจค้นหาข้อมูลแบบ Last-Minute Booking นั้น เป็นกลุ่มอายุ 25 – 34 ปีมากที่สุด และเป็นกลุ่มที่มีรายได้ระดับกลางถึงบน ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวพรีเมียม และมีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย โดยจุดประสงค์ที่ต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยพบว่ามี 3 หัวข้อใหญ่ นั่นคือ แต่งงาน, การท่องเที่ยวเชิง Wellness และการท่องเที่ยวแบบพักผ่อนระยะยาว 

ในส่วนของโรงแรมที่พักนั้น รายงานดังกล่าวพบว่ามีความนิยมค้นหาโรงแรมแบบรีสอร์ท (+1%) เพิ่มขึ้น โดยคนที่จองมักเดินทางมาพร้อมกับครอบครัว (นอกจากมีลูกแล้ว ยังมีปู่ย่าตายายเดินทางมาด้วย) ซึ่ง Facility ของโรงแรมแบบรีสอร์ท สามารถตอบโจทย์ได้ดีกว่าโรงแรมแบบ Family Hotels (ยอดการค้นหาลดลง 25%)

แต่ที่น่าสนใจที่สุดอาจเป็นโรงแรมแบบ Business Hotels เนื่องจากพบว่ามีการเสิร์ชหาเพิ่มขึ้นถึง 40% ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากเทรนด์การทำงานแบบ Bleisure หรือการเดินทางแบบผสมผสานทั้งเดินทางไปเพื่อทำธุรกิจและพักผ่อน รวมถึงการทำงานแบบระยะไกล (Remote Work) จึงทำให้การเสิร์ชหาโรงแรมในลักษณะดังกล่าวเพิ่มขึ้นนั่นเอง

โรงแรมอีกประเภทที่มีการเติบโตก็คือ Art Hotels หรือโรงแรมที่เน้นศิลปะ โดยมีการเสิร์ชหาเพิ่มขึ้นถึง 11% ซึ่งสะท้อนได้อีกแง่ว่า นักท่องเที่ยวกลุ่ม CIS ให้ความสำคัญกับการชมศิลปะด้วยเช่นกัน

“บาทแข็ง” ความท้าทายการท่องเที่ยวไทย

สำหรับความท้าทายด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย คุณเนฮะ ชี้ว่าเรื่องของค่าเงินบาทก็มีผลต่อการตัดสินใจ โดยเฉพาะค่าเงินบาทที่แข็งต่อเนื่อง ทำให้ประเทศคู่แข่งอย่าง “เวียดนาม” ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว CIS เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยหากเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า การเสิร์ชหาประเทศไทยเพิ่มขึ้น 49% ส่วนการเสิร์ชหาประเทศเวียดนามก็เพิ่มขึ้นถึง 39% เลยทีเดียว

การค้นหาที่เพิ่มขึ้นยังส่งผลต่องบโฆษณาออนไลน์ โดยพบว่า ผู้ประกอบการท่องเที่ยวมีการเพิ่มงบโฆษณาออนไลน์ให้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยโฆษณาเชิงประสิทธิภาพที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวไทยจากกลุ่ม CIS โตขึ้น 44% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังพบว่า ผู้ประกอบการไทยเริ่มให้ความสำคัญกับเครื่องมือ AI ที่สามารถสร้างเนื้อหาให้สอดคล้องกับบริบทของผู้ใช้ภาษารัสเซียได้อย่างลึกซึ้งด้วย

 

เปิดอินไซต์ นทท. กลุ่ม CIS เน้นใช้ YouTube-Instagram พบเที่ยวไทยอันดับ 5 แซงอินเดีย

 


แชร์ :

You may also like