HomeSponsoredถอดสูตร (ไม่) ลับ ที่นำ ‘BEAUTRIUM’ สู่ร้านบิวตี้มัลติแบรนด์ No.1 ของคนไทย

ถอดสูตร (ไม่) ลับ ที่นำ ‘BEAUTRIUM’ สู่ร้านบิวตี้มัลติแบรนด์ No.1 ของคนไทย

แชร์ :

ในโลกค้าปลีกยุคใหม่ “สูตรสำเร็จแบบเดียวใช้ได้กับทุกสาขา” หรือ one-size-fits-all แทบไม่เหลือพื้นที่อีกแล้ว เพราะผู้บริโภคคาดหวังมากกว่าสินค้าที่ดี นั่นคือประสบการณ์ที่สามารถสะท้อนตัวตนและไลฟ์สไตล์เฉพาะกลุ่มได้ ทำให้ “หน้าร้าน” ถูกตีความใหม่ ไม่ใช่เพียงจุดขายสินค้าอีกต่อไป แต่เป็น touchpoint สำคัญที่กำหนดทั้งการรับรู้ของแบรนด์ การกลับมาซื้อซ้ำ และสร้างความผูกพันระยะยาวกับลูกค้า

แน่นอนว่า หนึ่งในตัวแปรที่ยังคงทรงอิทธิพลสำหรับค้าปลีก คือ “ทำเล” แต่คำว่า “ทำเลทอง” ในวันนี้ ไม่ได้หมายถึงแค่การอยู่ในศูนย์การค้าหรือย่านธุรกิจคึกคัก หากแต่คือการเลือกพื้นที่ที่เชื่อมตรงกับเส้นทางการใช้ชีวิตของผู้บริโภค และสามารถเสริมกลยุทธ์ของแบรนด์ได้จริง กรณีของ BEAUTRIUM บิวตี้มัลติแบรนด์สัญชาติไทย จึงถูกยกเป็นตัวอย่างชัดเจน ว่าการวางหมากเลือกทำเลอย่างแยบยล สามารถเปลี่ยน “หน้าร้าน” ให้กลายเป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนการเติบโตท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือดในตลาดความงาม

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

BEAUTRIUM กลยุทธ์เลือกทำเล ที่มองลึกกว่าตัวเลข

หากสังเกตให้ดี จะเห็นว่าการเติบโตของแบรนด์นี้ไม่ได้มาจากแค่การยึดพื้นที่ในห้างดังหรือย่านฮิตเท่านั้น แต่คือการ “เข้าใจ” ว่าผู้บริโภคใช้ชีวิตแบบไหน และเลือกพื้นที่ให้แบรนด์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเหล่านั้น ซึ่ง “ทุกสาขาผ่านการคิดมาแล้วว่า…ที่ตรงนี้ “ใช่” สำหรับลูกค้าของ BEAUTRIUM

BEAUTRIUM ไม่ได้จำกัดตัวเองแค่ร้านขายเครื่องสำอาง แต่เลือกวางจุดยืนเป็น “Lifestyle Destination” ผ่านการเปิดสาขาในศูนย์การค้าที่ผู้คนใช้เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน กลยุทธ์นี้ไม่เพียงการันตี Traffic ที่สูง แต่ยังช่วยให้แบรนด์สอดรับกับไลฟ์สไตล์เฉพาะของผู้บริโภคในแต่ละทำเลได้อย่างลงตัว

สาขาเมกาบางนาเป็นตัวอย่างชัดเจน ด้วยการออกแบบพื้นที่ให้กว้างขวาง ทันสมัย และรองรับการทดลองสินค้าอย่างเต็มที่ พร้อมจัดโซนสินค้าอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่เมกอัพ สกินแคร์ น้ำหอม ไปจนถึงโซนกิจกรรมสำหรับเปิดตัวสินค้าใหม่และโปรโมชันเอ็กซ์คลูซีฟ ขณะที่สาขาเซ็นทรัล พาร์ค ถูกออกแบบให้เชื่อมโยงกับธรรมชาติ สร้างบรรยากาศสงบผ่อนคลายเสมือนโอเอซิสกลางเมือง ตอบโจทย์คนเมืองที่มองหาประสบการณ์ช้อปปิ้งรูปแบบใหม่

นอกจากการออกแบบสาขา BEAUTRIUM ยังเสริมความแข็งแกร่งด้วยการคัดสรรผลิตภัณฑ์ความงามจากไทยและทั่วเอเชีย ทั้งแบรนด์ดังจากเกาหลี จีน ญี่ปุ่น ตลอดจนสินค้าที่กำลังเป็นกระแส เพื่อตอกย้ำจุดยืนการเป็น “ศูนย์รวมบิวตี้ไลฟ์สไตล์” ที่ทันสมัยและหลากหลายที่สุดในตลาด

อีกหัวใจสำคัญ BEAUTRIUM ไม่ใช้สูตรสำเร็จเดียวกันกับทุกสาขา แต่ปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่ เช่น

– Office Building มุ่งตอบโจทย์พนักงานออฟฟิศในย่าน CBD กลยุทธ์หน้าร้านจึงเน้นไปที่การอำนวยความสะดวกรวดเร็ว และมอบภาพลักษณ์ดูดีในที่ทำงาน ด้วยราคาสมเหตุสมผล

– Community Mall โฟกัสหลักจะเป็นผู้บริโภคทั่วไป ครอบครัว วัยรุ่น คนรุ่นใหม่ที่มาเดินเล่นหรือทำกิจกรรมไลฟ์สไตล์ กลยุทธ์หน้าร้านจึงเน้นที่ความเป็นกันเอง เข้าถึงง่าย และเป็นพื้นที่สำหรับผู้ที่ต้องการลองของใหม่ เพื่อประสบการณ์สนุก ๆ ไปกับสินค้าอินเทรนด์ต่าง ๆ ได้เต็มที่

– Tourist Destination กลุ่มเป้าหมายเจาะจงไปที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการของฝาก สินค้าท้องถิ่น หรือสินค้าแบรนด์ดังของไทย กลยุทธ์หน้าร้านจึงเน้นชูสินค้าความงามแบรนด์ไทยที่อยู่ในกระแส รวมทั้งมีการติดตั้งป้ายและสื่อภายในร้านต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษ จีน มลายู เพิ่มความเข้าใจของผู้บริโภคชาวต่างขาติ และมีการปรับเวลาเปิด-ปิดของร้านเพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยว

ความยืดหยุ่นของพื้นที่ หัวใจการเติบโตระยะยาว

อีกหนึ่งจุดแข็งของ BEAUTRIUM คือการเลือกโลเคชันที่สามารถ “ปรับขยาย” ได้ในอนาคต เพื่อรองรับกิจกรรมทางการตลาด เช่น พื้นที่สำหรับเวิร์กชอป หรือกิจกรรมที่สร้างประสบการณ์ร่วมกับลูกค้า หรือการเปิดBEAUTRIUM EXPERIENCE ZONE ที่ยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งให้กลายเป็นพื้นที่ทดลองสินค้า เรียนรู้ และสร้างความสัมพันธ์กับแบรนด์

การออกแบบพื้นที่ให้ “ขยับขยายได้” จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ไม่ใช่แค่เพื่อรองรับยอดขาย แต่เพื่อรองรับโอกาสใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นการจัดแคมเปญ การสร้างคอนเทนต์ร่วมกับลูกค้า หรือแม้แต่การดึงพันธมิตรมาร่วมสร้างประสบการณ์ใหม่ร่วมกัน

จากจุดเริ่มต้นเพียงไม่กี่สาขา วันนี้ BEAUTRIUM ขยายจนมี 76 สาขาทั่วประเทศ และยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง เพราะกลยุทธ์ “ยืดหยุ่นแต่ไม่หลุดคอนเซ็ปต์” ซึ่งเป็นหัวใจของความสำเร็จ

เป้าหมายใหม่ สู่ 100 สาขาทั่วไทย

ปัจจุบัน BEAUTRIUM มี 76 สาขาทั่วประเทศ และ 2 สาขาล่าสุดที่เปิดใหม่ ได้แก่ เมกา บางนา และเซ็นทรัล พาร์ค แลนด์มาร์กใหม่ย่านพระราม 4 ที่รวมที่อยู่อาศัย ออฟฟิศ และศูนย์การค้าในที่เดียว พร้อมแคมเปญเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่สำหรับทั้ง 2 สาขา ประกอบด้วย 

