จากจุดเริ่มต้นร้านแลกเงินเล็กๆ ในชื่อ “จิตวานิช” หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ก่อตั้งโดยคุณวิบูลย์ และคุณพจมาลย์ ตันติเวชยานนท์ ต่อมาในปี 2508 เปลี่ยนชื่อเป็น SuperRich (สีส้ม) ถือเป็นออริจินัลแบรนด์แห่งแรกในประเทศไทย
ในปี 2540 ทายาทเจน 2 รับไม้ต่อวางระบบใหม่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาให้บริการ เปิดตัวเว็บไซต์โชว์อัตราแลกเงินแบบเรียลไทม์ ขยายสาขาในศูนย์การค้าและสถานีรถไฟฟ้าเป็นรายแรก ด้วยแนวคิด “ร้านสะดวกซื้อทางการเงิน” เพื่อให้นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติเข้าถึงได้ง่าย
ปี 2568 ซุปเปอร์ริช 1965 (สีส้ม) ครบรอบ 60 ปี เสริมทัพทายาทเจน 3 เตรียมรุกบริการ e-Wallet รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งเป้าดันยอดแลกเงินทะลุ 100,000 ล้านบาท ในปี 2570
คุณปิยะ ตันติเวชยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ริช เคอเรนซี่ เอ็กซ์เชนจ์ (1965) จำกัด ผู้บริหารรุ่นที่ 2 กล่าวว่า ซุปเปอร์ริช 1965 (สีส้ม) ถือเป็นผู้นำอันดับ 1 การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของไทย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนอกระบบธนาคาร (Non-bank Foreign Exchange Service) ก่อนโควิด ปี 2562 มียอดแลกเงินราว 100,000 ล้านบาท
ต่อมาในช่วงวิกฤตโควิด-19 (ปลายปี 2562 – 2564) ธุรกิจได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวที่หยุดชะงัก ยอดแลกเงินปี 2563 ลดลงเหลือ 30,512 ล้านบาท และปี 2564 อยู่ที่ 11,520 ล้านบาท ช่วงนั้นต้องปรับกลยุทธ์ด้วยการคงสาขาที่มีศักยภาพและบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ
หลังจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว พฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไปสู่สังคมไร้เงินสด ทั้งคนไทยและต่างชาติแลกเงินสดเพื่อพกไปท่องเที่ยวลดลง จากเฉลี่ยรายละ 100,000 บาท เหลือ 20,000 บาท โดยหันไปใช้ e-Wallet และ Travel Card แทนพกเงินสดเพื่อลดความเสี่ยงแทน
บริษัทจึงลงทุนจัดตั้ง บริษัท ซุปเปอร์ริช ดิจิทัล จำกัด เพื่อนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่มาพัฒนาโซลูซัน Electronic Payment รองรับบริการ e-Wallet กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมเดินหน้ายุทธศาสตร์ Digital Transformation ด้วยกลยุทธ์ Omnichannel เชื่อมบริการช่องทางออนไลน์และออฟไลน์หน้าสาขา ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการได้สะดวกและปลอดภัย ถือเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความสามารถในการแข่งขันในยุคสังคมไร้เงินสด
“พฤติกรรมนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศยังพกเงินสดติดตัวแต่จำนวนลดลง เพราะการซื้อสินค้าในร้านขนาดเล็ก รวมทั้งร้านอาหารยังต้องใช้เงินสด ซุปเปอร์ริช (สีส้ม) จึงยังมองโอกาสขยายสาขาเพิ่มและให้บริการ e-Wallet”
รุกบริการ e-Wallet
คุณณัชชา ปุณณพัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซุปเปอร์ริช เคอเรนซี่ เอ็กซ์เชนจ์ (1965) จำกัด ผู้บริหารรุ่นที่ 3 กล่าวว่าการก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่ของ ซุปเปอร์ริช (สีส้ม) มุ่งกลยุทธ์การตลาดเพื่อยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัยและเข้าถึงลูกค้าทุกเจเนอเรชัน จากผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงิน สู่ “เพื่อนร่วมทาง” (Travel Partner) สื่อสารผ่านมาสคอต “น้องซุปเปอร์” ที่สะท้อนบุคลิกสนุกสนาน เป็นมิตร และเข้าถึงง่าย
