MALEE ผู้นำตลาดน้ำผลไม้พรีเมียมอันดับ 1 ที่ครองใจผู้บริโภคมากว่า 47 ปี กำลังก้าวสู่การทรานส์ฟอร์มครั้งสำคัญ ด้วยการประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ Beyond Fruit to Global Wellbeing เพื่อเปลี่ยนผ่านจากบริษัทน้ำผลไม้ สู่ Global Wellbeing Company ภายในปี 2571 โดยมุ่งมอบสุขภาวะที่ดีทั้งสุขภาพและความสุขของคนทั้งโลก (Healthier & Happier) ซึ่งบริษัทวางเป้ารายได้เติบโต 10-15% ต่อปี พร้อมปลุกพลังองค์กรด้วยแนวคิด One MALEE หลอมรวมทุกคนเป็นหนึ่งเดียวเพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมายเดียวกัน
ส่งมอบมากกว่าน้ำผลไม้ แต่เป็น “สุขภาวะที่ดี”
คำว่าสุขภาวะ (Wellbeing) คือหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนธุรกิจของ MALEE ในทุกมิติ สะท้อนว่าบริษัทไม่ได้มองตัวเองเป็นแค่ผู้ผลิตน้ำผลไม้ แต่เป็นองค์กรที่เชื่อในพลังจากธรรมชาติจากพืชและนมเพื่อสร้างสุขภาพที่ดีและความสุข โดยบริษัทจัดพอร์ตโฟลิโอสินค้าแบบแบ่งกลุ่มตามความต้องการ (Need-based Segmentation) ตั้งแต่กลุ่ม Enjoyable (ผลไม้กระป๋อง, Malee Tropical) กลุ่ม Consumer’s Needs เพื่อสุขภาพ (Malee Signature, Malee Premium, Malee Coco) ไปจนถึงกลุ่ม Functional (Malee Coco LIPOSOS, Malee Power Plants) ภายใต้คอนเซ็ปต์ของการมีความสุขและสุขภาพที่ดีขึ้น ผ่านนวัตกรรมที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ
นอกจากนี้ ยังมี MALEE Applied Science (MAS) บริษัทลูกที่เป็นหน่วยงานวิจัยและพัฒนาที่มีความเชี่ยวชาญใน 4 ด้านคือ เทคโนโลยีการเกษตร เทคโนโลยีอาหาร นาโนเทคโนโลยี และเทคโนโลยีชีวภาพ โดยกำลังสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม อย่าง Malee COCO – LIPOSOS และ Malee Power Plants มีนวัตกรรม INNOGUTZ พร้อมสร้างรายได้ใหม่จากการขายส่วนผสมสำหรับเครื่องสำอางและการนำของเสียกลับมาใช้ใหม่ในรูปแบบที่มีมูลค่าสูงขึ้น
กลยุทธ์ทรานส์ฟอร์ม 3 ระยะ ด้วย 5 เสาหลัก
MALEE ได้วางแผนการทรานส์ฟอร์มธุรกิจใน 3 ระยะ โดยในปี 2568 เป็นช่วงของการเสริมรากฐานธุรกิจและปรับพอร์ตโฟลิโอใหม่ จากนั้นช่วงปี 2569-2570 เป็นการเร่งสร้างนวัตกรรมและขยายตลาดต่างประเทศเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และมุ่งหวังจะบรรลุเป้าหมายการเป็น Global Wellbeing Company ในปี 2571 ด้วยการขับเคลื่อนผ่าน 5 เสาหลัก ดังนี้
1) เร่งการเติบโตของแบรนด์ตัวเอง สร้างการรับรู้แบรนด์ และขยายช่องทางจำหน่ายทั้งออนไลน์และร้านอาหาร โดยในปีหน้า MALEE มีแผนออกสินค้าใหม่ (New Product Development: NPD) ที่อยู่นอกกลุ่มน้ำผักผลไม้ เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอและตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคที่หลากหลายมากขึ้น และตั้งเป้าในการออกสินค้าใหม่ 2-3 รายการต่อปี
2) เสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจรับจ้างผลิต (CMG) เป็นพันธมิตรที่ได้รับเลือกอันดับแรกและให้โซลูชันด้านความยั่งยืน
3) เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน บริหารต้นทุนผ่านระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยี รวมถึงการใช้พลังงานหมุนเวียนจากแสงอาทิตย์ที่มีศักยภาพลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 780 ตันต่อปี
4) ยกระดับธุรกิจภายใต้การนำของ MAS เพื่อสร้างนวัตกรรมและขยายธุรกิจ นอกเหนือจากธุรกิจหลัก
5) ปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กร 3 ด้านคือ ความร่วมมือเพื่อชัยชนะทางธุรกิจ ทัศนคติในความเป็นเจ้าของ และภาวะผู้นำที่มีเป้าหมาย
ความเหนือชั้นด้านความสามารถในการแข่งขันและการรักษาผู้นำตลาด
ปัจจุบัน MALEE มีโรงงานผลิตรวม 3 แห่ง กำลังการผลิต 749 ล้านลิตร พร้อมอัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate) ที่ระดับ 62.8% ในปีที่ผ่านมา โดยมีความสามารถในการผลิตครบวงจร ตั้งแต่กล่อง UHT, กระป๋อง, ขวด PET และซอง ครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลากหลายภายใต้มาตรฐานระดับโลก ทำให้บริษัทได้รับความไว้ใจจากพาร์ตเนอร์ชั้นนำมาร่วมงาน ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับภูมิภาคและระดับโลก
สำหรับการรักษาความเป็นผู้นำ บริษัทครองผู้นำตลาดน้ำผลไม้พรีเมียมอันดับ 1 และผู้นำตลาดน้ำมะพร้าว โดยใช้กลยุทธ์การสร้างแบรนด์กับแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่าง Zhang Linghe สื่อสารในคอนเซ็ปต์ Malee Coco, Zhang Linghe’s Item และเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับโลก พร้อมขยายช่องทางครบทุก Touch Point ทั้งซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร และออนไลน์ (Shopee, Lazada, TikTok Shop)
กระโจนสู่เวทีโลกใน 4 ตลาดเป้าหมาย
การขยายตลาดต่างประเทศเป็นกลยุทธ์สำคัญของ MALEE โดยบริษัทโฟกัสใน 4 ตลาดเป้าหมาย คือ
1) จีน ตลาดน้ำมะพร้าว 502.8 ล้าน USD จำนวนประชากร 1,410 ล้านคน
2) ตะวันออกกลาง ตลาดน้ำผลไม้ 5.0 พันล้าน USD จำนวนประชากร 377 ล้านคน
3) อินโดนีเซีย ตลาดน้ำผลไม้ 0.5 พันล้าน USD จำนวนประชากร 283 ล้านคน
4) เกาหลีใต้ ตลาดน้ำมะพร้าว 5.8 ล้าน USD จำนวนประชากร 52 ล้านคน
ซึ่งการขยายสู่ตลาดต่างประเทศนั้น บริษัทใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายตั้งแต่กิจกรรมการสร้างแบรนด์ การคัดเลือกตลาด การปรับพอร์ตโฟลิโอให้เหมาะสม และการหาพันธมิตรที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งในตลาดใหม่ ๆ
ESG หัวใจของการเติบโตอย่างยั่งยืน
MALEE มุ่งมั่นสร้างคุณค่าผ่านกรอบ ESG ในทุกมิติ เริ่มจากด้านสิ่งแวดล้อมที่บริษัทเน้นพัฒนาบรรจุภัณฑ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำเทคโนโลยีรีไซเคิลของเสียมาใช้ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร ส่วนด้านสังคม MALEE จะสร้างความรู้ความเข้าใจกับชุมชน มีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการบริจาคน้ำผลไม้รวมกว่า 50,000+ กล่อง ขณะที่ด้านธรรมาภิบาล MALEE เน้นการเสริมสร้างความรู้พนักงาน สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับหน่วยงานภาครัฐ และสร้างการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความไว้วางใจ
เป้าหมายสู่ Global Wellbeing Company ภายในปี 2571
ภายในปี 2571 นี้ MALEE คาดว่าจะบรรลุเป้าหมายการเป็น Global Wellbeing Company เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับและเป็นพันธมิตรในซัพพลายเชนที่ยั่งยืนและน่าเชื่อถือ โดยมีสัดส่วนของ Own Brand 55% และธุรกิจ CMG 45% พร้อมอัตราการเติบโตของรายได้ที่ 10-15% ต่อปี การเดินทางครั้งนี้ถือเป็นการสร้างมูลค่าให้กับทุกภาคส่วน ตั้งแต่ผู้บริโภค ชุมชน สิ่งแวดล้อม ไปจนถึงผู้ถือหุ้นของบริษัท ซึ่งเป็นคำมั่นสัญญาของ MALEE ในการส่งมอบสุขภาวะที่ดีทั้งสุขภาพและความสุขของคนทั้งโลกอย่างแท้จริง






