

ในขณะเดียวกัน TCP Spirit เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่จะช่วยสร้างโมเดลการจัดเก็บกลับบรรจุภัณฑ์และจัดการขยะ ซึ่งเป็นโครงการยกระดับแนวปฏิบัติการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต (Extended Producer Responsibility-EPR) ที่ได้ทำงานร่วมกับ IUCN ทั้งในไทยและเวียดนาม โดยตั้งเป้าที่จะจัดเก็บขยะอย่างน้อย 730 ตัน รวมทั้งสร้างโมเดลต้นแบบความรับผิดชอบในการจัดการขยะของกลุ่มธุรกิจ TCP ภายในระยะเวลา 3 ปี”

TCP Spirit ปีนี้ปักหมุดที่จังหวัดระนอง ประตูสู่ภาคใต้ ความงดงามของชายฝั่งอันดามัน ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องเครือข่ายพัฒนาโครงการให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องการจัดการปัญหาขยะ ที่กลุ่มธุรกิจ TCP ได้ทำงานร่วมกับ IUCN สำหรับครั้งนี้อาสาสมัครได้เรียนรู้ปัญหาและผลกระทบจากขยะที่บ้านหาดทรายดำ จ.ระนอง พื้นที่ป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นแหล่งอนุบาลกุ้ง หอย ปู ปลา และสัตว์น้ำนานาชนิด ชาวบ้านในชุมชนจึงมีรายได้หลักจากการทำประมงพื้นบ้าน แต่ในปัจจุบันมีปัญหาปริมาณขยะเพิ่มขึ้น และมีข้อจำกัดในการจัดการขยะที่กำลังเริ่มสร้างผลกระทบต่อคนในพื้นที่มากขึ้น
คุณสุปราณี กำปงซัน หัวหน้าแผนงานประเทศไทย องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) กล่าวว่า “ขยะทะเลส่วนใหญ่นั้นมาจากขยะที่หลุดลอดมาจากการบริโภคและใช้สอยในครัวเรือน คิดเป็นสัดส่วนจากกิจกรรมที่เกิดขึ้นบนบกประมาณ 80% และกิจกรรมทางทะเล 20% ดังนั้นจุดเริ่มต้นที่สำคัญคือการป้องกันขยะจากครัวเรือนไม่ให้เล็ดลอดลงไปในทะเล เริ่มจากปลูกฝังองค์ความรู้เรื่องการคัดแยกและวิธีการจัดการตามประเภทให้กับคนในชุมชน เป้าหมายสูงสุดคือ ให้ชุมชนบริหารจัดการขยะแต่ละประเภทได้ด้วยตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการขยะเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องทำให้เป็นปกติ ไม่ได้เน้นย้ำว่าวัสดุรีไซเคิลต้องนำไปขายเพื่อรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น แต่เป็นหน้าที่ที่ต้องช่วยกันเพื่อลดการปนเปื้อนและปกป้องมลภาวะจากขยะในพื้นที่ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างความมั่นคงทางอาหารและแหล่งรายได้อย่างยั่งยืนให้กับคนในชุมชน ความร่วมมือภายใต้โครงการ TCP Spirit ในวันนี้ เป็นหนึ่งในกระบวนการที่สำคัญ เพื่อเก็บหลักฐานเชิงประจักษ์ และรู้ว่าปลายทางในการจัดการกับบรรจุภัณฑ์ที่มาจากการอุปโภคบริโภคของคนในชุมชนเป็นอย่างไร เกิดปัญหาอะไร มีช่องว่างในการเรียกเก็บกลับคืนและนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลตรงไหน ชุมชนขาดทรัพยากรอะไร นำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์และหาแนวทางการแก้ไขที่เหมาะสมเพื่อให้ทุกภาคส่วนเข้าใจในบทบาทของตนเองในการจัดการขยะทุกประเภทในชุมชนรวมถึงบรรจุภัณฑ์ และร่วมรับผิดชอบได้อย่างเต็มที่”


กิจกรรมตลอด 3 วัน อาสาสมัครได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงผ่านการพูดคุยกับผู้นำชุมชน ลงมือเก็บขยะร่วมกับชาวบ้าน เข้าใจเรื่องการจัดการขยะในมิติต่างๆ เห็นมูลค่าของวัสดุรีไซเคิลที่เพิ่มขึ้น และเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน ตลอดจนส่งต่อแรงบันดาลใจให้คนรอบข้างเห็นถึงความสำคัญและเริ่มลงมือแยกขยะ เพราะ “ขยะ” จะกลายเป็น “วัสดุรีไซเคิล” ไม่ได้เลย หากไม่มีการคัดแยกตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งผลที่ได้นี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านปลุกพลังห่วงใยสิ่งแวดล้อม (Caring) ของกลุ่มธุรกิจ TCP เพื่อส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน






