กรณีการถูกโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดกับบริษัทอาซาฮี (Asahi) ผู้ผลิตเบียร์ยี่ห้อดังจากญี่ปุ่นรุนแรงกว่าที่คิด โดยถึงตอนนี้ บริษัทยังไม่สามารถฟื้นฟูระบบจัดส่งผลิตภัณฑ์ให้กลับมาใช้งานได้เต็มขั้น แถมยังต้องเลื่อนการประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุดออกไปด้วย
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดของบริษัทอาซาฮีที่สามารถทำได้ก็คือ การจัดงานแถลงข่าวขออภัยต่อลูกค้าและพาร์ทเนอร์ พร้อมอธิบายถึงสถานการณ์ล่าสุดในเวลานี้ ว่าบริษัทกำลังพัฒนาระบบขึ้นมาใหม่ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จหลังจากเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า (บริษัทใช้คำว่า After February)
ส่วนข้อมูลลูกค้า พบว่าถูกแฮกเกอร์เข้าถึงไปทั้งสิ้น 1,914,000 บัญชี แต่ทางอาซาฮีระบุด้วยว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่รวมถึงข้อมูลบัตรเครดิตแต่อย่างใด นอกจากนั้น ทางบริษัทยังตัดสินใจเลื่อนการประกาศผลประกอบการของไตรมาสนี้ (สิ้นสุดเดือนธันวาคม) ออกไปก่อนด้วย โดยคุณอัตสึชิ คัตสึกิ (Atsushi Katsuki) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของทางกลุ่มได้ยืนยันว่า แม้ไม่ได้ประกาศผลประกอบการ แต่กำไร และรายได้ของอาซาฮีในญี่ปุ่นและเอเชียตะวันออกคาดว่าจะลดลงอย่างแน่นอนจากการโจมตีดังกล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เผยผลประกอบการบางส่วน นั่นคือผลประกอบการ 9 เดือนแรกในสหภาพยุโรปที่พบว่า ลดลง 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่ยอดขายของกลุ่มเอเชียแปซิฟิกเพิ่มขึ้น 3.1% (ตัวเลขของญี่ปุ่นและเอเชียตะวันออกยังไม่สามารถสรุปได้เนื่องจากการโจมตีทางไซเบอร์ มีเพียงตัวเลขจากบริษัทในเครืออย่าง Asahi Breweries ที่ประกาศยอดขายเบื้องต้นประจำเดือนตุลาคมออกมา และพบว่าลดลง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน)
ทั้งนี้ กลุ่มอาชญากร Qilin ได้ออกมาอ้างว่าเป็นผู้โจมตีบริษัทอาซาฮี โดยระบุว่าได้ขโมยไฟล์อย่างน้อย 9,300 ไฟล์ และข้อมูล 27 กิกะไบต์ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทไปด้วย ส่วนทางบริษัทเผยว่า ไม่ได้ติดต่อกับกลุ่มอาชญากรนี้ และเสริมว่าไม่มีการจ่ายเงิน แม้ว่าจะมีการเรียกร้องเงินค่าไถ่เข้ามาก็ตาม
ส่วนการดำเนินงานของอาซาฮีในญี่ปุ่นระหว่างที่พัฒนาระบบใหม่ พบว่าเป็นการทำงานแบบออฟไลน์ นั่นคือ พนักงานรับคำสั่งซื้อจากผู้ค้าส่งและผู้ค้าปลีกทางโทรศัพท์หรือแฟกซ์ จากนั้น สำนักงานขายแต่ละแห่งจะบันทึกรายละเอียดลงในโปรแกรมสเปรดชีต และส่งให้ฝ่ายผลิตเป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้องต่อไป




