Influencer และ Creator ยังเป็นเครื่องมือการตลาดทรงพลัง เป็นอุตสาหกรรมที่เติบโต ในประเทศไทยมีมูลค่ากว่า 45,000 ล้านบาท ในงาน Creative Talk Conference 2025 หรือ CTC 2025 เจาะลึก Creator Trends 2026 “อินฟลูฯเฟ้อ ครีเอเตอร์เอาไงต่อ”
คุณขจร เจียรนัยพานิชย์ ผู้บริหารบริษัท เดอะ ซีโร่ พับบลิชชิ่ง จำกัดและผู้จัดงาน iCreator Conference สรุปรายงานจาก iCreator Report ปี 2024
– แพลตฟอร์มที่มีสัดส่วนครีเอเตอร์มากที่สุด คือ Facebook สัดส่วน 31% ตามด้วย TikTok 27% , Instagram 25% และ YouTube 17%
– จำนวนครีเอเตอร์จากแพลตฟอร์ม TikTok ใกล้เคียง Facebook ทุกแพลตฟอร์มมีจำนวนครีเอเตอร์สัดส่วนใกล้เคียงกัน เห็นได้ว่าไม่มีแพลตฟอร์มไหน winner take all
– สรุป 10 หมวดครีเอเตอร์ยอดนิยม 1.ไลฟ์สไตล์ 19% 2.บิวตี้ & แฟชั่น 17% 3.ท่องเที่ยว 8% 4. บันเทิง 8% 5. เกม 7% 6. อาหาร เครื่องดื่มและคาเฟ่ 7% 7. ข่าว 4% 8. ครอบครัวและเด็ก 3% 9. Art & Literature 2% 10. สัตว์เลี้ยง 2% โดยหมวดที่มาแรงคือสัตว์เลี้ยง จากสังคมสูงวัย คนโสด ที่นิยมเลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อน
– หมวดคอนเทนต์ที่มียอดวิวสูงสุด 1. ไลฟ์สไตล์ 2. บันเทิง 3. ครอบครัวและเด็ก 4. อาหาร เครื่องดื่มและคาเฟ่ 5. บิวตี้ & แฟชั่น 6. เกม 7. ท่องเที่ยว 8. ข่าว
– สำรวจ 30 หมวดครีเอเตอร์ พบว่าแนวโน้มหมวดคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น กลุ่มบิวตี้ TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ได้เอนเกจเมนต์แซงหน้า Instagram ส่วนกลุ่มบันเทิง YouTube ยังเป็นแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่ง กลุ่มไลฟ์สไตล์ ทุกแพลตฟอร์มได้รับความนิยมใกล้เคียงกัน ขณะที่รถยนต์ Facebook และ YouTube ครองอันดับสูงสุด ดังนั้นการทำคอนเทนต์ต้องเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม
คลิปสั้นคอนเทนต์มาแรง
การทำคอนเทนต์ในยุคนี้มีหลายรูปแบบจากแพลตฟอร์มที่หลากหลาย จากการเก็บข้อมูลคอนเทนต์ในประเทศไทย สรุปรูปแบบคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมได้ดังนี้
– คลิปสั้น 82%
– วิดีโอยาว 26.3%
– บทความสั้น 35.7%
– บทความยาว 15%
– ภาพเดี่ยว 53.8%
– ภาพอัลบั้ม 47.2%
– ไลฟ์ 14.1%
– พอดแคสต์ 6.8%
เห็นได้ว่า “คลิปสั้น” กำลังครองตลาดและคนไทยนิยมดู การทำคลิปสั้น สามารถลงได้ทุกแพลฟอร์ม ส่วนรูปแบบ “ไลฟ์” เพิ่มขึ้นสูง คนชอบดูเพราะได้พูดคุยโต้ตอบ และแพลตฟอร์มต่างๆ มีเครื่องมือให้ไลฟ์ได้ง่าย รวมทั้งสามารถสร้างรายได้ ทั้งการโดเนท ยอดวิว โดยไม่ต้องรอสปอนเซอร์
เทรนด์คอนเทนต์ AI กำลังได้รับความนิยม
– ก่อนหน้านี้มีประเด็นดราม่าการใช้ AI ในการทำคอนเทนต์และโฆษณา แต่แนวโน้มปีนี้มีการใช้ AI ทำคอนเทนต์มากขึ้น จากเครื่องมือที่สะดวก เช่น AI รายงานข่าว ในมุมคนดูเริ่มยอมรับมากขึ้น เนื่องจากคอนเทนต์ดูสนุก
– เดือนมิถุนายน 2568 พบว่าช่อง YouTube ที่มียอด Subscribe มากที่สุดในโลก 30 ช่องแรก ในจำนวนนี้มี 2 ช่อง ที่คอนเทนต์ทำจาก AI 100% สะท้อนแนวโน้มว่าคนดูยอมรับคอนเทนต์ AI มากขึ้น
– ปัจจุบันถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่คนเริ่มยอมรับคอนเทนต์ AI มากขึ้น บรรดาครีเอเตอร์เองเริ่มนำ AI เข้ามาช่วยทำคอนเทนต์
วิธีสร้างรายได้ครีเอเตอร์
ข้อมูลจาก iCreator Report สรุปวิธีการหารายได้ของครีเอเตอร์ดังนี้
1. รายได้จากแพลตฟอร์ม 46.6%
2. คอนเทนต์สปอนเซอร์และแบรนด์ 37.8%
3. คอนเทนต์ปักตระกร้าขายสินค้า 25.6%
4. ไม่ได้รับรายได้จากการทำคอนเทนต์ 22.9%
5. วิทยากร 10.7%
6. การโดเนทและของขวัญ 7.1%
7. การออกสินค้า 5.6%
8. ค่าลิขสิทธิ์ 4.9%
9. การจัดกิจกรรม 3.8%
10. การสมัครสมาชิก 3.4%
ครีเอเตอร์หรือบล็อกเกอร์ยุคแรก 95% รายได้มาจากแบรนด์จ้างทำคอนเทนต์ แต่ปัจจุบันน้อยมากที่จะรับรายได้จากแบรนด์ 100% เพราะมีหลายช่องทางสร้างรายได้ ไม่ว่าจะขายสินค้าเมอร์เชนไดส์ อีเวนต์ รายได้จากแพลตฟอร์ม การทำคอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟจ่ายเงินค่าสมาชิกรับชม ซึ่งผู้ชมพร้อมสนับสนุน เพราะรายได้จากฝั่งแบรนด์มีแนวโน้มลดลง ครีเอเตอร์จึงต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดได้ ซึ่งการสร้างคอมมูนิตี้อาจไม่พอ ต้องหารายได้จากหลายช่องทาง
ปัจจุบันคนเลือกซื้อสินค้าจากครีเอเตอร์จำนวนมาก มีงานวิจัยระบุว่า “ครีเอเตอร์” ที่ทำคอนเทนต์เก่ง และหันมาทำแบรนด์สินค้าเอง เช่น สกินแคร์ น้ำดื่ม จะได้เปรียบคนที่ทำสินค้า (แบรนด์) แล้วมาทำงานคอนเทนต์ (ครีเอเตอร์)เอง
โดยเห็นแนวโน้ม “แบรนด์” ผันตัวเองมาเป็นครีเอเตอร์ ใช้งบประมาณที่จ้างครีเอเตอร์มาสร้างทีมทำคอนเทนต์เอง ทั้งทำคอนเทนต์ ไลฟ์ขายของ เพราะเห็นโอกาสอุตสาหกรรมครีเอเตอร์ยังเติบโตได้อีก
ในยุคที่มีครีเอเตอร์จำนวนมาก การอยู่รอดในเส้นทางนี้ ต้องสร้างตัวตนให้ชัดเจน เจาะช่องว่างกลุ่มนิชมาร์เก็ต ใช้ AI ช่วยทำงาน เชื่อว่าตลาดคอนเทนต์ครีเอเตอร์ยังไปได้ต่อ
จับตา 5 หมวดคอนเทนต์มาแรง
คุณสุวิตา จรัญวงศ์ ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Tellscore อินฟลูเอนเซอร์ แพลตฟอร์ม กล่าวว่าในยุคที่ “อินฟลูเอนเซอร์” มีจำนวนมาก วันนี้หมวดคอนเทนต์แบบเดิมๆ ไม่เพียงพอกับความสนใจของผู้บริโภคที่แยกย่อยในหลากหลายประเภทคอนเทนต์ ข้อมูลอินไซต์ประเภทคอนเทนต์ใหม่ ที่ได้รับความสนใจใน 5 หมวดมาแรงดังนี้
1. Scam Alert การเตือนภัยจากมิจฉาชีพรูปแบบต่างๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งมาจากความต้องการของผู้ชม ที่ระวังภัยจากมิจฉาชีพ ภัยไซเบอร์ พนันออนไลน์ จึงเห็นครีเอเตอร์ทั่วไปและนักข่าวทำคอนเทนต์ประเภทนี้มากขึ้น
2. Joy Feed คอนเทนต์เรื่องสนุก ตลก สัตว์เลี้ยงต่างๆ เพราะคนไทยเครียดจากหลากหลายปัญหา
3. In Search for Equality คอนเทนต์ประเภทสร้างความเท่าเทียม การเข้าถึง เช่น เรื่องการเรียนรู้ การศึกษา
4. In Search for Income คอนเทนต์แนะนำการหารายได้เสริม สะท้อนจาก 67% ของมนุษย์เงินเดือนในประเทศไทยมีรายได้เดือนชนเดือน อาชีพเดียวไม่พอ ต้องหารายได้เสริม
5. Entrepreneur Life คอนเทนต์ประเภทนำเสนอชีวิตผู้ประกอบการอาชีพต่างๆ สะท้อนว่าคนมองหาความสำเร็จ
– ปี 2025 ตลาดอินฟลูเอนเซอร์ทั่วโลกมีมูลค่า 1 ล้านล้านบาท ในไทยมูลค่าอยู่ที่ 45,000 ล้านบาท เห็นได้ว่าคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ ยังเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตได้เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ชะลอตัวจากเศรษฐกิจ เพราะเมื่อสินค้าขายไม่ได้ก็ต้องพึ่งพาครีเอเตอร์ – อินฟลูเอนเซอร์ เป็นกระบอกเสียง
– เทรนด์คอนเทนต์ AI ที่มีให้เห็นมากขึ้น ข้อดีคือ ทำคอนเทนต์ได้ปริมาณมากและสะดวกจากเครื่องมือที่หลากหลาก แต่ยังมีสิ่งที่เป็นกังวลสำหรับการใช้ AI คือการกำกับดูแลด้านต่างๆ ทั้งจริยธรรม การตีความ การประเมินด้านวิชาชีพ ในฝั่งคอนเทนต์หากไม่มีการกำกับดูแลจะส่งผลเสียด้านกลโกงไซเบอร์ การนำเสนอข้อมูลเท็จ ที่เกิดในพื้นที่โซเชียล มีเดีย ซึ่งเป็นสนามเดียวกับ คอนเทนต์ ครีเอเตอร์ที่สุจริต อาจจะทำงานหารายได้ยากขึ้น เพราะแบรนด์ไม่มั่นใจ
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE








