HomeBig Featuredกลุ่มเซ็นทรัล ปิดบิ๊กดีล 1.8 แสนล้านเข้าซื้อกิจการกลุ่ม Selfridges ฮุบห้างหรู 18 แห่ง ใน 3 ประเทศ 

กลุ่มเซ็นทรัล ปิดบิ๊กดีล 1.8 แสนล้านเข้าซื้อกิจการกลุ่ม Selfridges ฮุบห้างหรู 18 แห่ง ใน 3 ประเทศ 

แชร์ :


กลุ่มเซ็นทรัลและซิกน่า
ปิดดีลเข้าซื้อกิจการของกลุ่มเซลฟริดเจส (Selfridges Group) จากตระกูลเวสตันอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว คว้าสิทธิ์บริหารงานในห้างสรรพสินค้ารวมทั้งหมด 18 แห่ง ภายใต้ 4 แบรนด์ ใน 3 ประเทศ ทั้งอังกฤษ ,ไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

การปิดบิ๊กดีลนี้เกิดขึ้นภายหลังประกาศลงนามในสัญญา เพื่อเข้าซื้อกิจการเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2564 ที่ผ่านมา โดยการลงทุนในครั้งนี้จะทำให้กลุ่มเซ็นทรัลก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำทางด้านธุรกิจห้างสรรพสินค้าลักชัวรี่ระดับโลก ครอบคลุม 8 ประเทศในทวีปยุโรป และแฟลกชิปสโตร์บนทำเลที่ดีที่สุดของเมืองต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้างสรรพสินค้า เซลฟริดเจส (Selfridges) บนถนนออกซ์ฟอร์ดใจกลางกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการช้อปปิ้งอันดับ 1 ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกจะต้องมาเยือน  

Selfridges

ห้างสรรพสินค้า เซลฟริดเจส (Selfridges) บนถนนออกซ์ฟอร์ดใจกลางกรุงลอนดอน

 

แม้จะไม่มีรายการมูลค่าตัวเลขของดีลยักษ์ครั้งนี้อย่างเป็นทางการ แต่  เดอะ ไทม์ส รายงานว่า ครอบครัวเวสตันตกลงขายเซลฟริดจ์ส (Selfridges) ห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ในอังกฤษ ให้กับเซ็นทรัลราว 4 พันล้านปอนด์ (หรือราว 179,784 ล้านบาท) ซึ่งเป็นการร่วมลงทุน 50/50 ระหว่างกลุ่มเซ็นทรัล และซิกน่า

สำหรับกลุ่มเซลฟริดเจส ประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้ารวมทั้งหมด 18 แห่ง ภายใต้ 4 แบรนด์ ใน 3 ประเทศ  ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า เซลฟริดเจส ในประเทศอังกฤษ, ห้างสรรพสินค้า บราวน์ โธมัส (Brown Thomas) และ อาร์นอตส์ (Arnotts) ในประเทศไอร์แลนด์ และห้างสรรพสินค้า ดี แบนคอร์ฟ (de Bijenkorf) ในประเทศเนเธอร์แลนด์ และยังเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอันที่สามารถดูดลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัลได้กว่า 30 ล้านคนต่อเดือน และมีการจัดส่งสินค้าไปยังกว่า 130 ประเทศทั่วโลก 

 

de Bijenkorf

ห้างสรรพสินค้า ดี แบนคอร์ฟ (de Bijenkorf) ในประเทศเนเธอร์แลนด์

ทั้งนี้กิจการของกลุ่มเซลฟริดเจสจะถูกนำเข้ามารวมและเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลและซิกน่าในยุโรป ที่ปัจจุบันมีห้างสรรพสินค้าลักชัวรี่ทั้งหมดถึง 22 แห่ง ซึ่งประกอบไปด้วย ห้างสรรพสินค้าที่ดำเนินธุรกิจภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล ได้แก่ รีนาเชนเต ในประเทศอิตาลี และ อิลลุม ในประเทศเดนมาร์ก และห้างสรรพสินค้าที่ดำเนินธุรกิจภายใต้ความร่วมมือระหว่างกลุ่มเซ็นทรัล และ ซิกน่า ได้แก่ คาเดเว, โอเบอร์โพลลิงเกอร์ และ อัลสแตร์เฮาส์ ในประเทศเยอรมนี, โกลบุส ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 

นอกจากนี้ยังมี โปรเจกต์ใหม่ที่จะสร้างแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้อีก 2 แห่ง ในเมืองดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี และในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย   

Brown Thomas

ห้างสรรพสินค้า บราวน์ โธมัส (Brown Thomas) ในประเทศไอร์แลนด์ ที่กลุ่มเซ็นทรัลคว้าสิทธิ์

 

คุณสเตฟาโน่ เดลลา วาลเล่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้าลักชัวรี่ของเซ็นทรัลและซิกน่าในยุโรป จะขยายบทบาทและรับช่วงต่อการนำทัพกลุ่มเซลฟริดเจสจาก “คุณแอนน์ พิชเชอร์” กรรมการผู้จัดการของกลุ่มเซลฟริดเจส ซึ่งจะยังคงดำรงตำแหน่งในทีมบริหารของบริษัทจนถึงปลายปีนี้ เพื่อดูแลการถ่ายทอดและส่งต่อธุรกิจอย่างราบรื่นไปยังทีมบริหารใหม่ 

ขณะที่การบริหารงานจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง “คุณทศ จิราธิวัฒน์” ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล และ “คุณดีเทอร์ เบอร์นิงเฮาส์” ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มซิกน่า ในการดำรงตำแหน่งเป็นประธานร่วมของกลุ่มเซลฟริดเจส 

คุณทศ จิราธิวัฒน์

คุณทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล

 

 สำหรับกลุ่มเซ็นทรัล เริ่มมีการขยายกิจการในยุโรปครั้งแรกในปี 2554 ด้วยการเข้าซื้อกิจการห้างรีนาเชนเต ประเทศอิตาลี 

  • ปี 2556 เข้าซื้อกิจการห้างอิลลุม ประเทศเดนมาร์ก 
  • ปี 2558 เข้าซื้อกิจการห้างกลุ่มคาเดเว ประเทศเยอรมนี ด้วยการร่วมทุนกับซิกน่า 
  • ปี 2563 เข้าซื้อกิจการห้างโกลบุส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยการร่วมทุนกับซิกน่า 

นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ในยุโรปอีกด้วย การลงทุนทั้งหมดนี้ทำให้ยุโรปเป็นตลาดหลักและตลาดสำคัญของกลุ่มเซ็นทรัล โดยมีผู้บริหารระดับสูงประจำอยู่หลายแห่งในทวีปยุโรป รวมทั้งที่กรุงลอนดอน ซึ่งความร่วมมือของกลุ่มเซ็นทรัลและซิกน่าในการเข้าซื้อกิจการกลุ่มเซลฟริดเจสในครั้งนี้ จะเป็นการต่อยอดและเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำของกลุ่มห้างสรรพสินค้าและอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกต่อไป


แชร์ :

You may also like