ประเทศเยอรมัน เป็นหนึ่งในประเทศสมาชิก EU ที่มีวัฒนธรรมหลากหลายเชื้อชาติมากที่สุด ไม่แพ้หลายๆประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมา ประเทศเยอรมันก็ได้เปิดรับผู้ลี้ภัยสงครามจากประเทศแถบตะวันออกกลางให้สามารถเข้ามาเป็นผู้ลี้ภัยในประเทศได้ เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่า นโยบายการเปิดรับผู้ลี้ภัยเข้าประเทศ จะได้ดำเนินการผ่านมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่ความเกลียดชังผู้ลี้ภัย ในสายตาความเหยียดเชื้อชาติ จากเจ้าของประเทศ ก็ยังคงมีอยู่อย่างเหนียวแน่น…เพื่อออกมาประกาศจุดยืน ในการต่อต้านการเหยียดเชื้อชาตินี้ ห้าง Edeka จึงออกมาทำอะไรสักอย่าง ซึ่งการกระทำนี้…นอกจากจะเป็นการกระทำที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์แล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญทางจริยธรรมของห้าง Edeka อีกด้วย
พวกเขาโละสินค้า ”ทุกอย่าง” ที่เป็นของต่างชาติออก ซึ่งแน่นอนว่า ภาพที่เห็นก็ต้องเป็นภาพ เชลฟ์วางสินค้าที่แทบจะว่างเปล่านั่นเอง และเพื่อเป็นการสื่อสารไอเดียชัดเจน พวกเขาจึงทำป้ายไปติดตามเชลฟ์ว่างต่างๆ ที่เป็นข้อความรณรงค์เรื่องการเหยียดเชื้อชาติ เช่น “This shelf is quite boring without variety – เชลฟ์นี้น่าเบื่อ เพราะมันขาดความหลากหลาย”, “This is how empty a shelf is without foreigners – นี่คือความว่างเปล่าของเชลฟ์ ที่ไม่มีของต่างชาติ” และ “We will be poorrer without diversity – เราจะยากลำบากแน่ๆถ้าสังคมไม่มีความหลากหลาย” นอกจากเชลฟ์สินค้าปกติแล้ว สินค้าอื่นๆ อย่างเช่น ผักในสลัดบาร์ หรือ ชีสแผนกชีส ก็ถูกโละออกเช่นกัน แน่นอนว่า จะต้องไม่มีมะเขือเทศจากสเปน, ชีส จากประเทศกรีซ หรือ วัตถุดิบจากประเทศอื่นๆแน่ๆ
ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นได้อย่างเด่นชัดว่า ถึงแม้ประเทศเยอรมันจะเป็นประเทศทรงอำนาจขนาดไหน พวกเขาก็ต้องพึ่งพาสินค้า และ แรงงานจากประเทศอื่นๆอยู่ดี เท่าที่เห็นแคมเปญนี้ เป็นแคมเปญระยะเวลา 1 วันเท่านั้น ที่พวกเขาโละสินค้า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นี่เป็น 1 วัน ที่สื่อจากทุกประเทศ รวมถึงชาวโซเชียลทั่วโลก ให้ความสนใจติดตามเป็นอย่างมาก
โดยตัวแทนของ ห้างสรรพสินค้า Edeka ได้ออกมากล่าวว่า “ห้าง Edeka ของเรามีจุดยืน ที่จะสนับสนุนความหลากหลายทางเชื้อชาติอยู่แล้ว เพราะเราขายสินค้าหลากหลายมากมาย ซึ่งสินค้าต่างๆเหล่านี้ก็ได้ถูกผลิตขึ้นจากหลากหลายภูมิภาค และทางเรารู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่แคมเปญของเราได้รับผลตอบรับในเชิงบวกมากมาย”
อย่างไรก็ตามถึงแม้ จะได้กระแสตอบรับที่ดี และ ได้รับการพูดถึงจากสื่อมวลชนจากทั่วโลก แคมเปญนี้ก็หนีไม่พ้นกระแสการเมืองได้จริงๆ เริ่มจากการออกมา ชมเชย จาก สมาชิกพรรคการเมืองอาวุโส จากพรรค CDU ของ นายกรัฐมนตรี Angela Merkel ว่าแคมเปญนี้ถือว่าเป็น “Wise move” หรือเป็นการออกมาเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาด แต่ นาย Marcus Pretzel จากพรรคทางเลือกเยอรมันต่อต้านผู้อพยพ ได้ออกมาตอบโต้ว่า “ทำไมสิ่งนี้ถึงเป็นการกระทำที่ชาญฉลาด ผมว่ามันเป็นการกระทำที่บ้ามากๆต่างหาก” ซึ่งหากมองว่า นี่เป็นสีสันที่เกิดขึ้นใน Conversation ที่เกิดขึ้นระหว่างจัดแคมเปญนี้ก็ถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะสิ่งนี้ ยิ่งเป็นเหมือนไฟ ที่จุดติด ความโด่งดัง ให้กับแคมเปญและแบรนด์มากขึ้น ซึ่งหลังจากนี้คงต้องติดตามกันต่อไปว่า แคมเปญนี้จะได้รับการพูดถึงต่อไป อย่างไรบ้าง…
Story by Nuttanun V.