HomeInsightทำความเข้าใจอินไซต์พฤติกรรม 6 กลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมกลยุทธ์แบรนด์พลิกเกมการตลาด

ทำความเข้าใจอินไซต์พฤติกรรม 6 กลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมกลยุทธ์แบรนด์พลิกเกมการตลาด

แชร์ :

พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไม่หยุด การทำความเข้าใจที่ลึกและแม่นยำ คืออาวุธสำคัญของนักการตลาดและแบรนด์ที่ต้องตามให้ทัน เพื่อไปให้เหนือกว่าคู่แข่งและเป็นกุญแจสู่การเติบโตแบบก้าวกระโดด

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

“ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส” เอเยนซีผู้นำด้านการวางแผนตลาดและการสื่อสาร ด้านเทคโนโลยีครบวงจรในเครือไอพีจี กรุ๊ป (IPG) จัดงาน IPG Mediabrands Thought Leadership 2025 ภายใต้ธีมงาน Punch Above the Market: Moves that Outsmart the Slowdown “ปล่อยหมัดฮุก กลยุทธ์เหนือตลาด” เจาะลึกผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่วันนี้ไม่ใช่เพียง “กลุ่มเป้าหมาย” แต่คือ “ผู้เปลี่ยนเกม”

สรุปอินไซต์พฤติกรรม 6 กลุ่มผู้บริโภค ที่เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการตลาดให้ทรงพลัง

IPG Mediabrands เปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับพฤติกรรม 6 กลุ่มผู้บริโภค ที่นักการตลาดและแบรนด์อาจมองข้าม หรือยังรู้จักไม่มากพอ เพราะผู้บริโภคกลุ่มนี้เป็นคำตอบของการเติบโตทางธุรกิจในยุคนี้ เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรม แนวคิด ความเชื่อและค่านิยมต่างๆ ที่ทำให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้ กลายเป็น Game Changer ในปัจจุบัน

1. The Shoptimizer เป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย ไม่ได้ลดการใช้จ่าย แต่ใช้จ่ายแบบฉลาดซื้อมากขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่ซื้อ ต้องคุ้มค่ากับคุณภาพ เป็นกลุ่มกำลังซื้อที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย

2. The Restarters เป็นกลุ่มที่ไม่เคยกลัวเรื่องการเปลี่ยนแปลง ยินดีที่จะล้มและพร้อมลุกเร็ว มีพลังแห่งการเริ่มต้นใหม่ตลอดเวลา ที่สำคัญเป็นแรงบันดาลใจให้คนรอบตัว และเป็นหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในปีนี้

3. Next- Wave Tourists แม้ปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง แต่คนที่เข้ามากลับมีศักยภาพจับจ่ายมากขึ้น ไม่ใช่นักท่องเที่ยวกลุ่มเดิม โดยมองหาประสบการณ์แปลกใหม่ที่เข้ากับค่านิยมของตัวเอง

4. The Deep Z ในยุคนี้ไม่มีใครไม่อยากคุยกับ Gen Z แต่สิ่งที่ต้องรู้คือพวกเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เป็นกลุ่มที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ต้องการอะไรที่สวยหรู มองหาความชัดเจน ความโปร่งใสจากแบรนด์ ดังนั้นการสื่อสารกับ Gen Z ต้องพูดด้วยความชัดเจนและตรงประเด็น

5. The Edgy Aging ปัจจุบันภาพลักษณ์คนสูงวัยเปลี่ยนไปจากเดิม มีความทันสมัยมากขึ้น เปิดรับประสบการณ์ใหม่ เทคโนโลยีใหม่ และคอมมูนิตี้ใหม่ เพราะอายุไม่ใช่ข้อจำกัดในการใช้ชีวิตอีกต่อไป แต่อยู่ที่ทัศนคติและความมั่นใจ

6. The Rural Gold Class กลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในต่างจังหวัด แต่มีอิทธิพลเชื่อมกับคนในชุมชน และเปิดรับโลกภายนอกชุมชน ที่สำคัญมีอิทธิพลต่อความเชื่อ ความคิด และแรงผลักดันต่อพฤติกรรมผู้คนในชุมชน

พฤติกรรม 6 กลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่นี้กระจายอยู่ในทุก Generation และไม่ใช่ผู้บริโภคธรรมดา แต่เป็นผู้นำเทรนด์ มีอิทธิพลขับเคลื่อนและเป็นแรงผลักดันเศรษฐกิจแบบมีนัยสำคัญ หากนักการตลาดและแบรนด์เข้าใจผู้บริโภคกลุ่มนี้เพียงพอ นอกจากจะขายของได้แล้ว ยังสามารถเป็นผู้นำการตลาดได้อย่างแท้จริง

เจาะลึกอินไซต์ 6 กลุ่มผู้บริโภค “ผู้เปลี่ยนเกม”

1. The Shoptimizer กลุ่มฉลาดช็อปยอมจ่ายเพื่อคุณค่ามากกว่าแค่ส่วนลด

คุณวรรณรัตน์ วิศวสุขมงคล Strategic Planning Director IPG Mediabrands, UM กล่าวว่า The Shoptimizer เป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นกลุ่มที่มีความฉลาดในการใช้เงิน ภูมิใจในการเป็นนักช้อปสายประหยัด มีแนวโน้มระมัดระวังการใช้เงินมากกว่าคนทั่วไป

– เป็นกลุ่มที่มีมากกว่า 76% กระจายตัวอยู่ในทุก Gen จึงถือเป็นกลุ่มใหญ่สุดในประเทศไทย ปี 2026 ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นหรือสงครามจบลง แต่ก็ยังคงคิดก่อนใช้จ่ายทุกครั้ง เพราะ Mindset เปลี่ยนไปเป็นนักช้อปสายประหยัดแล้ว

– แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักช้อปสายประหยัด แต่ไม่ได้หมายความว่ากลุ่มนี้ไม่มีเงิน เพราะ The Shoptimizer กลุ่ม A B C รวมกันมีถึง 54% ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของนักการตลาด

– พฤติกรรมการกลุ่ม The Shoptimizer 77% ลดการจับจ่าย (อย่างน้อย 10% ในปีที่ผ่านมา) แต่ก็ยังเป็นกลุ่มลูกค้าโอกาสทองของแบรนด์ที่มองข้ามไม่ได้ เพราะมีพฤติกรรม “ช้อปออนไลน์” มากกว่าคนทั่วไป และใช้จ่ายมากกว่า
– สินค้าที่มีโอกาสเจาะกลุ่ม The Shoptimizer เช่น อาหารและเครื่องดื่ม ยารักษาโรค ของใช้ส่วนบุคคล (Personal care) จัดอยู่ในท็อป 3 ที่กลุ่มนี้จะใช้จ่ายมากขึ้นในปี 2026

– นอกจากกลุ่มสินค้าที่จำเป็นพบว่ากลุ่ม The Shoptimizer มีโอกาสที่จะใช้จ่ายมากขึ้นในกลุ่มสินค้าบางอย่างที่ให้ Value

1. กลุ่มรายได้สูง สนใจการท่องเที่ยวต่างประเทศและในประเทศที่ให้ประสบการณ์หรู การลงทุนในอสังหาฯ แม้เศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะถดถอย

2. กลุ่มรายได้ปานกลาง สนใจซื้อสินค้าเกี่ยวกับบ้าน (Home Product) อุปกรณ์อิเลคโทรนิกส์ รถยนต์

3. กลุ่มรายได้น้อย สนใจเสื้อผ้าแฟชั่น สินค้าความงาม

– เป็นกลุ่มที่เสพสื่ออย่างหนักและต่อเนื่องในทุกช่องทาง

– มีพฤติกรรมเข้าอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มตลอดทั้งวัน โดย The Shoptimizer 55% เก็บคูปองมากขึ้น, 50% เปรียบเทียบแบรนด์มากขึ้น , 47% กดสินค้าใส่ตระกร้าแต่ยังไม่จ่ายเงิน เพราะเปรียบเทียบโปรโมชั่นที่ดีกว่า หากต้องการเห็นสินค้าก็จะไปที่หน้าร้าน และอาจกลับมาซื้อที่อีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม ดังนั้นแบรนด์ที่มีลูกค้าอยู่แล้ว ต้องจูงใจให้กดจ่ายเงินด้วยคูปอง โปรโมชั่นต่างๆ

