Singularity University (SU) ศูนย์รวมกลุ่มนักคิดและผู้นำด้านนวัตกรรมจากซิลิคอน วัลเลย์ ที่มุ่งให้ความสำคัญในการรับมือกับความท้าทายระดับโลกต่างๆ ผ่านการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด ได้ประกาศจัดงานสัมมนาเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ชื่อ SingularityU Thailand Summit 2018 โดยงานสัมมนาดังกล่าวจะถูกจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 20 มิถุนายน 2561 ณ โรงแรม InterContinental Bangkok กรุงเทพฯ
SingularityU Thailand Summit 2018 คือหนึ่งในกิจกรรมและโครงการที่ริเริ่มโดย บริษัท เอกซ์โพเนนเชียล วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด องค์กรที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อผลักดันศักยภาพของประเทศไทยสู่การเติบโตและก้าวข้ามรูปแบบระบบเศรษฐกิจและการพัฒนาด้านสังคมในปัจจุบัน โดยงานสัมมนาฯ ครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายในการกระตุ้นให้สังคมเกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับอิทธิพลของนวัตกรรมที่มีต่อศักยภาพการทำงาน แรงงาน อุตสาหกรรม และนโยบายสาธารณะ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในวงกว้างด้วยการเปลี่ยนแปลงทางความคิดพื้นฐาน ซึ่งผลกระทบโดยรวมที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะสามารถเปลี่ยนโฉมทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตประจำวันของมนุษย์
งานสัมมนาฯ ครั้งนี้เป็นการรวบรวมกลุ่มผู้บริหารทั้งจากทางภาครัฐและผู้นำจากภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อร่วมรับฟังผู้เชี่ยวชาญระดับโลกเกี่ยวกับเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดดเกี่ยวกับความสำเร็จและความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีในปัจจุบัน ที่จะสามารถนำไปปรับใช้กับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีเนื้อหา เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) อนาคตของวงการแพทย์ยุคดิจิทัล อนาคตของอุตสาหกรรมพลังงาน ความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ (Cybersecurity) บล็อกเชน รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ต่างๆ ระดับโลก นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังสามารถเลือกเข้าอบรมในเวิร์คช็อปนำโดยผู้เชี่ยวชาญจากดีลอยท์ (Deloitte) และ The Alchemy of Creativity ในหัวข้อ “อนาคตในโลกการทำงาน” (Future of Work) และ “ความคิดสร้างสรรค์” (Creativity) ตามลำดับ โดยงานสัมมนาฯ ในครั้งนี้ ได้มอบโอกาสผู้เข้าร่วมงานในการพบปะพูดคุยกับผู้นำและผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชา และอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อต่อยอดศักยภาพและโอกาสความร่วมมือในการพัฒนาทั้งทางด้านเทคโนโลยีและสังคมร่วมกันในอนาคตอีกด้วย
ดร.จอห์น เลสลี่ มิลลาร์ จาก บริษัท เอกซ์โพเนนเชียล วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด กล่าวว่า “SingularityU Thailand Summit ครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งถือเป็นงานนำร่องชิ้นแรกของเรา ได้ดึงดูดผู้นำด้านนวัตกรรมในภูมิภาคเข้าสู่การพูดคุยเกี่ยวกับการสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมในภูมิภาคของเราในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดดนั้น เรียกได้ว่ามีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันของเราอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การเข้ามาของอินเทอร์เน็ต การเข้าถึงสมาร์ทโฟนที่ราคาย่อมเยา และชุมชนนักพัฒนาและนวัตกรที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เราก้าวเข้าสู่ยุคของเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดดอย่างเต็มตัว แม้ว่าสำหรับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ประเทศไทย อาจยังไม่ได้อยู่ในฐานะผู้นำของโลกด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม แต่การมอบเครื่องมือและการสร้างความตระหนักรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดดจะสามารถเป็นตัวจุดประกายนวัตกรรมใหม่ๆ และชุมชนนักคิดที่จะสามารถขยายตัวไปทั่วภูมิภาคได้ นอกจากนี้ ในฐานะศูนย์กลางของเทคโนโลยีประยุกต์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังมีศักยภาพในการร่วมพัฒนาความยั่งยืนในระดับโลก แต่ก้าวแรกที่สำคัญ ซึ่งเราหวังว่าจะเป็นผลลัพธ์ที่ได้จากงานสัมมนาฯ ในครั้งนี้คือ การจุดประกายการพูดคุยเกี่ยวกับความสำคัญของการเติบโตแบบก้าวกระโดดภายในภูมิภาค โดยจากงานสัมมนาฯ คาดว่า เราจะได้เห็นอนาคตที่เหล่าผู้นำจะได้รวมกลุ่มกันสร้างการเติบโต ทั้งในภาคส่วนของตนและกับส่วนอื่นๆ ร่วมกัน”
