บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย “ศรีจันทร์ (SRICHAND)” แบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามสัญชาติไทยไทยที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 76 ปี และแบรนด์ “ศศิ (sasi)” ตอกย้ำความเป็นผู้นำ T-Beauty
ล่าสุดขึ้นแท่นแบรนด์ไทยอันดับ 1 ในหมวดมอยส์เจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวหน้า (Moisturizer for Face) ด้วย “ศรีจันทร์ สกิน มอยส์เจอร์ เบิร์ส เจล ครีม แบบซอง 10 มล.” ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด 3.36% (ข้อมูลจาก NIELSENIQ THAILAND ม.ค. 2025 – มิ.ย. 2025)
ความสำเร็จนี้เกิดจากการเดินหน้าด้วย “4 กลยุทธ์” In-Skin Sachet Strategy ที่ตรงใจผู้บริโภค นำไปสู่การคว้ารางวัล Brand Footprint 2025: Outstanding Brand ในหมวด Facial Care ภายใต้การเก็บข้อมูลของ Worldpanel by Numerator Thailand ผู้นำระดับโลกด้านวิจัยตลาดและวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค
คุณรวิศ หาญอุตสาหะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด กล่าวว่า “ศรีจันทร์” เข้าสู่ตลาดสกินแคร์ตั้งแต่ปี 2021 โดยขยายพอร์ตโฟลิโอเป็น SRICHAND IN-SKIN รวม 12 ผลิตภัณฑ์ และเติบโตแบบก้าวกระโดดในปี 2024
ข้อมูลจาก NIELSENIQ THAILAND ม.ค. – ธ.ค.2024 ชี้ว่าศรีจันทร์สกินแคร์เติบโตถึง 148% เมื่อเทียบกับปี 2023 โดยตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้น 45% ภายในปี 2025 และมีสินค้าที่ขายดีที่สุดในหมวดสกินแคร์คือ “ศรีจันทร์ สกิน มอยส์เจอร์ เบิร์ส เจล ครีม แบบซอง 10 มล.” (Srichand Skin Moisture Burst Gel Cream Sachet 10 ml)
อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ไทยอันดับ 1 ในหมวดมอยส์เจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวหน้า (Moisturizer for Face) โดยมีอัตราการเติบโต 70.9% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดที่เติบโตเพียง 2.73% (ข้อมูลจาก NIELSENIQ THAILAND เทียบระหว่าง ม.ค – มิ.ย. 2024 และ ม.ค – มิ.ย. 2025)
สรุปความสำเร็จในตลาดสกินแคร์ของ “ศรีจันทร์” มาจาก 4 กลยุทธ์ก้าวสู่อันดับ 1 ที่ครองใจคนไทยดังนี้
1. พัฒนาสูตรด้วย Active Ingredients ที่เห็นผลจริง
คัดสรรสารสกัดประสิทธิภาพสูง เหมาะกับผิวคนไทย เช่น Glyceryl Glucoside, Sodium Hyaluronate (HYA), และ Centella Asiatica (CICA) ให้ผลชุ่มชื้นยาวนาน 72 ชั่วโมง ผ่านการทดสอบจนได้ผลลัพธ์ที่สร้างความประทับใจและซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง
2. ตั้งราคาคุ้มค่า เข้าถึงได้ง่าย มีช่องทางจำหน่ายที่ครอบคลุม
กำหนดราคาที่คุ้มค่ากับคุณภาพและปริมาณ ทำให้ผู้บริโภค สามารถทดลองใช้ได้ง่าย อีกทั้งยังหาซื้อได้สะดวกทุกช่องทาง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
3. สื่อสารการตลาดตรงใจผู้บริโภค
สร้างแคมเปญที่ตอบโจทย์ Insight ของผู้บริโภคอย่างแท้จริง สร้างการรับรู้และการทดลองใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น แคมเปญ “เข้าใจทุกผิวคนไทย” ที่มาจาก Insight ในเรื่องคนไทยมีปัญหาผิวหลากหลายจากสภาพอากาศและไลฟ์สไตล์ ในขณะเดียวกันก็ต้องการแบรนด์เดียวที่ใช้แก้ปัญหาได้ครบ ศรีจันทร์จึงพัฒนาสูตร IN-SKIN ให้ตรงกับทุกสภาพผิว
4. เลือกพรีเซนเตอร์ที่สร้างการเชื่อมโยงกับผู้บริโภค
การเลือก “แบมแบม” ซึ่งเป็นคนไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก ไม่เพียงขยายการรับรู้ แต่ยังสะท้อนภาพลักษณ์ “Modern Classic Thainess” สร้างความเชื่อมโยงกับ Gen Z และกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งกลยุทธ์นี้ช่วยเพิ่มยอดขายถึง +77% เมื่อเทียบผลประกอบการณ์ระหว่าง ม.ค.-มิ.ย. 2024 และ ม.ค.-มิ.ย. 2025 หลังจากได้ “แบมแบม” มาเป็นพรีเซนเตอร์ SRICHAND IN-SKIN
จาก 4 กลยุทธ์นี้ ส่งผลให้ “ศรีจันทร์” พา T-Beauty สู่รางวัล Brand Footprint 2025: Outstanding Brand ในหมวด Facial Care ภายใต้การเก็บข้อมูลของ Worldpanel by Numerator Thailand ผู้นำระดับโลกด้านวิจัยตลาดและวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค
โดยใช้ตัวชี้วัดเฉพาะที่เรียกว่า Consumer Reach Points (CRPs) ในการวัดและเปรียบเทียบ ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 2023 – 29 ธ.ค. 2024 ซึ่ง “ศรีจันทร์” เป็นแบรนด์ไทยเพียงหนึ่งเดียวในหมวด Facial Care ที่มีคะแนน Consumer Reach Points (CRPs) สูงถึง 6.7 ล้านคะแนน เพิ่มขึ้น 4.1 ล้านคะแนนจากในปีก่อนหน้า
ยอดขายของผลิตภัณฑ์ ศรีจันทร์ สกิน มอยส์เจอร์ เบิร์ส เจล ครีม แบบซอง 10 มล. ที่เป็นอันดับ 1 ในหมวดสกินแคร์ และการได้รับรางวัล Brand Footprint 2025 : Outstanding Brand ในหมวด Facial Care สะท้อนถึงความเป็นผู้นำ T-Beauty ของศรีจันทร์ที่มาจากการให้ความสำคัญสูงสุดกับผู้บริโภค
ความสำเร็จนี้ยังได้รับการตอกย้ำด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในหมวด In-Skin อย่าง ศรีจันทร์ แบริเออร์ บูสต์ ซีรี่ย์ (Srichand Barrier Boost Series) ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาของผู้บริโภคไทยยุคใหม่ ที่มีทั้งผิวอ่อนแอ แพ้ง่าย และขาดความชุ่มชื้น โดยชูจุดแข็งด้านนวัตกรรมที่ช่วยสร้างเกราะป้องกันผิว เสริมผิวแข็งแรงภายใน 24 ชั่วโมง จนกลายเป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ ที่ช่วยสะท้อนศักยภาพของศรีจันทร์ในการสร้างนวัตกรรม T-Beauty ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค
“เรามุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ รักษามาตรฐานคุณภาพในทุกขั้นตอน เราจะรักษาความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคมอบให้ และใช้โอกาสนี้ต่อยอด T-Beauty ไปสู่ตลาดต่างประเทศ ภายใต้เป้าหมายการเป็นแบรนด์ไทยระดับสากลที่เป็นความภูมิใจของคนไทย” คุณรวิศ หาญอุตสาหะ กล่าว