 

สรุป 3 กุญแจสำคัญเจาะกลุ่ม Shoptimizer

1. Not broke Just Calculated คนกลุ่มนี้ไม่ใช่ไม่มีเงิน ยังคงจับจ่ายแต่คิดมากขึ้น เพราะฉะนั้น Premium Brand ก็มีโอกาสในการขายคนกลุ่มนี้อยู่

2. Value-Driven โปรโมชันเป็นสิ่งที่ดี แต่คนกลุ่มนี้มองหา Value อะไรบางอย่างเพื่อจ่ายเงินซื้อ

3. Dynamic Basket พฤติกรรมลังเลที่กดเข้าของใส่ตะกร้าแต่ไม่จ่ายเงิน ต้องมีกลยุทธ์จูงใจให้ตัดสินใจซื้อ

2. The Restarters หมดไฟได้แต่ไม่หมดหวัง “พร้อมเริ่มต้นใหม่”

คุณเมธาวี อินอ๊อด Strategic Planning Associate Director​ IPG Mediabrands กล่าวว่านิยามของกลุ่ม The Restarters คือพวกเขาไม่ได้รู้สึกแย่แต่อยากเริ่มใหม่ เป็นคนที่กำลังมองหาเส้นทางชีวิตใหม่ ค้นหาตัวตน การเป็นตัวเอง ไม่ว่าจะเจออะไรมา ทั้งจากสภาพเศรษฐกิจ สังคม และความไม่แน่นอน

– The Restarters 89% เป็นกลุ่ม Burn out จากสิ่งที่ทำอยู่ แต่ในยุคที่เศรฐกิจชะลอตัว กลุ่มนี้ Move on ไปข้างหน้า

– กลุ่มนี้ 79% เป็นคนที่มองหาสิ่งที่จะพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ต้อง Up-skills Re-skills เพื่อทำให้ตัวเองและเติบโต

– โดย 70% เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ โอกาสใหม่ๆ รวมทั้งเปิดใจรับแบรนด์ใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ เพราะกลุ่มนี้มีอยู่กว่า 18 ล้านคน ดังนั้นถ้านักการตลาดและแบรนด์ครองใจคนกลุ่มนี้ได้ก็จะมีโอาส

–  กลุ่มนี้ 38% อยู่ในกรุงเทพฯ

– ทัศนคติของกลุ่ม The Restarters มีอยู่ในทุก Gen

Gen Y 40% กลุ่มใหญ่สุด เป็นช่วงวัยทำงานที่เหนื่อยที่สุดและอยาก Restart มองหาโอกาสใหม่ สู่อิสระภาพทางความคิด

Gen Z 26% กลุ่มที่เริ่มวัยทำงาน ส่วนหนึ่งคนที่จบใหม่ยังไม่เข้าระบบงานและอยากทำในสิ่งที่สนใจ และเมื่อเห็นว่าไม่เป็นอย่างที่คิด จึงมองหาทางหลีกหนีความวุ่นวาย เพื่อหาจังหวะใหม่ให้ชีวิต จึงต้องการ Restart

Gen X 21% กลุ่มโค้งสุดท้ายของการทำงาน มองหาโอกาส รีสตาร์ทชีวิต

Silver Gen 13% ออกค้นหาตัวเองอีกครั้ง

– ไม่ว่าจะเป็น Gen ไหน แต่ทุกกลุ่มวางเป้าหมายให้ชีวิตเหมือนกัน โดยโฟกัส 3 เรื่อง

1. การดูแลตัวเองและครอบครัว 74%

2. ให้ความสำคัญกับเวลา การทำงานและไลฟ์สไตล์ที่สนใจ (Work-life balance) 59%

3. มองหาความมั่นคง 56% และออกนอกกรอบ 37%

– คอนเทนต์ที่กลุ่ม The Restarters ชอบและต้องการสนับสนุนจากแบรนด์ คือ ความรู้ด้านการลงทุนไม่ใช่แค่การเก็บเงินอย่างเดียว การดูแลสุขภาพจิตใจ ทักษะด้านดิจิทัล AI

