LINE MAN Wongnai เผยภาพรวมธุรกิจร้านอาหาร 2023 พบการเปิดร้านใหม่เพิ่ม 13.6% หรือเพิ่มขึ้นราว 1 แสนร้าน โดย 3 ประเภทร้านอาหารที่เติบโตสูงสุด คือ ร้านอาหารเช้า (แซนด์วิช) ร้านอาหารจีน และสุกี้ชาบู ส่วน 3 เมนูเครื่องดื่มขายดีบนแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่นั้น แน่นอนว่าไม่มีชื่อเมนูยอดฮิตในแวดวงการเมืองอย่าง “ช็อคมินต์” แต่เป็น “อเมริกาโน่ – ชาเขียวนม – ชานมไข่มุก” ที่คว้าชัยไปครอง
สถิติดังกล่าวเป็นการเปิดเผยผ่านงานสัมมนา Restaurant 2023 : Future’s Recipe ของ LINE MAN Wongnai หลังประกาศควบรวมกิจการ FoodStory สตาร์ทอัพในธุรกิจ POS ไปเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคุณยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai เผยถึงภาพรวมธุรกิจร้านอาหารไทย (ข้อมูลเปรียบเทียบจากเดือนมิถุนายน 2022 และมิถุนายน 2023) ว่า
คุณยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai
- มีจำนวนร้านเปิดใหม่เพิ่มขึ้นถึง 13.6% หรือราว 1 แสนกว่าร้าน
- 3 ประเภทร้านอาหารเปิดใหม่ที่เติบโตสูงสุด ได้แก่ ร้านอาหารเช้า (แซนด์วิช) ร้านอาหารจีน และร้านสุกี้ยากี้ ชาบู
- ประเภทร้านอาหารเปิดใหม่ที่เติบโตชะลอลง ได้แก่ ฟู้ดทรัก ร้านข้าวต้มมื้อดึก และร้านพิซซ่า
- 3 เมนูที่ขายดีบนแพลตฟอร์ม Food Delivery ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ และส้มตำปูปลาร้า
- 3 เมนูที่มีการเติบโตสูงสุดบนแพลตฟอร์ม Food Delivery ได้แก่ ไก่ย่าง 167.9% กะเพราหมูกรอบ 45.7% และส้มตำปูปลาร้า 40.4%
- 3 เมนูเครื่องดื่มที่ขายดีบนแพลตฟอร์ม Food Delivery ได้แก่ อเมริกาโน่ ชาเขียวนม และชานมไข่มุก
- 3 เมนูเครื่องดื่มที่เติบโตสูงสุดบนแพลตฟอร์ม Food Delivery ได้แก่ ช็อกโกแลต 52.1% ชาไทย/ชาเย็น 28.9% ชาเขียวนม 23.2%
- 5 เมนูที่มีการค้นหาสูงสุด ได้แก่ เค้ก สุกี้ หม่าล่า หมูกรอบ และไอศกรีม
- 3 เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ และร้านอาหารควรมี ได้แก่ เทคโนโลยีการสั่งอาหารที่โต๊ะจากการสแกน QR Code 59% จองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน 47% และระบบสะสมแต้ม 41%
คุณยอดยังได้เผยต่อไปด้วยว่า มูลค่าการซื้อขายรวม (GMV) ของยอดขายประเภทนั่งรับประทานที่ร้าน (Dine-in) มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย (อ้างอิงจากข้อมูลของ Wongnai POS) อย่างไรก็ดี แม้จะมีร้านอาหารเปิดใหม่ตลอดเวลา แต่จากสถิติพบว่ามีร้านอาหารถึง 50% ที่ต้องปิดตัวลงภายในปีแรก และ 65% ที่ปิดตัวลงภายใน 3 ปี
เปิด 6 ความท้าทาย “ธุรกิจร้านอาหาร 2023”
ด้านคุณฐากูร ชาติสุทธิผล ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบจัดการร้านอาหาร FoodStory POS ของ LINE MAN Wongnai เผยว่า ทางแบรนด์ได้ทำการสำรวจข้อมูลร้านอาหาร 1,230 แห่งในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2023 พบว่า มี 6 ปัจจัยที่ธุรกิจร้านอาหารมองว่ากระทบต่อการเติบโต ได้แก่
- ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น 77%
- ต้นทุนอื่น ๆ สูงขึ้น (เช่น ค่าน้ำมัน ค่าไฟ ค่าเช่า) 60%
- จำนวนร้านคู่แข่งเพิ่มขึ้น 57%
- จำนวนลูกค้าใหม่ลดลง 47%
- จำนวนลูกค้าประจำลดลง 45%
- ต้นทุนแรงงานสูงขึ้น 27%
แต่จากการสำรวจความคิดเห็นของร้านอาหาร คุณฐากูรระบุว่า ในประเด็นเรื่องวัตถุดิบขึ้นราคานั้น ร้านค้าผู้ตอบแบบสอบถามจะไม่ขึ้นราคาค่าอาหาร และผลักภาระให้ผู้บริโภค แต่จะหาทางบริหารจัดการกับซัพพลายเออร์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงหาวิธีใช้วัตถุดิบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเป็นการทดแทน
คุณฐากูร ชาติสุทธิผล ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบจัดการร้านอาหาร FoodStory POS ของ LINE MAN Wongnai
Wongnai POS x FoodStory ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งตลาด POS
สำหรับการควบรวมกิจการ FoodStory เข้าเป็นส่วนหนึ่งของ LINE MAN Wongnai นั้น คุณยอดเผยว่า ที่ผ่านมาได้มีการทำงานร่วมกันมานานกว่า 4 – 5 ปี อีกทั้งธุรกิจ Food Delivery ของ LINE MAN ยังคงเติบโต นักท่องเที่ยวกำลังเริ่มกลับมา และธุรกิจ Dine-in ก็เริ่มกลับมาเปิดให้บริการกันอีกครั้ง รวมถึงการควบรวม LINE MAN และ Wongnai ก็ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงมองว่า การควบรวมกิจการกับ FoodStory ในเวลานี้จึงมีความเหมาะสม และจะทำให้ LINE MAN Wongnai ก้าวขึ้นเป็นผู้นำโซลูชันสำหรับร้านอาหารแบบครบวงจรของไทยอย่างเต็มตัว โดยมีร้านอาหารที่ใช้งานมากถึง 55,000 แห่งทั่วประเทศ หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% ของตลาดทั้งหมด
นอกจากนั้น การควบรวมดังกล่าวยังทำให้ LINE MAN Wongnai สามารถเจาะตลาดร้านอาหารขนาดกลาง เช่น ร้านขายเครื่องดื่มที่อาจจะมีขนาดเล็กแต่มีสาขาจำนวนมาก หรือร้านอาหารแบบโอเพ่นแอร์ที่ต้องการปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิทัลได้เพิ่มขึ้นด้วย โดยคุณยอดระบุว่า FoodStory ได้พัฒนาฟีเจอร์ต่าง ๆ เอาไว้มากกว่า 500 ฟีเจอร์ ซึ่งร้านค้าขนาดกลางเองก็อาจต้องการตัวช่วยเหล่านั้น เช่น ฟีเจอร์ด้านการบริหารพนักงาน ฟีเจอร์ด้านภาษี ฟีเจอร์ด้านการตลาด เป็นต้น
คุณยอดยังได้กล่าวถึงจุดเด่นของการควบรวมกันของสองแพลตฟอร์ม POS ในครั้งนี้ว่า จุดเด่นของ Wongnai POS คือการมีฐานลูกค้าที่เป็นร้านอาหารขนาดเล็กที่แข็งแกร่ง และการให้บริการได้ 77 จังหวัด ขณะที่ FoodStory ก็มีความแข็งแกร่งในตลาดร้านอาหารระดับบน เช่น เชนร้านอาหารที่มีสาขาจำนวนมาก การควบกิจการกันจะทำให้ลูกค้าของทั้งสองค่ายสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้มากขึ้น เช่น ลูกค้าในอีก 77 จังหวัดสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีของ FoodStory ได้ หรือฟีเจอร์ Wongnai POS Staff ที่เปิดให้รับออเดอร์หน้าร้านผ่านโทรศัพท์มือถือของพนักงาน เป็นต้น อีกทั้งหากมีปัญหาในการใช้บริการ LINE MAN Wongnai ก็มีศูนย์บริการให้คำแนะนำร้านค้าเหล่านั้นในจังหวัดต่าง ๆ ได้ด้วยนั่นเอง
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก LINE MAN Wongnai พบว่า การพัฒนาระบบ POS สามารถสร้างมูลค่าการซื้อขายรวม (GMV) ไปแล้วกว่า 1.8 แสนล้านบาท และจัดการออเดอร์ร้านอาหารไปแล้ว 636 ล้านออเดอร์ โดยสามารถลดปริมาณการใช้กระดาษได้ถึง 323 ตัน