HomeBrand Move !!ส่อง Nose Tea คอนเซ็ปต์ Black Signature นิยามใหม่ของคำว่า “พิเศษ” ที่เซ็นทรัล พาร์ค


ส่อง Nose Tea คอนเซ็ปต์ Black Signature นิยามใหม่ของคำว่า “พิเศษ” ที่เซ็นทรัล พาร์ค


แชร์ :

กลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์เครื่องดื่มสัญชาติไทยที่เติบโตครองใจวัยรุ่น วัยทำงานได้อย่างรวดเร็ว สำหรับ  “Nose Tea” หรือ “ชาจมูกเขียว” แบรนด์เครื่องดื่มครีมชีสที่หลายคนคุ้นเคย ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท บริษัท โนส ที (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมี “คุณไผ่-กชณิชา ฐิติชนาโชติ” เป็นผู้ก่อตั้งและ CEO

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

แม้จะเปิดตัวได้เพียง 3 ปี ทว่าเส้นทางการเติบโตของ Nose Tea แบรนด์เครื่องดื่มนี้ต่อยอดมาจากธุรกิจเดิมคือ NAKIZ LIVELY NOSE ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ลอกสิวเสี้ยนที่มีโลโก้เป็นรูปจมูกสีเขียว ก่อนจะแตกไลน์ธุรกิจมาทำแบรนด์ชาผลไม้ครีมชีส กลับสร้างการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยในปี 2567 ที่ผ่านมา สามารถสร้างรายได้ไปแล้วกว่า 297 ล้านบาท

 

 

ล่าสุดกับการเปิดตัวคอนเซ็ปต์สโตร์ล่าสุด “Nose Tea Black Signature” ณ เซ็นทรัล พาร์ค ในวันที่ 4 กันยายนนี้ ชูธงการเป็นสาขาที่ “เข้มข้น” ที่สุด ไม่ใช่ด้วยขนาดพื้นที่ แต่ด้วยแนวคิดและเมนูสุดพิเศษที่อัดแน่นอยู่ในพื้นที่เพียง 36 ตารางเมตร ตอกย้ำกลยุทธ์การสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคในอนาคต

จากพื้นที่สู่ประสบการณ์นิยามใหม่ของสาขาแฟล็กชิป

การเปิดตัวสาขาแฟล็กชิปแห่งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการแข่งขันของตลาดเครื่องดื่ม โดยเฉพาะเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ มัจฉะ ได้รับความนิยมพุ่งสูงต่อเนื่อง Nose Tea เลือกพัฒนาสาขาคอนเซ็ปต์ใหม่ๆที่ให้ความรู้สึกพิเศษแก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการแทนการขยายสาขาขนาดใหญ่เหมือนเช่นในอดีต

“ปัจจุบันพื้นที่แฟล็กชิป ที่ไม่ได้วัดกันที่ความใหญ่ของสาขาแต่วัดด้วยกิจกรรมต่างๆ ภายใต้โจทย์ใหญ่ที่ต้องการสร้างความพิเศษให้ทางแบรนด์กับผู้บริโภคด้วยการต่อยอดกับคอนเซ็ปต์ Black Signature พื้นที่ทดลองรสชาติใหม่ๆ ให้ทุกคนได้ลองชิมแบบไม่มีที่ไหนมาก่อน และเมนูพิเศษครีมชีสงาดำ ที่มีเฉพาะสาขา Black Signature เท่านั้น”

 

 

โดยครั้งนี้ทางแบรนด์ตั้งใจเปลี่ยนนิยามของคำว่า “ยิ่งใหญ่” ให้หมายถึงความยิ่งใหญ่ของ “คอนเซ็ปต์” แทน สาขา “Black Signature” แห่งนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงร้านเครื่องดื่ม แต่คือ บ้านของ Signature’s Series” ที่รวบรวมเมนูซิกเนเจอร์ที่ดีที่สุดไว้ในที่เดียว และที่สำคัญยังทำหน้าที่เป็น ห้องทดลองแห่งรสชาติ (Flavor Laboratory)” ที่จะเป็นเวทีสำหรับเปิดตัวเมนูใหม่ๆ ในอนาคต ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดในการสร้างความพิเศษ (Exclusivity) และดึงดูดให้ผู้บริโภคต้องมาเยือน 

