

โดยรถยนต์ภายใต้แบรนด์ TANK ถูกออกแบบมาภายใต้แนวคิด “NOTHING BUT TANK” สะท้อน DNA ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของ 4 บุคลิก ได้แก่ T – คือ Tough ทรหด อดทน ผจญทุกอุปสรรค, A – Ambitious มุ่งมั่น ไม่หยุดนิ่ง ก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ, N – Normal เรียบง่าย เข้าถึงได้ เป็นตัวของตัวเอง แต่แฝงไว้ด้วย K – Kind ความดีงามของจิตใจ ความอ่อนโยน คิดถึงคนรอบข้าง ที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นให้กับตลาดรถยนต์เอสยูวีและผู้ขับขี่ชาวไทย ให้ทุกการผจญภัยแตกต่าง แปลกใหม่ และสามารถถึงจุดมุ่งหมายได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยไร้กังวล
All New GWM TANK 500 HEV เป็นรถยนต์เอสยูวีออฟโรดขนาดใหญ่ระดับพรีเมียม มิติรถกว้างขวางที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน ด้วยมิติตัวรถ 1,934 x 5,078 x 1,905 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) และระยะฐานล้อ 2,850 มม. ดีไซน์เรียบง่ายและหรูหราเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ที่ผสานช่องระบายอากาศแนวนอนและโลโก้ TANK รับเส้นสายที่นูนขึ้นของฝากระโปรง ไฟหน้า Intelligent LED ไฟท้าย Vertical LED อย่างเต็มระบบที่ตอบโจทย์ทั้งแฟชันและฟังก์ชันได้อย่างลงตัว และหลังคาซันรูฟระบบไฟฟ้าแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ รวมถึงล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว และยางขนาด 265/50 R20 ที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์การขับขี่ให้หรูหรามากขึ้นไปอีกระดับ ควบคู่กับการตกแต่งห้องโดยสารด้วยวัสดุสีดำ สีดำเงา สีโครเมียม และสีเงิน นาฬิกาแบบคลาสสิก และเบาะหนัง NAPPA
All New GWM TANK 500 HEV มาพร้อมสมรรถนะที่ทรงพลังและเทคโนโลยีออฟโรดล้ำสมัย ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ความจุ 1.76 กิโลวัตต์ ให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด 244 แรงม้า พร้อมแรงบิดเครื่องยนต์สูงสุด 380 นิวตัน–เมตร และกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 106 แรงม้า พร้อมแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 268 นิวตัน-เมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 9 สปีด (9HAT) และโหมดการขับขี่ที่มีมากถึง 11 รูปแบบ สอดรับกับแนวคิด “Nothing is Unreachable ไม่มีความสำเร็จไหนที่ไปไม่ถึง” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดย All New GWM TANK 500 HEV มีทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น PRO และรุ่น ULTRA ที่มาพร้อมกับเฉดสีรถภายนอกทั้งหมด 4 เฉดสี ได้แก่ สีขาว สีดำ สีเทา และสีใหม่เทาคริสตัล (เฉพาะรุ่น ULTRA) และเฉดสีรถภายในทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ และทูโทนสีน้ำเงิน-เบจ (เฉพาะรุ่น ULTRA และตัวรถสีเทาคริสตัล)

All New GWM TANK 300 HEV ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ให้กำลังสูงสุด 244 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร เป็น Flat Torque ในช่วง 1,700 – 4,000 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 106 แรงม้า และแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 268 นิวตัน-เมตร ทั้งยังมาพร้อมระบบเกียร์แบบ 9 สปีด (9HAT) ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับความหลากหลายของระบบการขับเคลื่อนรถยนต์ไฮบริด และโหมดการขับขี่ที่มีถึง 7 รูปแบบ ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด โหมดพื้นหิมะ โหมดพื้นโคลน โหมดพื้นทราย และโหมด 4L ซึ่ง All New GWM TANK 300 HEV
มี 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น PRO และรุ่น ULTRA โดยมีเฉดสีรถภายนอกทั้งหมด 4 เฉดสี ได้แก่ สีส้ม สีดำ สีเทา และสีขาว และมีเฉดสีรถภายในทั้งหมดสีเดียว ได้แก่ สีดำ (ลักษณะของเบาะจะแตกต่างกันในรุ่น PRO และรุ่น ULTRA)

All New GWM TANK 500 HEV และ All New GWM TANK 300 HEV มาพร้อมการรับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง นอกจากนี้ รถยนต์ทั้งสองรุ่น ยังมาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี ฟรี ค่าอะไหล่และค่าแรงบํารุงรักษาตามระยะทาง GWM Pro Service Inclusive – GPSI สูงสุด 10 ครั้ง ภายใน 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน (ไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง) ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ( Roadside Assistance ) ตลอด 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 5 ปี ฟรี บริการระบบตรวจสอบและสั่งการรถผ่านอินเทอร์เน็ต* (Telematic Service) พร้อมแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตภายในรถ (Internet in Vehicle) ระยะเวลา 3 ปี รวมถึงสิทธิพิเศษกับการเป็นส่วนหนึ่งของ GWM TANK CLUB และกิจกรรมสุดพิเศษมากมาย
ลูกค้าที่สนใจสามารถจับจองเป็นเจ้าของ All New GWM TANK 500 HEV และ All New GWM TANK 300 HEV ผ่าน GWM application และเว็บไซต์ www.gwm.co.th โดยเกรท วอลล์ มอเตอร์จะทยอยส่งมอบรถยนต์ทั้ง 2 รุ่นนี้ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป
สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อ Value Pack ของ All New GWM TANK 500 HEV ไว้ในช่วง Pre-sale จะได้รับส่วนลดเงินสดมูลค่า 50,000 บาท และแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตภายในรถเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยลูกค้าจะต้องวางเงินจองภายในวันที่ 28 ตุลาคม 2566 เวลา 17.59 น. หรือภายใน 1 เดือนหลังจากการประกาศราคา มิฉะนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์ Value Pack ดังกล่าว ยิ่งไปกว่านั้นลูกค้าที่จองสิทธิ Pre-sale จะได้สิทธิพิเศษรับรถก่อนลูกค้าที่จะเริ่มจองเข้ามาตามปกติ โดยลูกค้าที่จองสิทธิ์ Pre-sale จะต้องชำระเงินมัดจำภายใน 24 ชั่วโมงนับจากการเริ่มเปิดจอง หรือถึงเวลา 17.59 น. ของวันที่ 29 กันยายน 2566 เท่านั้น หลังจากนั้นลำดับการส่งมอบรถจะเป็นไปตามปกติ ซึ่งขึ้นอยู่กับระยะเวลาการจ่ายเงินจองสำเร็จของลูกค้า




