จากแนวโน้มจีดีพีประเทศไทยโตต่ำ 2-3% กระทบกำลังซื้อตลาดอสังหาฯ กลุ่มที่อยู่อาศัย จากแบงก์เข้มงวดปล่อยสินเชื่อ รวมทั้งลูกค้าจีนหดหาย
“พฤกษา โฮลดิ้ง” ที่มีพอร์ตรายได้กลุ่มที่อยู่อาศัย 70% จึงปรับตัว สร้าง New S-Curve ต่อยอดประสบการณ์ 30 ปี เปิดตัว “อินโน โฮม คอนสตรัคชั่น” (IHC) ลุย 3 ธุรกิจ 1.ก่อสร้าง แบรนด์ IHC 2.ธุรกิจรับสร้างบ้าน Plantnery และ 3. ธุรกิจอพาร์ทเม้นต์ แบรนด์ iPlearn (ไอเพลิน) เดินหน้าสร้างแหล่งรายได้ใหม่
คุณปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินโน โฮม คอนสตรัคชั่น จำกัด (IHC) กล่าวว่าการเปิดตัว IHC ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมกลยุทธ์สร้างความเติบโตใหม่ของ “พฤกษา” เพื่อต่อยอดพอร์ตธุรกิจ สร้าง Ecosystem ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำของการอยู่อาศัย ครอบคลุมตั้งแต่วัสดุ การก่อสร้าง ที่อยู่อาศัย ไปจนถึงการลงทุนในอนาคต ปักหมุด New S-Curve ใหม่จากผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาฯ สู่การเป็นผู้นำที่ให้บริการด้านการก่อสร้างและที่อยู่อาศัยครบวงจร โดยมี 3 ธุรกิจดังนี้
1. ธุรกิจก่อสร้าง แบรนด์ IHC
ตลาดอสังหาฯ ที่อยู่อาศัยมูลค่า 3 แสนล้านบาท สัดส่วน 70% เป็นของรายใหญ่ อีก 30% มูลค่า 1 แสนล้านบาท เป็นของผู้ประกอบการอสังหาฯ รายเล็กและกลาง ถือเป็นที่น่าสนใจ และเป็นโอกาสที่ IHC จะเข้าไปจับตลาดนี้ เพื่อรับงานก่อสร้างของบริษัทขนาดกลางและเล็ก ที่ไม่มีทีมก่อสร้างเองเพราะต้องใช้คนจำนวนมากและมีปัญหาแรงงาน
โมเดลธุรกิจก่อสร้าง IHC รับงานก่อสร้างทั้ง อพาร์ตเมนต์ โรงแรม หอพัก โฮมออฟฟิศ คลังสินค้า โรงงาน โดยมีพฤกษาเป็นลูกค้ารายใหญ่ ลูกค้า B2B และ SME โดยมีจุดเด่นที่มีซัพพลายเชนขนาดใหญ่ มีซัพพลายเออร์ท็อป5 ผู้รับเหมารายใหญ่ และผู้รับเหมาที่เติบโตกับพฤกษามา 30 ปี จึงมาจับคู่กับความต้องการของลูกค้า B2B
IHC เป็น One Stop Service Solution ให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ (Feasibility) แนะนำโมเดลธุรกิจ การตั้งราคาสินค้า การกำหนดต้นทุน ประเมินผลกำไร ที่เหมาะสมกับการแข่งขันในตลาด การออกแบบงานสถาปัตยกรรม ไปจนถึงการบริหารงานก่อสร้าง และบริการหลังการขาย
โดยมีทีมก่อสร้างที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี มากกว่า 60 ทีม มี Capacity ในการก่อสร้างทาวน์เฮาส์ หรือบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ได้ถึง 700 หลังต่อเดือน
2. ธุรกิจรับสร้างบ้าน แบรนด์ Plantnery
ธุรกิจรับสร้างบ้าน ภายใต้แบรนด์ Plantnery by PRUKSA เจาะกลุ่มลูกค้า B2C จากเห็นโอกาสตลาดรับสร้างบ้านที่มีมูลค่ารวม 130,000 ล้านบาท มีผู้ประกอบการรายใหญ่ครองสัดส่วนเพียง 10% หรือประมาณ 15,000 ล้านบาท และมีผู้ประกอบการรายกลางและเล็กจำนวนมาก หรือ 90% มูลค่ากว่าแสนล้านบาท จึงน่าสนใจจะเข้าไปเจาะตลาดกลุ่มนี้