– เป็นกลุ่มที่ใช้ Search 54% เพื่อค้นหาข้อมูลที่สนใจและการเพิ่มทักษะด้านต่างๆ ใช้ Social Media 68% มองหาคอนเทนต์สร้างแรงบันดาลใจ และ Social Proof 45% ต้องการประสบการณ์จริง จากคนที่เป็น The Restarters ที่ได้ทำแล้ว

สรุป 3 กุญแจสำคัญเจาะกลุ่ม The Restarters

1. พร้อมเปิดรับแบรนด์ใหม่ เพราะเป็นช่วงเวลาที่กำลังวางเป้าหมายชีวิตใหม่อีกครั้ง

2. มองหาแบรนด์ที่ “เข้าใจ” และสามารถเป็นแรงสนับสนุนสำคัญ ทั้งความรู้เรื่องเงินทุน กำลังใจ และคอนเทนต์ที่สร้างแรงบันดาลให้ลงมือเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

3. คอนเทนต์คือไกด์นำทางของ The Restarters นักการตลาดและแบรนด์ต้องอยู่ให้พวกเขาเจอ ตั้งแต่ Search, Social Media และ Social Proof

3. Next Wave Tourist นักท่องเที่ยวจีนกลุ่มกำลังซื้อที่ต้องจับตา

นักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอีกกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย แม้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มลดลงในปีนี้ แต่สัญญาณครึ่งปีแรกกลุ่มที่เข้ามากลับมีศักยภาพในการใช้จ่ายมากขึ้น โดยเป็นกลุ่มที่มองหาประสบการณ์แปลกใหม่ ที่เข้ากับค่านิยมของตัวเอง

– นักท่องเที่ยวจีน ถือเป็นกลุ่มที่น่าสนใจ ตัวเลข เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2025 มีจำนวน 1.96 ล้านคน (ลดลง 32.7% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน) เป็นอันดับสองของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทย ปีนี้คาดการณ์มีจำนวน 5 ล้านคน นักท่องเที่ยวจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากมาตรการฟรีวีซ่าและการเพิ่มเที่ยวบิน

– นักท่องเที่ยวจีน สร้างรายได้ให้ประเทศไทยประมาณ 1.2–1.5% ของ GDP

– ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ปี 2023 รายละเอียดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีน แบ่งเป็น ที่พัก 36%, อาหารและเครื่องดื่ม 23%, ช้อปปิ้ง 18%, การเดินทางในประเทศ 10% ความบันเทิงและอื่นๆ 23%

– นักท่องเที่ยวจีนคุณภาพ อายุ 25-44 ปี เป็นกลุ่ม Hybrid Travel, Digital Nomads พักระยะยาว 1-3 เดือน สนใจท่องเที่ยว กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา เชียใหม่ เกาะสมุย กระบี่ หัวหิน

– นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนจีนที่พักอาศัยระยะยาวอยู่ในประเทศไทยประมาณ 60,000–90,000 คน โดยเมืองหลักที่อาศัยอยู่ ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต

– แพลตฟอร์มสื่อสารกับกลุ่มคนจีนและนักท่องเที่ยวจีน

WeChat แชท จ่ายเงิน และโซเชียล

Xiaohongshu โซเชียลมีเดียไลฟ์สไตล์และอีคอมเมิร์ซ

Douyin (TikTok) คอนเทนต์วิดิโอสั้น

KOLs, KOCs และ Influencers

JD.com, Taobao, Pinduoduo แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและไลฟ์ขายของ

4. The Deep Z เจาะลึกค่านิยม Gen Z ยุคใหม่

คุณคมชาญ สุขศรี Strategic Planning Manager, UM กล่าวว่า Gen Z เติบโตเป็นผู้ใหญ่ครั้งแรก จึงถูกคาดหวังให้เป็นอย่างที่โลกต้องการ เป็นกลุ่มคนที่โตมากับโซเชียลมีเดีย โดยกว่า 92% ของ Gen-Z มองหาความหมายของชีวิต การมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ และมองหาอิสระการเป็นตัวของตัวเอง

– ค่านิยมของ Gen-Z เปลี่ยนไป คำว่า Lifestyle หรือวิถีชีวิต เช่น ต้องมีบ้าน มีรถ หน้าตาดี Gen-Z มองว่าเป็นแค่สิ่งที่แบรนด์และโซเชียลสร้างขึ้น “แต่ที่จริงเป็นเรื่องที่ยาก” รวมถึงการมอง Influencer หรือ Celebrity ก็เปลี่ยนไป กลุ่ม Gen-Z เชื่อคำพูดของพวกเขาน้อยลง แต่เชื่อสิ่งที่คนธรรมดาออกมาพูดถึงสินค้ามากกว่า

– จึงเกิดเป็นเทรนด์ที่เรียกว่า N-Po Generation คือปรากฏการณ์ที่คนรุ่นใหม่ในเกาหลีใต้ ออกมายอมแพ้กับการใช้ชีวิตตามกระแสสังคม ล้มเลิกการมีความฝันที่ยิ่งใหญ่ แค่อยากใช้ชีวิตขี้เกียจ ๆ ให้นานขึ้น ซึ่ง Gen Z ในประเทศไทยก็เห็นบริบทที่ไม่แตกต่างกันมากนัก เพราะในยุคนี้ “อย่าว่าแต่ฝันให้ใหญ่ไปให้ถึง แม้แต่ฝันเล็กๆ ไปให้รอดก็ยาก”

– ปรากฏการณ์นี้ส่งผลต่อค่านิยมในการบริโภคของ Gen-Z ดังนี้

Be Unique สนับสนุนแบรนด์ที่เป็นตัวของตัวเอง

Be Kind ชอบแบรนด์ที่ใจดีกับสิ่งแวดล้อม ใจดีกับคนอื่น ๆ

No Stereotype ไม่ต้องการถูกตีความแบบเหมารวม

– การมองและรู้จัก Deep Z ที่แตกต่างออกไป หรือมากกว่าอัตลักษณ์ที่เห็น การเข้าถึง Gen Z จะไม่ตัดสินที่รูปลักษณ์แต่จะคุยในที่ที่พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ ดังนั้นหากบ้านเป็น first place สถานที่ที่สอง คือโรงเรียนและที่ทำงาน third place คือ ที่ไหนก็ได้ ที่ Gen Z ไม่จำเป็นต้องมีบทบาทใดๆ ขอแค่เป็นตัวของตัวเองเท่านั้น จึงมี 3 สถานที่ที่น่าสนใจที่นักการตลาดและแบรนด์สามารถใช้เป็นช่องทางสื่อสารกับ Gen Z ได้

1. Like-Minded Space เป็นที่ที่เราอยู่กับคนที่รู้จัก อยู่แล้วรู้สึกสบายใจ เช่น คอมมูนิตี้ของแฟนคลับศิลปิน ดารา ที่ชื่นชอบ พูดคุยในสิ่งเดียวกัน

2. Delusional Space สถานที่ที่มองหาเพื่อนรวมจิตนาการเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น ดนตรี เกม กีฬา

3. Pause-Space สถานที่ที่อยู่กับปัจจุบันมากขึ้น ได้ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกมากขึ้น

สรุป 3 กุญแจสำคัญเจาะกลุ่ม Deep Z

1. Lifestyle is Illusion มองหาการใช้ชีวิตที่ได้เป็นตัวของตัวเอง

– เป็นการโอบกอดความสุขของตัวเองในวัยเด็ก ที่เป็นความสุขง่ายๆ เพื่อเอาตัวเองออกจากความกดดันในการใช้ชีวิต เพื่อทำให้รู้สึกว่าได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น

2. Delusion is the Solution แค่อยากไร้สาระบ้าง

– เมื่อโลกแห่งความจริงไร้ทางออก “การมีความคิดเพ้อฝันอาจเป็นทางออกของ Gen Z” การแสดงความเสียใจ ดีใจจึงอยู่กับตัวเองด้วยการฟังเพลงเพลย์ลิสต์, การตกหลุมรักกับตัวละครที่ไม่มีอยู่จริง อยากเป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่ตัวเองในแพลตฟอร์มเกมออนไลน์ Roblox