สาขาเมกา บางนา กับคอนเส็ปท์ “MEGA BEAUTY MEGABANGNA” สุดยิ่งใหญ่ มาพร้อมโปรโมชั่น 7 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม – 5 กันยายน 2568 อาทิ สิทธิ์แลกซื้อสินค้าในราคาเดียว 75 บาท เมคอัพชิ้นที่ 2 ลดสูงสุด 90% และแจกฟรีถุงจุ่มเครื่องสำอาง MEGA LINE UP มูลค่า 500 บาท สำหรับ 300 คิวแรก พร้อมกิจกรรมลุ้นโชค MEGA LUCKY DRAW มูลค่ารวมกว่า 200,000 บาท และโปรโมชั่นพิเศษอย่างต่อเนื่องกับ MEGA BONUS รับคูปองส่วนลดและบัตรชมภาพยนตร์จาก Major Cineplex นอกจากนี้ยังมี MEGA SURPRISE แจกเมนูจากร้านดังทุกวัน รวมถึง SPECIAL GIFT จากแบรนด์ชั้นนำ KISSME, MEILINDA, KARISMA, CANMAKE, MERREZCA, U-STAR และ 4U2 ให้ช้อปคุ้มเกินต้าน

ส่วนสาขา เซ็นทรัล พาร์ค ก็ไม่น้อยหน้า มาพร้อมกับแคมเปญพิเศษจัดเต็มตลอด 7 วัน ระหว่างวันที่ 4-10 กันยายน โดยจัดโปรฯ เปิดตัววันแรก (4 กันยายน) ซื้อ 1 แถม 1 ทั้งร้าน เพียงช้อปสินค้าภายในร้าน 1 ชิ้น และแสดงบัตรพนักงาน พร้อมรับฟรี BEAUTY ITEM 1 ชิ้นต่อท่าน และพลาดไม่ได้กับการแจก BEAUTRIUM LUCKY BAG มูลค่า 500 บาท สำหรับคิว 100 คนแรกตั้งแต่เวลา 12.00 น. พร้อมโปรฯ พิเศษสำหรับวันที่ 4–7 กันยายน “SPIN & WIN” เพียงช้อปครบ 699 บาท รับสิทธิ์จับ Gashapon ลุ้นรางวัลสุดพิเศษ และเสริมด้วยโปรฯ ต่อเนื่องตลอด 7 วัน ประกอบด้วย เมคอัพและสกินแคร์ลดสูงสุด 90% น้ำหอมลดสูงสุด 50% พร้อมของสมนาคุณสุดคุ้ม และสิทธิพิเศษเมื่อเพิ่มเพื่อน BEAUTRIUM LINE Official รับส่วนลด 100 บาท

ทั้งสองสาขาถือเป็น “Mega Projects” ที่ BEAUTRIUM ตั้งใจเลือกเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าทั้ง 2 ทำเล พร้อมขยายฐานผู้บริโภคในทำเลศักยภาพสูง และภายในปี 2568 นี้ BEAUTRIUM ตั้งเป้าว่าจะมีครบ 100 สาขาทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งเมืองใหญ่ เมืองรอง และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทย

กรณีของ BEAUTRIUM ชัดเจนว่า ความสำเร็จของร้านค้าปลีกไม่ได้อยู่แค่ใน “ตำแหน่งที่ตั้ง” แต่คือ “ความเข้าใจ” ในพื้นที่ และ “ความสามารถในการปรับตัว” ให้เข้ากับผู้คนในแต่ละทำเล BEAUTRIUM เลือกทำเลแบบคนที่ “เข้าใจคน” ไม่ใช่แค่ดูจากปริมาณคนเดินผ่าน แต่คือการเลือกเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คน และนั่นคือเหตุผลที่แบรนด์นี้ยังเติบโตได้อย่างมั่นคง ในวันที่การแข่งขันสูงและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนเร็ว

สุดท้ายแล้ว แบรนด์ที่ยืนระยะได้ ไม่ใช่แบรนด์ที่อยู่ในทำเลดีที่สุด แต่คือแบรนด์ที่ “เข้าไปอยู่ในชีวิต” ของผู้คนได้อย่างกลมกลืนที่สุดต่างหาก วันนี้ BEAUTRIUM จึงสามารถเติบโตได้ทั้งในเมืองใหญ่ และต่างจังหวัด พร้อมเดินหน้าสู่การเป็นบิวตี้มัลติแบรนด์อันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคไทย


แชร์ :

You may also like