 

ถอดรหัส DNA ความสำเร็จ 3 Layers แห่งความสนุก

อีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ทำให้ Nose Tea ประสบความสำเร็จตลอด 3 ปีที่ผ่านมา คือ DNA ของแบรนด์ที่ชัดเจน ครีมชีสสูตรลับ เอกลักษณ์ที่ทำให้ทุกคนจดจำได้ทันทีที่ลิ้มลอง ประกอบด้วยโครงสร้าง 3 ชั้น (3 Layers): การออกแบบเครื่องดื่มที่สร้างประสบการณ์และความสนุกในทุกคำประกอบด้วย

  • ชั้นล่างสุด (ฐานรองรสชาติ): สร้างความประหลาดใจด้วยส่วนผสมอย่างพานาคอตต้าเนื้อเนียน หรือไข่มุกนุ่มละมุน
  • ชั้นกลาง (หัวใจของรสชาติ): เครื่องดื่มปั่นเนื้อเนียนละเอียดที่มอบรสชาติหลัก
  • ชั้นบนสุด (ลายเซ็น): ครีมชีสอันเป็นเอกลักษณ์ที่ผสานทุกอย่างให้ลงตัว

 

เปิดตัว 2 เมนูใหม่ เขย่าวงการรับเทรนด์กาแฟ-มัจฉะมาแรง

นอกจากนี้เพื่อตอกย้ำแนวคิด “ห้องทดลองรสชาติ” สาขา Black Signature ได้เปิดตัว 2 เมนูใหม่ล่าสุดที่มีจำหน่ายเฉพาะที่นี่ที่เดียว:

  • COFFEE TEA SIGNATURE: การกลับมาตามคำเรียกร้องของเมนูกาแฟที่พิเศษกว่าเดิม ด้วยการเปิดตัว ครีมชีสรสกาแฟ เป็นครั้งแรก ผสานความหอมของเมล็ดกาแฟคั่วและความนุ่มลึกของชาอัสสัม โดยลูกค้าสามารถเลือกระดับความเข้มของกาแฟได้ 3 ระดับ เป็นการเจาะกลุ่มคอกาแฟที่มองหารสชาติใหม่ๆ
  • MATCHA SIGNATURE: ยกระดับกระแสชาเขียวมัทฉะ ด้วยการใช้ มัทฉะเกรดพิธีการ (Ceremonial Grade) สร้างสรรค์ประสบการณ์ 3 ชั้นที่เต็มไปด้วยรสชาติมัทฉะแท้ๆ ตั้งแต่พานาคอตต้ามัทฉะ, มัทฉะปั่นเข้มข้น ไปจนถึงครีมชีสมัทฉะ นับเป็นการสร้างความแตกต่างจากตลาดอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ดีแผนงานของ Nose Tea ไม่ได้หยุดอยู่แค่ความสำเร็จในปัจจุบัน แต่ยังมองการณ์ไกลไปถึงเทรนด์ผู้บริโภคในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยพบว่าผู้บริโภคมีแนวโน้มจะหันมาดื่มชาที่ “จางลง” หรือรสชาติไม่ซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง

“ในอนาคตเราอาจได้เห็นชาใสที่ไม่ใส่อะไรเลย คล้ายกับอเมริกาโน่ เพื่อตอบรับเทรนด์สุขภาพที่ทำให้คนหันมาดื่มชามากขึ้น”คุณไผ่-กชณิชากล่าวทิ้งท้าย


แชร์ :

You may also like