หากดู Pain point ที่ทำให้ตลาดรับสร้างบ้านไม่เติบโต มาจากปัญหาแรงงาน การทิ้งงานของผู้รับเหมา การทำมาร์เก็ตติ้ง
ธุรกิจรับสร้างบ้านของพฤกษาจะใช้จุดเด่นเข้าไปทำตลาด คือ ทีมช่างมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในการสร้างบ้านมาแล้วกว่า 200,000 หลัง พร้อมการรับประกันงานโครงสร้าง 20 ปี มีราคาชัดเจนงบไม่บานปลาย สร้างเสร็จเร็วภายใน 6 เดือน การันตีไม่ทิ้งงาน รวมถึงมีบริการ One-Stop Service และแบบบ้านที่มีให้เลือกกว่า 100 แบบ ตั้งแต่แบบบ้านมาตรฐาน การ Customize การออกแบบใหม่ ไปจนถึงการก่อสร้างตามแบบของลูกค้า
ในธุรกิจรับสร้างบ้าน ลูกค้า B2C มีความหลากหลาย ช่วงแรกจึงโฟกัสกลุ่มลูกค้าสร้างบ้านราคา 10-30 ล้านบาท เป็นกลุ่มเจ้าของกิจการเอสเอ็มอี ซีอีโอ ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ
ส่วนบ้านต่ำกว่า 5 ล้านบาท กำลังพัฒนาโมเดลสำเร็จรูปยกมาก่อสร้างทั้งหลังภายใน 7 วัน โดยธุรกิจรับสร้างบ้าน Plantnery เจาะลูกค้าระดับกลางถึงบนในราคา 3 ถึง 20 ล้านบาท ในเซกเมนต์เดียวกัน Plantnery ทำราคารับสร้างบ้านได้ต่ำกว่าคู่แข่ง 10%
ธุรกิจรับสร้างบ้าน วางเป้าหมายรายได้ปี 2026 อยูที่ 1,000 ล้านบาท ปี 2030 รายได้ 2,500 ล้านบาท และปี 2035 รายได้ 5,000 ล้านบาท
3. ธุรกิจอพาร์ตเมนต์ แบรนด์ iPlearn (ไอเพลิน)
ธุรกิจอพาร์ตเมนต์เป็นอีกตลาดที่น่าสนใจ เพราะสร้างรายได้ประจำ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีจำนวน 8 แสนหน่วย มูลค่าตลาด 30,000 ล้านบาท
พฤกษา มีความเชี่ยวชาญจากการทำคอนโดตลาดแมสแบรนด์ Plum จึงขยายสู่ธุรกิจให้เช่า เปิดตัวครั้งแรกภายใต้แบรนด์ iPlearn เป็นที่อยู่อาศัยให้เช่า รองรับการอยู่อาศัยยุคใหม่ โดยเฉพาะเทรนด์ Gen Z ที่เป็นกำลังซื้อหลัก นิยมเช่าที่พักอาศัย ไม่เน้นซื้อ
ธุรกิจอพาร์ตเมนต์ ปี 2025 นำร่องเปิดตัว 3 ตึก ทำเล ลำลูกกา, รังสิต–คลอง 2, และบ่อวิน (จ.ระยอง) ส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่าของพฤกษา ลงทุนตึกละ 20 ล้านบาท จำนวนตึกละ 80 ห้อง ที่ดินขนาดครึ่งไร่ แต่ทำเลมหาวิทยาลัย จะมีที่ดินขนาดใหญ่ขึ้น เพราะมีแผนทำคอนโดขายราคายูนิตละ 6-7 แสนบาท (ราคาต่ำกว่า Plum ที่ 2 ล้านบาท)
ปี 2026 วางแผนสร้าง 100 ตึก เป็นที่ดินพฤกษา 30% เน้นทำเลมหาวิทยาลัย ภายใน 3 ปี มีจำนวน 10,000 ห้อง และเป้าหมายปี 2029 มี 316 อาคาร (ลงทุนรวม 6,000 ล้านบาท) รายได้ค่าเช่า 640 ล้านบาท และจะนำทรัพย์สินอพาร์ตเมนต์เข้ากองรีท 50%
อพาร์ตเมนต์ iPlearn จับกลุ่มผู้เช่าหลากหลายตั้งแต่ พนักงานโรงงาน (Blue Collar) 35% ราคาค่าเช่า 2,000-3,000 บาทต่อเดือน / นักศึกษา 40% ราคาค่าเช่า 4,000-5,000 บาทต่อเดือน และพนักงานออฟฟิศ (White Collar) 25% ราคาค่าเช่า 8,000 – 10,000 บาทต่อเดือน
กลุ่มธุรกิจ IHC ทั้ง 3 ธุรกิจ วางแผน IPO เมื่อมีรายได้ 10,000 ล้านบาท
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE