ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน ‘ความยั่งยืน’ เป็นเรื่องที่คนรุ่นใหม่และคนทั่วไปหันมาให้ความสำคัญ หากธุรกิจไหนพิสูจน์ให้เห็นว่า สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมได้ โอกาสที่ธุรกิจนั้นจะได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคก็จะสูงขึ้นตาม
พาไปวิเคราะห์แนวคิดของกลุ่มธุรกิจ TCP ที่หลายคนรู้จักและคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในตลาด เช่น กระทิงแดง, เรดบูล, เรดดี้, สปอนเซอร์, แมนซัม และอื่นๆ ผ่านแคมเปญ “TCP WEnergy for the world พลังเรารวมกัน คืนพลังให้โลก” ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การสร้างแบรนด์ดิ้งของกลุ่มธุรกิจ TCP เพื่อโลกที่ยั่งยืน สามารถดำเนินการได้โดยใช้ ความคิดสร้างสรรค์ และการนำเสนอไอเดียที่ แปลกใหม่ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาทรัพยากรหรือเม็ดเงินจำนวนมหาศาล แต่เน้นไปที่ความร่วมแรงร่วมใจและการสร้างสรรค์แนวทางที่ตอบโจทย์ทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
การสร้างแบรนด์ดิ้งของกลุ่มธุรกิจ TCP รักษ์โลกแบบชาญฉลาด หมุนเวียนทรัพยากร นำกลับมาใช้ใหม่ได้ไม่รู้จบ!
ก่อนอื่นต้องอ้างอิงถึงที่มาที่ไปการเกิดขึ้นของแคมเปญ TCP WEnergy for the world โดยเกิดขึ้นจากไอเดียที่ต้องการชวนผู้บริโภคมารวมพลังกันทำสิ่งดีๆ ตอบแทนคืนให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยยึดหลักที่จะรบกวนทรัพยากรโลกให้น้อยที่สุด ผ่าน 3 กิจกรรมหลัก ตลอดปี 2567 ซึ่งได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี ได้แก่
1. การเปิดตัวแคมเปญด้วยภาพยนตร์โฆษณารักษ์โลก: โดยได้นำฟุตเทจจากภาพยนตร์โฆษณาเดิมมาใช้ตัดต่อ โดยไม่ต้องออกกองถ่ายทำใหม่ ถือว่าเป็นการรียูส (Reuse) ที่ช่วยลดการใช้ทรัพยากรได้อย่างมาก ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงช่วยลดต้นทุนในการถ่ายทำ วิธีการ คือการนำทรัพยากรที่มีอยู่เดิม มาตัดต่อร้อยเรียงเป็นเรื่องราวใหม่ในการเปิดตัวแคมเปญ พร้อม Key Message ที่เชิญชวนให้ทุกคนมารวมพลังกันทำกิจกรรมตอบแทนสิ่งดีๆ กลับคืนสู่สังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านการหมุนเวียนใช้ทรัพยากร เพื่อคืนพลังให้โลก
2. งานวิ่งรักษ์โลก TCP WEnergy re.run 2024: มีจุดประสงค์ที่มุ่งเน้นให้เป็นงานวิ่งที่ดีต่อต่อสุขภาพเราและสุขภาพโลก ผ่านคอนเซปต์ 3R คือ reduce – reuse – recycle โดยไฮไลต์คือการจัดการทรัพยากรภายในงาน รวมถึงการจัดการขยะแบบ Zero waste ซึ่งดึงดูดนักวิ่งรักษ์โลกมาเข้าร่วมงานกว่า 1,200 คน ที่สำคัญคือภายในงาน เน้นความใส่ใจสิ่งแวดล้อมในทุกๆ รายละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าทุกทรัพยากรที่ใช้ไป สามารถนำกลับมาหมุนเวียนใช้งานได้อย่างคุ้มค่าที่สุด ทั้งเสื้อวิ่ง ที่ทำจากขวดพลาสติกรีไซเคิลกว่า 26,000 ขวด เหรียญรางวัลและโล่รางวัลที่ทำจากฝาขวดพลาสติกรีไซเคิล 67,700 ฝา โดยภายในงานยังได้จัดจุดรับบริจาคเสื้อวิ่งและเหรียญรางวัลที่นำไปใช้ต่อได้ และจุดแยกขยะเพื่อนำไปรีไซเคิล อีกทั้งยังเลือกใช้บรรจุภัณฑ์อาหารที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติหรือนำไปรีไซเคิลต่อได้ พร้อมนำบรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วไปผลิตเป็นพลังงาน ลดการนำขยะกลับไปฝังกลบ โดยร่วมกับพันธมิตร เครือแก้วกรุงไทย และ บริษัท ไทยเบเวอร์เรจแคน จำกัด (TBC) เก็บรวบรวมบรรจุภัณฑ์ในงานที่นำไปรีไซเคิลต่อได้ ทั้งหมดกว่า 90.95 กก. ตอกย้ำความสำเร็จในการสร้างการรับรู้ และการเปลี่ยนแปลงเพื่อโลกที่ยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับผู้บริโภค โดยวัดผลได้จริง
นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจ TCP ยังได้นำเงิน 100,000 บาท จากการจัดงานวิ่ง พร้อมเหรียญรางวัลที่ใช้ต่อได้ 201 เหรียญ มอบให้กับมูลนิธิกระจกเงา และมีแผนในการนำเสื้อที่ผู้ร่วมงานวิ่งมาบริจาคกว่า 27.5 กก. มาผลิตเป็นเสื้อยืด Upcycle โดยพันธมิตร บริษัท แสงเจริญแกรนด์ จำกัด (SC GRAND) เพื่อส่งมอบให้มูลนิธิกระจกเงาจำนวน 100 ตัว รวมถึงนำป้ายผ้าแคนวาสจากงานวิ่ง ไป Upcycle เป็นกระเป๋า 100 ใบ เพื่อมอบให้ผู้เข้าร่วมงานวิ่งได้ลุ้นรับหลังจบงานอีกด้วย
3. กิจกรรม ดื่มฟรีตลอดปี รีไซเคิลตลอดไป: เป็นการจับมือกับพันธมิตรอย่างบิ๊กซีและเครือแก้วกรุงไทย ผ่านกิจกรรม “ดื่มฟรีตลอดปี รีไซเคิลตลอดไป” โดยเชิญชวนให้ผู้บริโภคมาร่วม “ดื่ม-แยก-ลุ้น” โดยกติกาคือ เพียงดื่มเครื่องดื่มในกลุ่มธุรกิจ TCP แล้วนำมาแยกทิ้งที่จุดรับบรรจุภัณฑ์ดื่มแล้วในบิ๊กซี พร้อมถ่ายภาพหรือคลิปวิดีโอพร้อมโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กของกลุ่มธุรกิจ TCP ในการลุ้นรับรางวัล ถือเป็นอีกหนึ่งในกลยุทธ์การตอกย้ำว่า แบรนด์เครื่องดื่มของกลุ่มธุรกิจ TCP ใช้บรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ 100% ทั้งขวดพลาสติก ขวดแก้ว รวมถึงกระป๋องอะลูมิเนียม โดยมีเครือแก้วกรุงไทย ช่วยเก็บบรรจุภัณฑ์กลับเข้าสู่ระบบรีไซเคิล เป็นจำนวนรวมกว่า 675.9 กก. หรือ 15,507 ชิ้น เทียบเท่ากับการลดการนำขยะไปฝังกลบและช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างพฤติกรรมผู้บริโภคให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยการลงมือทำ เพราะการดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ทุกคนทำได้ไม่ยาก เพียงแยกขยะเพื่อนำไปรีไซเคิล ซึ่งแม้ว่ากิจกรรมจะเสร็จสิ้นแล้ว ก็ยังคงทำต่อได้ในชีวิตประจำวันของทุกคน
ทั้งหมดนี้สรุปได้ว่า การเริ่มต้นจากไอเดียที่ดี ผสานกับ การลงมือทำอย่างจริงจัง โดยมีความร่วมมือจากผู้บริโภคทุกคนและพันธมิตรของกลุ่มธุรกิจ TCP ที่ออกมาร่วมกิจกรรมคืนพลังให้โลก เป็นหัวใจสำคัญในการสร้างสิ่งดีๆ เพื่อตอบแทนกลับคืนสู่สังคมและสิ่งแวดล้อม สิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้และเกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืน ภายใต้แนวคิดของแคมเปญ “TCP WEnergy for the world ทุกพลังรวมกัน สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนได้”