สมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) หรือ DAAT จัดงาน DAAT Day 2025 งานสัมมนาใหญ่แห่งปี เจาะลึกเทรนด์และเรื่องราวที่น่าสนใจ
ไฮไลท์สำคัญในงาน คือผลสำรวจมูลค่าเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลในประเทศไทย ซึ่ง DAAT ได้ร่วมกับ คันทาร์ (ประเทศไทย) และ 33 เอเยนซีสมาชิก (สัดส่วน 80% ของเอเยนซีไทย) ทำการสำรวจเม็ดเงินโฆษณาใน 70 ประเภทอุตสาหกรรมและ 18 ประเภทสื่อดิจิทัล สำรวจต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 โดยปี 2025 ได้เพิ่มประเภทสื่อ AI และ MarTech
สรุปโฆษณาดิจิทัล ปี2025 ดังนี้
– ปี 2025 คาดการณ์มูลค่าโฆษณาดิจิทัลอยู่ที่ 33,105 ล้านบาท เติบโต 5% จากปีที่ผ่านมา (เติบโตต่ำกว่าคาดการณ์ช่วงต้นปีนี้ที่ 10%) ตัวเลขที่เติบโตลดลงในปีนี้ มาจากผลกระทบเศรษฐกิจชะลอตัว การประเมินจีดีพี ปีนี้ล่าสุดเฉลี่ยเติบโต 1% ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดในรอบหลายปี หลายปัจจัยมีผลต่อการจับจ่ายลดลง ทำให้เจ้าของแบรนด์ขายของได้ลดลง จึงลดงบโฆษณาในที่สุด
– โดยครึ่งปีแรก 2025 เม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลอยู่ที่ 15,836 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีหลังคาดมีมูลค่า 17,269 ล้านบาท
ท็อป5 กลุ่มธุรกิจใช้งบสื่อดิจิทัลสูงสุด ปี2025
1. ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ ครองแชมป์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ด้วยงบประมาณสูงสุดที่ 5,249 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16% ของส่วนแบ่งตลาด เติบโต 4%
2. เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์ มูลค่า 3,062 ล้านบาท หรือ 9% ของส่วนแบ่งตลาด และเติบโต 22%
3. ยานยนต์ มูลค่า 2,515 ล้านบาท หรือ 8% ของส่วนแบ่งการตลาด ลดลง 17%
4. โทรคมนาคม มูลค่า 2,381 ล้านบาท หรือ 7% ของส่วนแบ่งการตลาด เติบโต 17%
5. ผลิตภัณฑ์จากนม มูลค่า 2,227 ล้านบาท หรือ 7% ของส่วนแบ่งการตลาด เติบโต 11%
กลุ่มสกินแคร์ ใช้เม็ดเงินและเติบโตสูงจากไลฟ์สไตล์ของคนออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านจึงดูแลตัวเองมากขึ้น มีนวัตกรรมและแบรนด์ใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง นักการตลาดจึงแอคทีฟทำตลาดเข้าถึงผู้บริโภค
กลุ่มเครื่องสำอางเติบโต 80% จากเคาน์เตอร์แบรนด์และโลคัลแบรนด์ที่ใช้งบโฆษณาดิจิทัลเพิ่มขึ้น ทั้งแบรนด์ไทย แบรนด์สินค้าเซเลบ ดารา อินฟลูเอนเซอร์ โดยกลุ่มนี้โฟกัสใช้งบสื่อดิจิทัล เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์และยอดขาย
กลุ่มยานยนต์ใช้งบลดลง จากเศรษฐกิจซบเซา กำลังซื้อลดลง ดังนั้นสินค้าชิ้นใหญ่จึงได้รับผลกระทบเยอะ รวมทั้ง EV จีน เปิดตัวไปหมดแล้ว การใช้งบโฆษณาหลังจากนี้จึงลดลง โดยใช้งบทำโปรโมชั่นให้ส่วนลดแทน
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มที่ใช้งบโฆษณาลดลงในปีนี้ คือ รีเทล ลดลง 2% ธนาคาร ลดลง 6% และประกันภัย ลดลง 13%
TikTok มาแซง YouTube ขึ้นเบอร์ 2
สรุปประเภทสื่อที่นักการตลาดใช้ลงทุนบนสื่อดิจิทัลสูงสุด 10 อันดับแรก ปี 2025
1. Meta (Facebook และ Instagram) มูลค่า 8,451 ล้านบาท ครองสัดส่วน 26%
2. TikTok Ads มูลค่า 6,776 ล้านบาท ครองสัดส่วน 20% (จากปีก่อนสัดส่วนอยู่ที่ 13%)
3. YouTube Ads มูลค่า 4,397 ล้านบาท ครองสัดส่วน 13%
4. Creative มูลค่า 2,573 ล้านบาท ครองสัดส่วน 8%
5. Social มูลค่า 2,112 ล้านบาท ครองสัดส่วน 6%
6. Search มูลค่า 1,941 ล้านบาท ครองสัดส่วน 6%
7. Online Video มูลค่า 1,941 ล้านบาท ครองสัดส่วน 6%
8. LINE มูลค่า 1,723 ล้านบาท ครองสัดส่วน 5%
9. E-Commerce มูลค่า 1,133 ล้านบาท ครองสัดส่วน 3%
10. Display มูลค่า 1,099 ล้านบาท ครองสัดส่วน 3%
โฆษณา TikTok ปีนี้เติบโตสูงถึง 63% ขึ้นมาครองอันดับ 2 (จากปีก่อนอยู่อันดับ 3) แทน YouTube นอกจากนี้สื่อดิจิทัลที่เติบโตสูง E-Commerce เติบโต 37% Affiliate Marketing เติบโต 20%
ปัจจัยที่ทำให้งบโฆษณา TikTok มาแรง เพราะสามารถทำการตลาดได้แบบ Full Funnel (Full Funnel Marketing) ครอบคลุมทุกขั้นตอนของเส้นทางการซื้อของลูกค้า (Customer Journey) ตั้งแต่สร้างการรับรู้ไปถึงปิดการขาย เพราะแพลตฟอร์ท TikTok ขายสินค้าได้แบบอีคอมเมิร์ซ
ปีนี้เอเยนซีมีมุมมองว่า “เทรนด์สื่อดิจิทัลมาแรง” คือ TikTok ตามด้วย Live Commerce / E-Commerce / Affiliate Marketing และ Meta
โดยเทรนด์ Live Commerce มาจากพฤติกรรมผู้บริโภคไทยที่ชอบดูและซื้อสินค้าผ่าน Live รวมทั้งเป็นแพลตฟอร์มขายของผ่าน Live นักการตลาดจึงให้ความสำคัญ

ดร. อาภาภัทร บุญรอด กรรมการผู้จัดการฝ่ายลูกค้า คันทาร์ (ประเทศไทย) ให้ความเห็นว่า “แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น แต่การเติบโตของเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลยังคงสะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทยที่นิยมใช้ชีวิตและซื้อสินค้าบนโลกออนไลน์มากขึ้นอย่างชัดเจน”
“การเติบโตของเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลที่ 5% ในปีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของธุรกิจในยุคที่เต็มไปด้วยความท้าทาย แม้ตัวเลขจะปรับลดลงจากที่ DAAT เคยคาดการณ์ไว้เมื่อช่วงต้นปี แต่ก็ยังคงยืนยันถึงความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมดิจิทัลในบ้านเรา” คุณภารุจ ดาวราย นายกสมาคมโฆษณาดิจิทัล กล่าว
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE







