กลายเป็นเครือธุรกิจอาหารเรือธงน้องใหม่ให้กับเครือไทยเบฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ บริษัท บิสโตร เอเชีย จำกัด ที่มีร้านพอร์ตโฟลิโอร้านอาหารที่หลากหลาย ทั้งอาหารไทย จีน ฝรั่ง ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
แม้ที่ผ่านมาบิสโทร เอเชียฯ จะยังไม่รู้จักในตลาดแมสเป็นวงกว้างมากนัก หากแต่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาหลังการเข้ามาของ “ไพศาล อ่าวสถาพร” อดีตแม่ทัพโออิชิ (ร้านอาหาร) ในการปั้นแบรนด์ในเครือก็ทำให้ชื่อของร้านในเครือทั้ง 6 แบรนด์ ได้แก่ บ้านสุริยาศัย, ไฮด์ แอนด์ ซีค, หม่าน ฟู่ หยวน, โซ อาเซียน, แวนเทจ พอยท์ และฟู้ด สตรีท กลายเป็นที่รู้จักและมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด
วันนี้บิสโตร เอเชียฯ กำลังจะก้าวสู่การเติบโตไปอีกขั้นกับการเดินหน้าขยายสาขาเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจร้านอาหารเมืองไทย โดยทั้ง 6 แบรนด์ที่มีอยู่จะเดินหน้าขยายสาขาทั้งหมดโดยและที่สำคัญจะได้เห็นหลายแบรนด์ได้ขึ้นไปขยายสาขาบนศูนย์การค้าอย่าง One Bangkok ที่กำลังจะเปิดบริการในช่วงปลายปีนี้อีกด้วย
คุณแซม-ไพศาล อ่าวสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิสโตร เอเชีย จำกัด กล่าวว่า ความสำเร็จในปีที่ผ่านมาของบิสโตร เอเชียฯ เกิดจากการเดินหน้าพัฒาร้านอาหารตามความต้องการของผู้บริโภค แน่นอนรูปแบบการดำเนินธุรกิจร้านอาหารของบิสโตร เอเชียฯ นับจากนี้คือการโฟกัสตามเทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา
ร้านบ้านสุริยาศัย ที่ประสบความำสเร็จในการจัดทัพรุกธุรกิจร้านอาหารไทยโบราณสุดหรู
โดยความสำเร็จปีที่ผ่านมาของบริษัทเกิดจากการเดินหน้าการตลาดเชิงรุกในหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็น
- การออกสินค้าใหม่ แต่ละแบรนด์จะมีการออกผลิตภัณฑ์ เมนู ที่เกี่ยวข้องออกมาวางจำหน่ายเพิ่มเติม
- การนำ Business Model ที่หลากหลายมาใช้ภายในร้าน เช่น ร้าน ไฮด์ แอนด์ ซีคมีการจัดบุฟเฟต์ช่วงกลางวัน หรือการการทั้งบุฟเฟ่ต์และอะลาคาร์ทได้ในร้านเดียว ทำให้ยอดขายพุ่งไปกว่า 300-400% (ในช่วงที่มีการจัดแคมเปญ) รวมถึงการทำโปรโมชันและการมีหลายโมเดลทำให้ร้านมีความยืดหยุ่นในการบริการมากขึ้น
- การใช้กลยุทธ์ TikTok Ceator โดยใช้ Tiktokers ที่มีฐานคนติดตามจำนวนมากในการสื่อสารแบรนด์มาใช้ในร้าน แวนเทจ พอยท์ จนทำให้นับเป็นส่วนสำคัญที่สร้างยอดขายมากกว่า 50%
- การจำหน่ายสินค้าที่ต่อยอดจากธุรกิจในเครือ อย่างร้าน แวนเทจ พอยท์ มีศักยภาพพอที่จะนำเครื่องดื่มในเครือมาจำหน่าย ก็จะมีการนำเขามาจำหน่ายเพิ่มเติม
จับตาเทรนด์อาหารปี 2024 กับวิชั่นใหม่ สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
อย่างไรก็ดีเมื่อเทรนด์ในตลาดอาหารโลก มีปัจจจัยแวดล้อมภายนอกเยอะขึ้นเทรนด์อาหารทั่วโลกเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้ความต้องการและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย โดยเทรนด์ที่น่าจะตาในปี 2024 ยังคงเป็นเรื่องของสุขภาพ นำ้ ไปจนถึงเรื่องของกระแสรักษ์โลกต่างๆ
ขณะที่ในส่วนของธุรกิจอาหารนั้น กระแสความนิยมเบนมายังฝั่งเอเชียอีกครั้ง โดยเฉพาะอาหารที่เผ็ดร้อน ไม่ว่าจะเป็นทั้งอาหารจีน อย่างหม่าหล่า อาหารไทยรสชาติจัดจ้าน ซึ่งกระแสดังกล่าวทำให้ความนิยมของคนทั่งโลกกับอาหารทั้งไทยจีนเพิ่มสูงขึ้น จะเห็นได้จากร้านอาหารไทย จีน หรือจากเอเชียที่มีรสชาติเผ็ดร้อนเปิดให้บริการหลายที่มากขึ้นทั่วโลก
จากกระแสความนิยมข้างต้น ทำให้บิสโตร เอเชียฯ นำมาพัฒนาและกำหนดนโยบายเพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์มากขึ้น เพื่อสร้างแบรนด์ระยะยาว
กางพอร์ต บิสโตร เอเชียฯ ธุรกิจร้านหรูในเครือไทยเบฟ ที่กำลังจะกลายเป็นแบรนด์ขวัญใจมหาชน
ปัจจุบันพอร์ตร้านอาหารในเครือบิสโตร เอเชีย ยัง ประกอบไปด้วย 6 แบรนด์ ได้แก่ บ้านสุริยาศัย, ไฮด์ แอนด์ ซีค, หม่าน ฟู่ หยวน, โซ อาเซียน, แวนเทจ พอยท์ และฟู้ด สตรีท ซึ่งทั้งหมดมีอัตราการเติบโตที่ดีต่อเนื่องหลังมีการปรับทัพใหม่ตั้งแต่ 7 เดือนแรกที่ “คุณแซม” เข้ามาบริหารงาน
โดยผลประกอบการของบริษัทปีงบประมาณ 2566 ที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตมากถึง 70% ขณะที่ไตรมาสแรกก็ยังโต 7.4% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นตัวเลขการเติบโตที่สูงที่สุด
ขณะที่ในปีนี้แผนการตลาดส่วนใหญ่จะยังมีการพัฒนาแบรนด์เข้ามาเพิ่ม อีกทั้งยังจะขยายสาขาสาขาเป็นอย่างน้อย 7 แห่ง จากปีที่ผ่านมาที่มีสาขาอยู่ 19 สาขา แบ่งเป็น โซ อาเซียน 8 สาขา ไฮด์ แอนด์ ซีค 2 สาขา หม่าน ฟู่ หยวน 3 สาขา บ้านสุริยาศัย 1 สาขา แวนเทจ และ ฟู้ด สตรีท 4 สาขา ซึ่งการขยายสาขาจะโฟกัสไปในทำเลต่างๆ ทั้งศูนย์การค้า สแตนอะโลน ขณะที่การพัฒนากลยุทธ์ต่างๆ จะยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจร้านอาหารในเครือ ไปจนถึงการสานต่อกิจกรรมต่างๆที่ประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมา นำมาใช้ในปีนี้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีแผนขยายสาขาไปยังต่างประเทศในอนาคตอีกด้วย
ร้าน Vantage Point หนึ่งในร้านที่จะโฟกัสการทำตลาดในปีนี้
พลิกปูมบ้าน “บ้านสุริยาศัย” จากร้านอาหารเก่าแก่ที่ตั้งในบ้านโบราณตระกูล “บุนนาค” สู่ร้านหรูบน One Bangkok
ที่น่าสนใจคือปีนี้ จะเป็นปีที่ทางบริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาแบรนด์ “บ้านสุริยาศัย” มากขึ้น จากเดิมที่หลายคนอาจจะมองว่าเป็นร้านอาหารไทยสุดหรูที่เข้าถึงยาก มีความซับซ้อน แต่นับจากนี้ไปจะสร้างแบรนด์ให้สามารถข้าถึงได้แต่ยังมีความเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนความเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ดั้งเดิม เข้ามาผสมผสานกับเมนูสินค้าใหม่ๆ มากขึ้น
หากท้าวความถึงร้าน “บ้านสุริยาศัย” มีต้นกำเนิดมาจากบ้านของตระกูล “บุนนาค” เมื่อเกือบร้อยปีที่ผ่านมา โดยตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมวิกตอเรียนผสมโคโลเนียลที่มีความเก่าแก่ยาวนานเกือบ 100 ปี ก่อนจะเปลี่ยนมือมายังกลุ่มไทยเบฟ และกลายเป็นร้านอาหารไทยสไตล์โบราณสุดหรูที่ไว้คอยต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองในที่สุด
การเปลี่ยนแปลงของ บ้านสุริยาศัย เริ่มขึ้นเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา หลัง “คุณแซม-ไพศาล อ่าวสถาพร” เข้ามานั่งบริหารงานในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท บิสโตร เอเชีย จำกัด บริษัททำหน้าที่ในการปั้นแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่การคัดสรรเมนู สื่อสารความเป็นร้านอาหารไทย ไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อสื่อไปยังกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
วันนี้ “บ้านสุริยาศัย” จึงถูกต่อยอดสินค้าที่หลากหลายไม่ใช่แค่อาหารไทยสไตล์หรูเพียงอย่างเดียว หากแต่ยังมีการต่อยอดไปยังผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งเมนูปิ่นโต เซ็ตอาหาร ไปจนถึงการ Collab ข้ามวงการกับคนดังต่างๆในการออกสอนค้าที่เกี่ยวข้อง
โดยเร็วๆ นี้ปรากฏการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับบ้านสุริยาศัย กับการครบรอบ 100 ชื่อ ด้วยการจัดแคมเปญยิ่งใหญ่กับพันธมิตร ในชื่องาน “The Journey Of 100” The 100 BOON-NAK ด้วยการร่วมมือกับ ศรัณญ อยู่คงดี ผู้ก่อตั้งแบรนด์ SARRAN by Sarran Youkongdee ผู้ออกแบบเครื่องประดับลุกส์ชุดไทยจากมิวสิกวิดีโอเพลง LALISA ของ Lisa แห่งวง BLACKPINK ที่จะมาร่วมสร้างประสบการณ์ความหรูหราให้กับอาหาร ยกระดับแบรนด์ให้พรีเมียมมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังเตรียมนำร้านบ้านสุริยาศัย , ไฮด์ แอนด์ ซีค และ ร้าน แวนเทจ พอยท์ ที่กำลังได้รับความนิยม ไปขยายสาขาบนศูนย์การค้าเป็นครั้งแรกที่โครงการ One Bangkok ในช่วงปลายปีนี้อีกด้วย
“ทั้ง 3 ร้านจะเป็นการคอนเซ็ปต์ใหม่ที่จะไปเปิดบนโครงการ One Bangkok ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งแน่นอนเป็นการรุกคืบในธุรกิจร้านอาหารครั้งสำคัญของเรา นอกจากนี้ยังจะได้เห็นอีกหลายแบรนด์ในเครือขยายสาขาออกไปในทำเลต่างๆมากขึ้น” คุณแซม ไพศาลกล่าวทิ้งท้าย
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE