
คุณเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG)
กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ประกาศกลยุทธ์ AI 5+1 ขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็น AI-Infused Tech Powerhouse ระดับภูมิภาค ด้วยการฝัง AI ในทุกจุดงานเพื่อเสริมศักยภาพพนักงานกว่า 2,600 คน พร้อมเปิดผลสำรวจ พบการมี AI ช่วยงาน ทำให้ 90% พนักงานมีความสุขขึ้น
ขยายความ “กลยุทธ์ AI 5+1″ ของ KBTG
สำหรับกลยุทธ์ AI 5+1 ในความหมายของผู้บริหาร KBTG ประกอบด้วย
- การสร้างและประยุกต์ใช้ AI เพื่อส่งเสริมธุรกิจธนาคาร (AI for Banking)
- การพัฒนาและประยุกต์ใช้ AI ในกระบวนการด้านไอที (AI for IT Delivery & Operations)
- การพัฒนาแพลตฟอร์ม Data และ AI เพื่อรองรับการสร้าง AI Use Case ใหม่ ๆ (AI & Data Platform)
- การกำกับดูแลการใช้งาน AI (Governance & Ecosystem)
- การพัฒนา AI Products เพื่อต่อยอดเชิงพาณิชย์ (AI Tech Business)
ส่วน +1 คือ การยกระดับพนักงานขององค์กรให้มีความรู้และความพร้อมด้าน AI (People) ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์หลักทั้งหมด
ด้านคุณเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ KBTG ได้เรียนรู้ เกี่ยวกับการนำ Agentic AI มาใช้ในองค์กร นั้นมี 5 ข้อนั่นคือ
- ต้องเลือก use case ที่ถูกต้อง
- ต้องพิจารณาว่า บริษัทมีข้อมูลที่จะมาซัพพอร์ต AI เพื่อทำงานนั้น ๆ เพียงพอไหม และเป็นข้อมูลที่ดีไหม เพราะต่อให้มี AI ที่ล้ำที่สุด แต่ถ้าเลือก use case ผิดและไม่มี Data ที่ดีและมากเพียงพอ ก็ไม่อาจทำได้สำเร็จ
- ต้องมีการปรับเปลี่ยน – แก้กระบวนการการทำงานร่วมด้วย
- ต้องมีการควบคุม (Good Governance) AI ที่ดี
- ต้องมี Talent หรือก็คือมี “มนุษย์” ควบคุม (Human in the loop) การทำงานนั้น ๆ เพราะการปล่อยให้ AI ทำงานเพียงลำพังเป็นสิ่งที่อันตรายมาก
92% ของบริษัทต่าง ๆ มีแผนจะลงทุนใน Generative AI ในอีก 3 ปีข้างหน้า แต่จะมีเพียง 1% เท่านั้นที่จะสามารถสร้างอิมแพคให้กับธุรกิจได้นะครับ เพราะมันไม่ใช่แค่ใส่ AI เข้าไปแล้วมันทำได้เลย มันต้องมีองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น มี Use case, มี data, มีการปรับแก้กระบวนการ, มี Good Governance แล้วก็เรื่องของคน สิ่งเหล่านี้ถึงจะเกิดขึ้นได้จริงครับ
เบื้องหลังการสร้าง AI-Infused Tech Powerhouse ของ KBTG
นอกจากการประกาศกลยุทธ์แล้ว ในเรื่องของเครื่องมือ AI ที่บริษัทพัฒนาขึ้นก็มีความน่าสนใจเช่นกัน โดย KBTG มีเครื่องมือให้พนักงานเข้าถึงได้ดังนี้
- AthenaMind เป็นแพลตฟอร์มสร้างแชทบอทเฉพาะทาง เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับองค์ความรู้ต่าง ๆ เช่น HR, PDPA, Vendor Management และ Cybersecurity โดยดึงคำตอบจากฐานข้อมูลภายใน เพื่อให้ความช่วยเหลือพนักงานได้ทุกวันตลอดเวลา
- ไฉไล (Chai LAI) เป็น AI Testing Agent ตัวแรกที่ KBTG พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในงานทดสอบต่าง ๆ ทั้งการบริหารจัดการการทดสอบ การทำ Test Automation หรือการจัดการข้อมูลในการทดสอบ รวมถึงการทดสอบประสิทธิภาพของระบบ โดยปัจจุบัน KBTG มีการใช้ AI ช่วยเขียนสคริปต์ทดสอบระบบแล้วกว่า 500 สคริปต์
- เฟรมเวิร์ค “ใส่ใจ” (Sai JAI) ทำหน้าที่ตรวจสอบพฤติกรรมของ AI และกำกับให้การพัฒนาเป็นไปตามนโยบายสากล ซึ่งสอดคล้องกับเฟรมเวิร์คกำกับของทั้งธนาคารกสิกรไทยและ KBTG เพื่อให้เอไอที่พัฒนาขึ้นมีความน่าเชื่อถือและรับผิดชอบต่อสังคม
- AI and Data Playground เครื่องมือสำหรับให้พนักงานสามารถสร้าง AI Agent เองได้ ซึ่งพบว่า ช่วยลดระยะเวลาการพัฒนาจาก 30 วัน เหลือเพียง 1 วัน
เฟสแรกของการทำ transformation ของ KBTG คือปี 2023 เราได้ man-day save 60,000 กว่า man-day และยังทำให้ 90% ของทีมมีความสุขมากขึ้นด้วย ส่วนปี 2024 เราขยับมาทำเรื่องของ AI ซึ่งทำให้เราเห็นว่า การทำ AI-first transformation ไม่ใช่คำตอบที่ถูก ต้อง human-first ก่อน แล้วจึงค่อยทำ AI-first transformation ส่วนปี 2025 จะเป็นปีที่เราเริ่มนำ AI มาใช้ในแทบทุกส่วนของ KBTG แล้วครับ – คุณเรืองโรจน์ พูนผล

คุณจิรัฎฐ์ ศรีสวัสดิ์ Assistant Managing Director – Software Development Excellence กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG)
เปิด 4 เป้าหมายสำคัญ ครึ่งปีหลัง 2568
สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 นี้ ผู้บริหาร KBTG ระบุว่า องค์กรจะมุ่งเน้นไปที่ 4 เป้าหมายสำคัญ ได้แก่
- การทรานส์ฟอร์มฝ่ายธุรกิจธนาคารและปฏิบัติการด้วย AI โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน (Productivity) และใช้เทคโนโลยีช่วยสร้างผลตอบแทนให้ได้มากยิ่งขึ้น
- การทรานส์ฟอร์มกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์จากต้นน้ำถึงปลายน้ำด้วย Agentic AI ที่พัฒนาขึ้นโดย KBTG เอง
- การพัฒนาและขยายผล AI Agent เฉพาะทางสำหรับชนิดงานที่ต่างกัน เพื่อตอบโจทย์อย่างตรงจุด
- การสร้างความเข้าใจและส่งเสริมให้พนักงานประยุกต์ใช้ AI ในการทำงาน เพื่อขับเคลื่อน KBTG สู่การเป็น AI-Infused Organization ในยุค Agentic AI อย่างแท้จริง
ในจุดนี้ คุณจิรัฎฐ์ ศรีสวัสดิ์ Assistant Managing Director – Software Development Excellence กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ขยายความเพิ่มเติมว่า ในปี 2568 ได้มีการขยายการใช้งาน AI ให้กับ Software Engineer และ Tester มากกว่า 600 คนในองค์กร พบว่าช่วยเพิ่ม Productivity ในบาง Use Case ได้มากกว่า 45% และมี Code ที่เขียนด้วย AI และถูกรีวิวโดย Engineers แล้ว รวมเป็นจำนวนกว่า 10 ล้าน Line of Code คิดเป็น 10% ของ Code ที่พัฒนาทั้งหมด และลดต้นทุนได้มากถึง 32 ล้านบาท
“ในช่วงครึ่งหลังของปี KBTG จะยกระดับกระบวนการการพัฒนาซอฟต์แวร์ภายในองค์กร (Software Development Life Cycle: SDLC) บนแนวคิด Augmented และ Embedded ให้ครอบคลุมทุก Role ในกระบวนการ เช่น Business Analyst Agent, Solution Architect Agent, Software Engineer Agent, Testing Agent ไปถึง DevOps Agent” พร้อมระบุด้วยว่า องค์กรได้เริ่มนำ Coding Agent มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานบางส่วนของ Software Engineer ล่าสุดจากการทดลองใช้กับ MAKE by KBank พบว่าสามารถลดระยะเวลางานพัฒนาบางส่วนจาก 1 วัน เหลือเพียง 15 นาที

คุณเมสินี นาคมณี Deputy Managing Director – Software Quality Management กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ขณะนำเสนอ ไฉไล – AI Testing Agent ตัวแรกที่ KBTG พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในงานทดสอบ
คุณเมสินี นาคมณี Deputy Managing Director – Software Quality Management กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวเสริมว่า KBTG มีการพัฒนา “ไฉไล” (Chai LAI) AI Testing Agent เพื่อใช้ในงานทดสอบต่าง ๆ ทั้งการบริหารจัดการการทดสอบ การทำ Test Automation หรือการจัดการข้อมูลในการทดสอบ รวมถึงการทดสอบประสิทธิภาพของระบบ โดยปัจจุบัน KBTG มีการใช้ AI ช่วยเขียนสคริปต์ทดสอบระบบแล้วกว่า 500 สคริปต์
นอกจากการพัฒนา AI เพื่อยกระดับมาตรฐานการทดสอบซอฟต์แวร์ (AI for Testing) แล้ว KBTG ยังมีการกำหนดเฟรมเวิร์คสำหรับทำการทดสอบ เพื่อให้มั่นใจว่า AI ที่ถูกสร้างขึ้นมาภายใน KBTG จะมีคุณภาพและมาตรฐานที่ดี (Testing for AI) ภายใต้ชื่อเฟรมเวิร์ค “ใส่ใจ” (Sai JAI) โดยจะทำหน้าที่ตรวจสอบพฤติกรรมของ AI และกำกับให้การพัฒนาเป็นไปตามนโยบายสากล ซึ่งสอดคล้องกับเฟรมเวิร์คกำกับของทั้งธนาคารกสิกรไทยและ KBTG

คุณวรรณลภย์ วิสิฐธรรมคุณ Assistant Managing Director – Intelligence Engineering and Data Technology กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG)
ด้านคุณวรรณลภย์ วิสิฐธรรมคุณ Assistant Managing Director – Intelligence Engineering and Data Technology กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวปิดท้ายว่า KBTG ไม่ได้มอง AI เป็นแค่เทคโนโลยี แต่เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจและเพิ่ม Productivity ในการทำงาน จึงมีการพัฒนาหลากหลายองค์ประกอบเพื่อขับเคลื่อนขีดความสามารถด้าน Agentic AI ทั้งการสร้างแพลตฟอร์ม AI ขึ้นเอง สถาปัตยกรรมแบบแยกส่วน (Modular Architecture) ที่เชื่อมต่อได้กับ Technology และ Service Provider หลายเจ้า ลดการพึ่งพาเพียงเจ้าใดเจ้าหนึ่ง และ Large Language Model Gateway (LLM Gateway) ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเลือกใช้งานโมเดลที่เหมาะสมกับปัญหาธุรกิจในรูปแบบต่างๆ
ล่าสุด KBTG เปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนสามารถสร้าง AI Agent ขึ้นเองจากโจทย์และไอเดียที่แต่ละคนมี จึงเกิดเป็น AI and Data Playground ที่มาพร้อมกับสารพัดเครื่องมือให้พนักงานสามารถสร้าง AI Agent เองได้อย่างรวดเร็ว มีมาตรฐาน และปลอดภัย ช่วยลดระยะเวลาการพัฒนาจาก 30 วัน เหลือเพียง 1 วัน อีกทั้งยังสร้างความเชื่อมั่น และผลักดัน AI จากแนวคิดสู่ผลลัพธ์จริง ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้ KBTG สามารถพัฒนาและขยายระบบ AI ที่มีความแม่นยำ รวดเร็ว และยืดหยุ่น พร้อมตอบสนองความต้องการของทางด้านธุรกิจของธนาคารกสิกรไทยและ KBTG ผ่านนวัตกรรมใหม่ ๆ
ทั้งนี้ ภายใต้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว คุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล ได้กล่าวปิดท้ายด้วยว่า
ปัจจุบัน KBTG ยังเป็นบริษัทที่พนักงาน 2,600 คน Work From Home 100% เราทำมา 5 ปีครึ่งแล้วครับ พนักงานเรามีความสุขมากขึ้น engagement เพิ่มขึ้น 40% และอัตราการลาออกของเราต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ครึ่งหนึ่งครับ