3. Time For Boundary สร้างขอบเขต หาพื้นที่ที่แค่จะได้อยู่เฉย ๆ

– การที่ Gen Z เอาตัวเองออกจากความกดดันในการใช้ชีวิต เพื่อทำให้รู้สึกว่าได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น การใช้แพลตฟอร์มที่มีความเป็นส่วนตัว IG X เลือกได้ว่าอยากให้คอนเทนต์ของเราโชว์ไปที่ใคร การพูดคุยกับคนที่มีไลฟ์สไตล์ วิธีคิด และใช้ภาษาเดียวกัน

5. Edgy Aging วัยเก๋ากำลังซื้อสูง เปิดรับแบรนด์-โฆษณาทุกแพลตฟอร์ม

“กลุ่มสูงวัย” ถือเป็นผู้บริโภคที่ถูกมองข้ามมากที่สุด ปัจจุบันประชากรไทยอายุ 55 ปีขึ้นไปมีจำนวนมากที่สุดจากการเข้าสู่ Aged Society นักการตลาดจึงต้องมองให้เห็นโอกาสจากประชากรสูงวัยที่มีจำนวนมากขึ้นทุกปี

– หากดูตัวเลขคนไทยที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป จากปี 2029 มีสัดส่วน 13% ปี 2025 เพิ่มขึ้นเป็น 30% ของประชากรไทย นักการตลาดจำนวนมากไม่อยากให้แบรนด์ดูแก่ จึงไม่ได้มองกลุ่มสูงวัยและโฟกัสไปที่ Gen Z แต่กลุ่มสูงวัยเป็นกลุ่มที่ไม่ควรมองข้ามอีกต่อไป เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง

– กลุ่มวัยเก๋าอายุ 55 ปีขึ้นไป มี 2 พฤติกรรมและทัศนคติการใช้ชีวิตที่น่าสนใจ

1. เป็นคนที่เปิดรับเรื่องราวใหม่ๆ คนใหม่ๆ (เพื่อน, คอมมูนิตี้ มี 5-10 กลุ่มขึ้นไปต่อการเข้าถึงในแต่ละวัน)

2. เป็นคนที่อยู่กับเทคโนโลยี ออนไลน์และออฟไลน์ แบบ Omni-channel

– เปิด 3 มุมมองวัย Edgy Aging

1. Self Reliance ดูแลตัวเองได้ ไม่ได้รอเงินลูกหลาน

– 71% รายได้ระดับกลางถึงสูง

– 59% ยังทำงานอยู่ (ไม่มีคำว่าเกษียณทำงาน เป็นการทำงานที่รู้สึกสนุก ฝึกสมอง ทำงานฆ่าเวลา)

2. Yet Connected สูงวัยไทยไม่ได้อยู่โดดเดี่ยว เป็นคนที่สุขภาพจิตดี อบอุ่น มีความคิดเชิงบวก

– 93% สูงวัยยังอยู่กับครอบครัว

– 80% เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง

3. In-Charge of Wellbeing

– 60% มีโรคประจำตัวกลุ่ม NCDs

– 74% กลุ่มสูงวัยมองตัวเองสุขภาพดี (แม้เจ็บป่วยก็ยังรู้สึกสุขภาพดี จากการเข้าถึงโรงพยาบาลได้ แม้มีโรคตามวัยก็ตาม)

ความฝันของกลุ่ม Edgy Aging ไม่ได้ฝันใหญ่

– อยากแค่มีความสุขในแต่วัน ได้ออกไปดินเนอร์ ช้อปปิ้ง เล่นโซเชียลมีเดีย เจอเพื่อนบ้าง เป็นความสุขง่ายๆ ครอบครัวสนับสนุนถือเป็นรางวัลชีวิต

– แม้เศรษฐกิจชะลอตัว แต่ 66% ของกลุ่มสูงวัยไม่ได้รับผลกระทบ ยังคงซื้อสินค้าที่ต้องการและอยากใช้เป็นปกติ

– ใช้จ่ายสูงในสินค้าที่ต้องการมากกว่ากลุ่มอื่น 2 เท่า

– 78% (Active Share) แชร์ประสบการณ์การใช้สินค้าและบริการที่รู้สึกว่าดีผ่านโซเชียลและคอมมูนิตี้ เรียกว่าเป็นนักรีวิวที่ดี

สินค้าและบริการที่กลุ่มสูงวัยใช้จ่ายมากกว่ากลุ่มอื่นๆ 2 เท่าตัว

สินค้าดูแลสุขภาพ 69%
อาหารและร้านอาหาร 62%
ของใช้ส่วนบุคคล 48%
การเงินและการลงทุน 46%
ของใช้สัตว์เลี้ยง 41%
ของใช้ในบ้าน 34%
แกดเจ็ตและไอที 25%
ท่องเที่ยวในประเทศ 22%
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน 17%
สินค้า DIY 13%

พฤติกรรมการเสพสื่อของวัยเก๋า

– กลุ่มสูงวัยเสพสื่อตลอดวัน เพราะมีเวลาและไม่มีภาระ สัดส่วนการเสพสื่อของกลุ่มสูงวัยสูงกว่า Gen อื่นๆ และเปิดรับโฆษณาในทุกสื่อ
– ไลฟ์สไตล์วัยเก๋า 75% ตื่นเช้า 4.00-6.00 น. และ 61% นอนก่อน 22.00 น.

5.00 – 6.30 น. ดูสื่อทีวี 61% รายการ “ข่าว” เป็นข้อมูลที่กลุ่มสูงวัยเชื่อข้อมูล ดูการแข่งขันกีฬาแบบ Live จากทีวี

7.30 – 9.00 น. ใช้โซเชียลมีเดีย

– Facebook 65% Line 62% (เป็น 2 โซเชียลมีเดียที่สูงวัยใช้มากที่สุด) เข้าไปอยู่ในคอมมูนิตี้ที่สนใจ
– ใช้เวลากับโซเชียลมีเดีย 1-2 ชั่วโมงต่อวัน
– ติดตามคอนเทนต์และอินฟลูเอนเซอร์ ด้านสุขภาพและอาหาร

10.00 – 11.30 น. ดูยูทูบ 62%

11.30 – 14.30 น. ดูคอนเทนต์บันเทิงผ่านแพลตฟอร์ม OTT 61%

– 64% ดูได้ตามเวลาที่ต้องการ ทุกที่ทุกเวลา
– 56% ง่ายต่อการหาคอนเทนต์ที่เหมาะกับความสนใจ
– 45% มีคอนเทนต์มากกว่าทีวี
ท็อป5 แพลตฟอร์ม OTT ของกลุ่มสูงวัย TrueID แอปไทยรัฐ แอป oneD แอป VIU และ Netflix

14.30 – 16.00 น. กิจกรรมนอกบ้าน 59% ใช้ Line 57%
17.00 – 19.30 น. ดูทีวีพร้อมกินมื้อค่ำ 60%
19.30 – 21.00 น. เวลาครอบครัวดูแพลตฟอร์ม OTT 55% Facebook 50%

– กลุ่มนี้เปิดรับโฆษณาจากสื่อ 70% เพื่อดูข้อมูลซื้อสินค้า มีการคลิกโฆษณามากกว่ากลุ่มทั่วไป 2 เท่า

– เป็นกลุ่มที่ออกจากบ้าน จึงมีโอกาสเห็นโฆษณา OOH 63% สถานที่ที่กลุ่มสูงวัยไปเวลาอยู่นอกบ้าน คือ สวนสาธารณะ ฟิตเนส สปอร์ตคลับ ช้อปปิ้งมอลล์ ร้านอาหาร โรงเรียน(รับหลาน) ตลาดสด โรงพยาบาล และเวลเนส เซ็นเตอร์

3 กลยุทธ์เจาะใจวัยเก๋า

1.วัยเก๋าเป็นกลุ่มกำลังซื้อสูงและพร้อมจ่ายเพื่อสุขภาพ ความสุข และอิสระ

2. เป็นกลุ่มที่มี “ไพรม์ไทม์” ของตัวเอง เปิดรับสื่อทุกแพลตฟอร์ม เเบรนด์ต้องหาช่องทางสื่อสารในช่วงไพรม์ไทม์ของแต่ละสื่อ ไม่จำเป็นต้องเจาะแมสแต่พูดคุยเฉพาะกลุ่ม

3. ต้องสร้างความน่าเชื่อถือ จากสื่อที่วัยเก๋าเชื่อข้อมูลและช่องทางที่น่าเชื่อถือ

6. The Rural Gold Class  กลุ่มต่างจังหวัดรุ่นใหม่รายได้สูง-จับจ่ายออนไลน์

คุณภูมิกิติ วันชาญเวช Strategic Planning Director, Mediabrands Content Studio กล่าวว่าประชากรไทยกว่า 63% อาศัยอยู่ต่างจังหวัด และกว่า 8 ล้านคนที่มีรายได้สูง ซึ่งมีขนาดเท่ากับประชากรในกรุงเทพฯ

– 76% คนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้า

– 70% เชื่อมั่นในการลงทุน

– 56% มั่นใจในการจัดการบริหารจัดการทรัพย์สินของตัวเอง

– ทัศนคติของคนต่างจังหวัด เป็นคนที่ชอบเข้าสังคม ชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ต้องการการยอมรับจากคนรอบข้าง ชอบเสี่ยงโชค เสี่ยงดวง ชอบแบ่งปันข้อมูลสินค้าและบริการให้กับคนในกลุ่มด้วยความคิดเห็นของตัวเอง พวกเขาจึงเป็น Tiny Influencer โดยไม่รู้ตัว

– คนทั่วไปเชื่อว่าคนกลุ่ม Rural Gold Class ในต่างจังหวัดเข้านอนเร็ว แต่จริง ๆ แล้วพวกเขานอนช่วง 21.00-24.00 น. ใช้เวลากับโซเชียล มีเดีย ดูทีวี (69% ใช้ทีวีรับข่าวสารและบันเทิง) ช้อปปิ้งออนไลน์ ชอบค้นหาและซื้อสินค้าหลังสามทุ่มถึงเที่ยงคืน

– ช่องทางจับจ่ายที่สำคัญของคนกลุ่มนี้คือ Online Chanel 75% โดยสัดส่วน 40% ช้อปออนไลน์คนละ 1,000-3,000 บาทต่อเดือน

– ส่วนช่องทางออฟไลน์ ร้านค้าริมถนน 70% ร้านสะดวกซื้อ 63% โชห่วย 62% ไฮเปอร์มารเก็ต/ซูเปอร์มาร์เก็ต 55% และช้อปปิ้งมอลล์ 54%

– 3 คอนเทนต์ที่โดนใจคนกลุ่ม Rural Gold Class

1. เรื่องจริงประสบการณ์จริง 59%

2. สรุปข่าว 49%

3. การ Live ขายของ 26%

– Solution สำคัญของกลุ่ม Rural Gold Class คือ Sellfluencer = Seller+Influencer โดยใช้คนดังประจำจังหวัด นักร้องท้องถิ่น (Local Influencer) ซึ่งมีอิทธิพลในการกระตุ้นและโน้มน้าวให้คนซื้อสินค้า

สรุป 3 กุญแจสำคัญเจาะกลุ่ม Rural Gold Class

1. 020 media การสื่อสารออนไลน์และออฟไลน์ยังสำคัญและใช้ได้ดี แบรนด์ต้องอยู่ในไพรม์ไทม์ที่แตกต่างกันในแต่ช่วงเวลา

2. Community Trust ให้คนดังในท้องถิ่นมาขายของ คนที่ผูกพันธ์กับพวกเขา สร้างให้เกิด Brand Love ได้

3. Share-Worthy Content คอนเทนต์ปังยังสำคัญ ต้องแชร์ได้แบบไม่เขิน ต้องสนุกและน่าติดตาม

“การทำความเข้าใจผู้บริโภคยุคใหม่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักการตลาด เพราะพฤติกรรม ค่านิยม และแรงจูงใจของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างมากจากยุคก่อน โดยเฉพาะในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและข้อมูลอย่างทุกวันนี้ โอกาสทางธุรกิจ แบรนด์ที่เข้าใจอินไซต์ลูกค้าจะสามารถสร้างสินค้าและบริการที่ตรงใจ และวางกลยุทธ์การตลาดได้จากการเข้าใจข้อมูลพฤติกรรม ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน” ดร.ธราภุช จารุวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไอพีจี มีเดียแบรนด์ส (ประเทศไทย) กล่าว

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE


แชร์ :

You may also like