ปีเตอร์ ไดแมนดิส ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานของ Singularity University กล่าวว่า “คนอาจไม่รู้สึกว่าโลกของเรากำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก และด้วยความรวดเร็วนี้เอง ทำให้ผู้นำอุตสาหกรรมของโลกจำเป็นที่จะต้องติดตามการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโลกเหล่านี้ให้ทัน เพราะการเข้าใจเพียงเทคโนโลยีของวันนี้ จะทำให้คุณช้าเกินไปสำหรับวันพรุ่งนี้”
นอกจากนี้ วิทยากรภายในงานได้กล่าวดังนี้
แมนดี้ ซิมป์สัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารจากบริษัทที่ปรึกษา Cyber Toa กล่าวว่า “คุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับบล็อกเชน แต่มันไม่ได้เกี่ยวกับบิทคอยน์เท่านั้น บล็อกเชนอาจเป็นสิ่งที่จะพลิกโฉมธุรกรรมการเงินของคุณทั้งหมด” ทั้งนี้ บล็อกเชนทำงานในลักษณะเป็นตัวกลางที่เชื่อมโยงฐานบันทึกข้อมูลทั้งหมด โดยในขณะนี้ ได้มีธนาคารไทยหลายแห่งที่กำลังร่วมมือสร้างชุมชนบล็อกเชนในไทยเอง
วิเวียน หมิง ผู้ร่วมก่อตั้ง Socos Labs กล่าวว่า “เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์ ด้วยข้อมูลที่เพียงพอ AI สามารถทำงานในลักษณะเดียวกันได้อย่างรวดเร็วและด้วยต้นทุนที่ถูกกว่า ซึ่งจะทำให้การดำเนินธุรกิจของเราเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย จึงเป็นสิ่งที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”
ทั้งนี้ งานสัมมนา SingularityU Thailand Summit ได้รับการสนับสนุนจากหลากองค์กร ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ได้แก่ อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์, ธนาคารไทยพาณิชย์, ทรู คอร์ปอเรชั่น, บริษัท เมืองไทย ประกัรชีวิต, ดีลอยท์ (Deloitte), สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA), ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET), องค์กร Young Presidents’ Organization (YPO) ประจำประเทศไทย, สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA), เอสเอพี (SAP), ซิสโก (Cisco), Mitsui Fudosan Asia (Thailand) และ บริษัท สิงห์ เวนเจอร์
ตัวอย่างรายนามผู้เข้าร่วมสัมมนา
- เดวิด โรเบิร์ตส์ รองประธานกรรมการ จาก Singularity University และหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้าน เทคโนโลยีที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และมีผลกระทบอย่างก้าวกระโดด
- จอห์น เฮเกิล ผู้ก่อตั้งและประธานร่วม Deloitte Center for the Edge
- ดร. แดเนียล คราฟท์ ประธาน Singularity University’s Exponential Medicine และ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ประจำ Stanford และ Harvard
- ดร. วิเวียน หมิง กรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านประสาทวิทยาการรับรู้ของ Singularity University และนักประสาทวิทยาศาสตร์เชิงทฤษฎี
- ราเมซ นาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านพลังงานของ Singularity University นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ นักอนาคตศาสตร์ นักลงทุน Angel Investor และผู้ประพันธ์เจ้าของรางวัลมากมาย
- แมนดี้ ซิมป์สัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านความปลอดภัยด้านข้อมูล บล็อกเชน และสกุลเงินคริปโต ของ Singularity University และประธานบริหารบริษัทที่ปรึกษา Cyber Toa
- นาแธเนียล คาลฮูน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ Singularity University’s Global Solutions Program (GSP) และรองประธาน Global Grand Challenges
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SingularityU Thailand Summit ได้ที่ http://www.singularityuthailandsummit.org/ และติดตามกิจกรรมของบริษัท เอกซ์โพเนนเชียล วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ได้ในโอกาสต่อไป