เดินหน้าขับเคลื่อนพัฒนาบริการด้านดิจิทัลเชื่อมต่อทุกช่องทางบริการ ตั้งแต่หน้าสาขาถึงออนไลน์ ผ่าน 3 บริการหลัก
1.Branch Excellence ยกระดับบริการสาขาให้สะดวกและรวดเร็ว พร้อมเครือข่ายสาขาครอบคลุมพื้นที่สำคัญทั่วกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่กว่า 40 สาขา ให้บริการ Money Exchange (MC) ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมากกว่า 34 สกุลเงิน และบริการ Money Transfer (MT) โอนและรับเงินระหว่างประเทศ ร่วมกับเครือข่ายระดับสากล อย่าง SPEEDSEND โดยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย และ MoneyGram ครอบคลุมกว่า 200 ประเทศทั่วโลก
2. พัฒนา SuperRich Application โดยออกแบบและพัฒนาแอปพลิเคชัน เพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้ง่ายและปลอดภัย ด้วยบริการ Real-time FX Rates ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนได้ทันที, Online Booking จองหลายสกุลเงินล่วงหน้า พร้อมการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-KYC และมารับได้ที่สาขา โดยไม่ต้องรอคิวหรือกังวลเรื่องไม่มีสกุลเงินที่ต้องการ, Branch Locator ค้นหาสาขาที่ใกล้
3. เตรียมออกบริการใหม่ SuperRich Tourist e-Wallet กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยทีม SuperRich Digital ร่วมมือกับ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา พัฒนาบริการ e-Wallet สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจากทั่วโลกที่มาเยือนประเทศไทย ช่วยให้ใช้จ่ายผ่าน QR Prompt Pay ได้เหมือนคนไทย ลดความกังวลเรื่องการพกเงินสด เปิดตัวในเร็วๆ นี้
SuperRich Tourist e-Wallet มีแผนพัฒนาให้รองรับการชำระเงินและโอนเงินหลายรูปแบบ เชื่อมต่อกับ QR PromptPay ระบบธนาคารพาณิชย์ และบัตรเครดิต VISA ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติใช้งานได้ทันที รวมถึงบริการโอนเงินระหว่างประเทศ (Money Transfer) และชำระเงินข้ามประเทศผ่าน QR Code (Cross Border QR Payment) เพื่อทำธุรกรรมได้สะดวกเทียบเท่า Mobile Banking
นอกจากนี้ยังมีแผนร่วมมือกับ Bitkub เพื่อเชื่อมต่อการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ากับ e-Wallet ตอบโจทย์สังคมไร้เงินสด
ปัจจุบัน ซุปเปอร์ริช (สีส้ม) ให้บริการลูกค้ากว่า 2.4 ล้านรายต่อปี โดย 50% เป็นชาวต่างชาติ 48% เป็นคนไทย และ 2% มาจากการโอนเงินระหว่างประเทศ
สกุลเงินยอดนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่ USD, EUR, JPY, HKD และ TWD ในปี 2567 มีมูลค่าการแลกเปลี่ยนรวม 94,433 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มเป็นกว่า 98,000 ล้านบาทในปี 2568
หลังจากเปิดบริการ SuperRich Tourist e-Wallet จะช่วยผลักดันการเติบโต 20% มูลค่าการแลกเปลี่ยนทะลุ 100,000 ล้านบาท ในปี 2570 โดยยอดแลกเงินที่เติบโตมาจากจำนวนผู้ใช้บริการทั้งคนไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้น แต่จำนวนการแลกเงินสดต่อครั้งลดลงจากพฤติกรรมการใช้จ่ายผ่าน e-Wallet มากขึ้น
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE