คุณเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
กรุงศรี เปิดแนวคิดการพัฒนานวัตกรรมด้านไอทีผ่าน Krungsri Tech Day 2025 พร้อมชูความสำเร็จล่าสุดในการเชื่อม API กับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB เป็นธนาคารแรกของไทย ที่ทำให้ลดเวลาในการประสานงานด้านคดี – อาชญากรรมออนไลน์ได้ จากเดิมที่ต้องใช้เวลาหลายวันเหลือเพียงหลักนาที
ขณะที่กลยุทธ์ทางด้านเทคโนโลยีของธนาคารในปีนี้ คุณสายสุนีย์ หาญประเทืองศิลป์ ประธานกลุ่มสนับสนุนธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีควบคู่กับการเสริมศักยภาพของผู้คน ควบคู่กับการจัดตั้งหน่วยงานที่เป็นศูนย์กลางด้านการพัฒนาและผลักดันการใช้ AI พร้อมวางกรอบธรรมาภิบาลด้าน AI เพื่อให้การนำเทคโนโลยีมาใช้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างมีจริยธรรม โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 เสาหลักได้แก่
Technology Simplicity
Technology Simplicity หรือการพัฒนาเทคโนโลยีให้ง่าย และสะดวกขึ้นโดยอิงจากประสบการณ์ของลูกค้าเป็นสำคัญ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระยะ ได้แก่
- Leaner – ปรับโครงสร้างพื้นฐานให้เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการนำระบบ Hybrid Cloud มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการแอปพลิเคชัน รวมถึงโปรแกรม Jupiter ที่เป็นโครงการต่อเนื่องเพื่อทรานส์ฟอร์มระบบ Core Banking สำหรับรองรับการเติบโตในระยะยาว
- Simpler – ยกระดับการดำเนินงานด้วยระบบอัตโนมัติ ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น เพิ่มความเร็วในการให้บริการ และลดต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ และ
- Ahead of Business – นำเทคโนโลยี AI เข้ามาเสริมในกระบวนการทำงาน เพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้า เพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ และสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจในระยะยาว
ผู้บริหารกรุงศรีเผยด้วยว่า ผลลัพธ์จากการทรานส์ฟอร์มดังกล่าว ช่วยให้ระบบปฏิบัติงานหลักของธนาคารทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สร้างความยืนหยุ่นในการการเชื่อมโยงระหว่างแอปพลิเคชันหน้าบ้านและระบบหลังบ้าน ลดต้นทุนด้านการพัฒนาและบำรุงรักษา อีกทั้งยังช่วยปรับปรุงโครงสร้างระบบสถาปัตยกรรมไอทีให้เป็นรูปแบบ “Microservices” เกิดเป็น Hub ย่อย ที่สามารถต่อยอดการทำงานภายในและต่อยอดเป็นโซลูชั่นส์เพื่อให้บริการลูกค้าได้
โดยในปีที่ผ่านมา กรุงศรีช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าธุรกิจโรงงานน้ำตาลและเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยโดยร่วมพัฒนาระบบการขายลดเช็คให้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่าน Payment Hub ทำให้ขั้นตอนการรับซื้อลดสิทธิรับเงินค่าเช็คเกี๊ยว/เช็คอ้อยทำได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเอกสารเช็คอีกต่อไป ช่วยลดต้นทุนและช่วยให้เกษตรกรได้รับเงินเร็วขึ้นจากเดิม 2 วัน เหลือเพียง 3–5 นาที
เสริมธุรกิจด้วยโซลูชันด้านการเงิน
คุณรถพร เอกบุตร ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านดิจิทัลและนวัตกรรม ขณะกล่าวถึงโซลูชันด้านการเงินในงาน Krungsri Tech Day 2025
นอกจากพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสบการณ์เชิงบวกในการใช้งานของลูกค้าแล้ว ในส่วนของธุรกิจ ทางกรุงศรีเผยว่า ได้มีการพัฒนาเครื่องมือด้านการเงินในรูปแบบต่าง ๆ ที่ครอบคลุมตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานทางการเงินเพื่อธุรกิจ ไปจนถึง บริการทางการเงินที่เชื่อมต่อเข้ากับแพลตฟอร์มขององค์กรได้โดยตรง ทั้งหมดนี้ออกแบบให้เชื่อมต่อง่าย ปลอดภัย และพร้อมใช้งานทันที
การใช้ AI อย่างยั่งยืน
อีกหนึ่งกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีคือ Sustainable AI ซึ่งผู้บริหารของกรุงศรีเผยว่า ได้มีการจัดตั้งหน่วยงานศูนย์กลางด้าน AI (AI COE) พร้อมกรอบ AI Governance ที่เป็นรูปธรรม ครอบคลุมกระบวนการ คัดเลือกและจัดลำดับความสำคัญของ Use Case ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์องค์กร ซึ่งเป้าหมายก็คือการใช้งาน Traditional AI/ML, Generative AI และ Agentic AI อย่างเป็นระบบ โปร่งใส และสร้างคุณค่าจริงทั้งต่อธุรกิจและลูกค้า
นอกจากนั้น ภายในองค์กร กรุงศรีได้นำ GenAI มาใช้ร่วมกับการวิเคราะห์เชิงลึก เช่น AI ประเมินมูลค่าสินทรัพย์ บนโครงสร้างข้อมูลที่ถูกกำกับดูแล หรือการยกระดับประสบการณ์อนุมัติสินเชื่อและงานรับประกันความเสี่ยง (underwriting) ให้ปลอดภัยมากขึ้นด้วยโมเดล Fraud Score พร้อมใช้โมเดล Customer Lifetime Value และ Churn Prevention เพื่อการดูแลเชิงรุก และสามารถให้ข้อเสนอที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น
การใช้ AI ในรูปแบบต่าง ๆ ของกรุงศรี
เชื่อม API กับ CIB รับมืออาชญากรออนไลน์
อีกหนึ่งความสำเร็จที่กรุงศรีริเริ่มเป็นธนาคารแรกของไทยคือการเชื่อม API กับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB แบบเรียลไทม์ ทำให้การอายัดบัญชีต้องสงสัยสามารถทำได้รวดเร็วขึ้น จากเดิมต้องใช้เวลาหลายวัน เหลือเพียงหลักนาที และช่วยเพิ่มโอกาสในการได้เงินคืนจากอาชญากรออนไลน์มีมากขึ้น
คุณตุลย์ โรจน์เสรี ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านข้อมูลและการวิเคราะห์ระดับองค์กรกล่าวถึงความร่วมมือกับ CIB ว่า ในอดีตมีการขอความร่วมมือจากตำรวจ แต่ต้องมีการขอหมาย และไปที่สาขา ฯลฯ ซึ่งใช้เวลาและมีความเสี่ยงที่ข้อมูลจะรั่วไหล แต่การเชื่อม API สามารถลดขั้นตอนต่าง ๆ เหล่านี้ลงได้ และมีความปลอดภัยด้านข้อมูลสูง สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ด้วย
นอกจากนั้น ยังมีการพัฒนาแดชบอร์ดสำหรับแสดงผลคดีที่เกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ (แสดงผลทุกธนาคาร) เพื่อให้ได้เห็น Movement ของมิจฉาชีพ และทำให้เจ้าหน้าที่สามารถรับมือได้ดีขึ้น สุดท้ายคือการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน เพื่อพัฒนาโมเดล AI ด้านการตรวจจับให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
คุณตุลย์ โรจน์เสรี ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านข้อมูลและการวิเคราะห์ระดับองค์กร ขณะกล่าวถึงการทำงานร่วมกับ CIB
เตรียมลงทุนสตาร์ทอัพ
ส่วนภาพรวมด้านการลงทุนสตาร์ทอัพของไทยนั้น คุณสายสุนีย์ ระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยอาจไม่ค่อยดีนัก ทำให้โอกาสในการเติบโตของสตาร์ทอัพไทยมีน้อยตามไปด้วย ซึ่งในส่วนของธนาคารกรุงศรีเอง คุณสายสุนีย์ชี้ว่า มีความพยายามช่วยเหลือสตาร์ทอัพไทยผ่านการ Coaching ตลอดจนการให้องค์ความรู้ต่าง ๆ
ขณะที่เม็ดเงินที่ลงทุนกับสตาร์ทอัพนั้น ไม่ได้มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการในงาน Krungsri Tech Day แต่อย่างใด โดยคุณสายสุนีย์กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทอยู่ระหว่างการวางแผนด้านการลงทุนของปี 2026 จึงอาจใช้เวลาอีกสักระยะกว่าจะประกาศตัวเลขการลงทุนสตาร์ทอัพที่ชัดเจนได้ แต่ยืนยันว่าจะมีการลงทุนแน่นอน ส่วนงบประมาณที่จะลงทุนเพิ่มในส่วนของไอทีของปีนี้นั้น คุณสายสุนีย์ระบุว่า อยู่ที่ 10,000 ล้านบาท
ด้านคุณเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวปิดท้าย ถึงความสำคัญของเทคโนโลยีว่า การ Transformation เป็นสิ่งที่ต้องทำ โดยกรุงศรีจะลงทุนใน Cutting Edge Technology เพื่อทำให้การบริการทางการเงินในชีวิตประจำวันและการทำธุรกิจง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น และปลอดภัยยิ่งขึ้น และเพื่อก้าวสู่การเป็นธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน ที่พร้อมสนับสนุนธุรกิจและชุมชนให้เติบโตไปด้วยกัน