HomePR News“ตู้ยาไบโอฟาร์ม”ความห่วงใยที่ไม่รู้จบจาก “ผู้พิทักษ์” สู่“ชุมชนรักษ์ป่า” [PR]

“ตู้ยาไบโอฟาร์ม”ความห่วงใยที่ไม่รู้จบจาก “ผู้พิทักษ์” สู่“ชุมชนรักษ์ป่า” [PR]

แชร์ :

%e0%b8%95%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%a2%e0%b8%b2

โครงการ “ตู้ยา BIOPHARM เพื่อชุมชน ปีที่2”ของบริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัด มอบตู้ยาและเวชภัณฑ์ให้กับหน่วยพิทักษ์ป่าและจุดสกัดที่อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในพื้นที่ผืนป่าตะวันตก รวมทั้งหมด 100 ตู้ เป็นการมอบความห่วงใยแทนคำขอบคุณไปยังผู้พิทักษ์ป่าไทยให้มีสุขภาพแข็งแรง ให้มีความพร้อมเต็มที่ในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลผืนป่าแผ่นดินไทยอย่างเข้มแข็ง และไบโอฟาร์มยังตั้งใจมอบความห่วงใยไปยังชุมชนโดยรอบหน่วยพิทักษ์ป่าอีกด้วย ตามปรัชญาของบริษัทที่ว่า “โอบอุ้มดูแลทุกคุณค่าชีวิต”

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

โดยเมื่อเร็วๆ คณะผู้บริหารของบริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัด ได้ลงพื้นที่มอบตู้ยาและยาคุณภาพให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเป็นพื้นที่สุดท้าย ที่อุทยานแห่งชาติพุเตย จ.สุพรรณบุรี ต่อเนื่องไปถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง รวมทั้งสิ้น 33 ตู้ และปิดท้ายโครงการดีๆครั้งนี้ ด้วยการมอบตู้ยาแก่ชุมชนบ้านห้วยหินดำ พร้อมยาแก้ไข้และวิตามินต่างๆ แก่เด็กๆโรงเรียนบ้านห้วยหินดำ ที่ส่วนใหญ่เป็นเด็กชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง เด็กๆออกมาต้อนรับผู้มาเยือนด้วย “การละเล่นรำตง” ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงพื้นบ้านของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงโปว์ ได้รับการบอกเล่าว่า มีหน่วยงานเข้ามาช่วยดูแลสุขภาพของเด็กๆที่โรงเรียนบ้านห้วยหินดำแห่งนี้อยู่เสมอๆ แต่ยาที่ได้รับมักเป็นยาสำหรับผู้ใหญ่ที่บางครั้งไม่เหมาะกับเด็ก ทางไบโอฟาร์มจึงได้เตรียมยาลดไข้สำหรับเด็กมามอบให้กับโรงเรียนบ้านห้วยหินดำจำนวนหนึ่ง รวมไปถึงอาหารเสริมสำหรับเด็กๆ ที่อยู่ในรูปของเยลลี่ Gummy เคี้ยวดีมีประโยชน์ ที่เด็กๆชอบ เพิ่มคุณค่าด้วย Multivitamin และน้ำมันปลาหรือ Fish Oil ที่มี Omega 3

นอกจากนั้นแล้ว ทีมผู้บริหารของไบโอฟาร์ม ยังได้เยี่ยมชมวิถีชีวิตนักอนุรักษ์ป่า ชาวชุมชนบ้านห้วยหินดำ หมู่ที่ 6  จ.สุพรรณบุรี ด้วย ซึ่งหัวหน้าชุมชนเล่าว่า ชาวเขาชอบอยู่กับป่า ชอบอยู่กับธรรมชาติยอมรับว่าเดิมเคยบุกรุกป่า ทำลายป่า แต่ตอนนี้หยุดแล้วและเข้าร่วมโครงการ “ป่าชุมชน” ขอเป็นอีกหนึ่งแรงในการทำหน้าที่ดูแลผืนป่า อนุรักษ์ป่าอย่างยั่งยืน รักษ์ดิน รักษ์น้ำ สร้างฝายมีชีวิตชะลอน้ำไหลน้ำหลาก เก็บกักน้ำให้เต็มอิ่มอยู่ตลอดเพื่อให้ต้นไม้ในป่าเขียวชอุ่มทั้งปี  และก็ปลูกพืชผักอินทรีย์ไม่พึ่งสารเคมีรวมไปถึงริเริ่มโครงการ “ป่าในบ้าน” เก็บเมล็ดพืชสมุนไพรในป่านำมาขยายพันธุ์ในสวนหลังบ้านเพื่อลดการบุกรุกป่า สร้างงานสร้างอาชีพ สร้างชื่อเสียงชุมชนด้วย “ชาสมุนไพร” เช่น ชามะแว้งแก้ไอแก้เจ็บคอ หรือการดื่มชาสมุนไพรเพื่อปรับธาตุให้สมดุล เช่น ถ้าธาตุร้อนต้องปรับให้เย็นด้วยชาใบย่านางแต่ถ้าธาตุเย็นต้องดื่มชาสมุนไพรจากอบเชยหรือฝาง เป็นต้น และในอนาคตจะพัฒนาป่าชุมชนให้เป็นพื้นที่เรียนรู้เรื่องสมุนไพรสำหรับเยาวชนในชุมชนอีกด้วย

ทางด้านเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งซึ่งเดินทางมาประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าของอุทยานแห่งชาติพุเตย ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ก็ได้รับมอบตู้ยาไบโอฟาร์มและเตรียมนำกลับไปใช้งานในพื้นที่ ก็ได้บอกเล่าถึงการทำงานว่า “ทุกครั้งที่ก้าวขาเข้าป่าไปทำงานคือความเสี่ยง ห้วยขาแข้งจะลาดตระเวนในป่าครั้งละ 5 วัน จะต้องเสี่ยงกับโรคภัย หนีไม่พ้นเรื่องบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยบ้าง เห็บร้ายกว่ายุง ทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือด ไข้มาลาเรีย หรือแม้แต่พิษสุนัขบ้าอาจบาดเจ็บจากการปะทะกับผู้บุกรุก หรือโดนยิงจากปืนผูกของนายพรานที่ทำไว้ดักสัตว์  รวมไปถึงการปะทะกับสัตว์ป่า เช่น โดนกระทิงชนตับฉีก โดนเสือข่วน เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ก็อยากให้ห้วยขาแข้งเป็นแหล่งเก็บพันธุกรรมของพันธุ์ไม้และสัตว์ป่าที่สมบูรณ์ เมื่อห้วยขาแข้งสมบูรณ์พื้นที่รอบๆป่าก็จะสมบูรณ์ตามไปด้วย”  ส่วนเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าของอุทยานแห่งชาติพุเตย จ.สุพรรณบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า “หน้าที่ของผู้พิทักษ์ป่า คือ การปกป้องผืนป่าและต้องเพิ่มปริมาณป่าให้มากที่สุด”

นายปริญญา เปาทอง ผู้อำนวยการฝ่ายประสานงานองค์กรบริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัดผู้นำนวัตกรรมเวชภัณฑ์ยาและอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ  กล่าวปิดท้ายว่า “เราเป็นบริษัทยาคนไทย เพื่อคนไทย ที่มุ่งมั่นให้คนไทยทุกคนสุขภาพแข็งแรง และรับประทานยาให้น้อยที่สุด เราจึงได้มีโครงการนี้ขึ้นเพื่อให้ให้คนไทยได้มียาสามัญไว้บรรเทาอาการของโรคต่างๆ ในเบื้องต้น”

สำหรับโครงการ ตู้ยา  BIOPHARM เพื่อชุมชน ปีที่ 2 นอกจากจะมอบความห่วงใยด้วยยาคุณภาพให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ที่ค่อนข้างสุ่มเสี่ยงต่อชีวิตและสุขภาพ ตามรอยพระราชปณิธานฯ ในการดูแลรักษาป่าเพื่อชีวิตที่ยั่งยืนของคนไทยโดยเราเริ่มต้นกระจายตู้ยาที่

– จังหวัดกาญจนบุรี เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จำนวน 17 ตู้

– อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จำนวน 10 ตู้

– อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จำนวน 14 ตู้

– อุทยานแห่งชาติไทรโยค จำนวน 14 ตู้

– อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จำนวน 13 ตู้

– ต่อเนื่องไปยังอุทยานแห่งชาติพุเตย จ.สุพรรณบุรี และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งและชุมชนบ้านห้วยหินดำ รวมทั้งสิ้น 33 ตู้

ไบโอฟาร์มยังอยากสะท้อนให้เห็นถึงการทำงานที่ทุ่มเทของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เสียงปืนของผู้พิทักษ์ในป่าที่ต้องต่อสู้กับขบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่ายังคงดังอยู่ทุกวัน เสียงปืนที่ดังอยู่ในป่าอยากให้ดังมาถึงคนนอกป่าทั้งประเทศ ให้ได้รู้ถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ป่า ช่วยกันรักษาป่า รักษาน้ำของแผ่นดินไทยเพื่อความยั่งยืนของชีวิตและประเทศชาติต่อไป ไม่อยากให้การทำงานที่ทุ่มเทของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทุกท่านไร้ความหมาย และอยากมอบความห่วงใยไปยังชุมชนที่ห่วงแหนและขันอาสาดูแลป่าด้วย เพราะไบโอฟาร์มเชื่อมั่นว่า “ถ้าคนรักษ์ป่า ป่าก็จะรักชุมชนเช่นกัน”


แชร์ :

You may also like