HomeDigitalผ่า 6 เทรนด์อินเตอร์เน็ต จะเกิดอะไรขึ้นในปี 2015 (Internet Trends 2015)

ผ่า 6 เทรนด์อินเตอร์เน็ต จะเกิดอะไรขึ้นในปี 2015 (Internet Trends 2015)

แชร์ :

6 internet trends 2015

เป็นอีกหนึ่งปีที่ Mary Meeker หนึ่งใน Partner ของบริษัท Kieiner Perkins Cacfield Byers (KPCB) บริษัท Venture ยักษ์ใหญ่ของอเมริกา ที่เคยให้การสนับสนุน Amazon, Google, Lending Club, Nest, Twitter เป็นต้น  ล่าสุดได้จัดทำแนวโน้มของอินเตอร์เน็ตของปี 2015 (internet Trends ของปี 2015) โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจดังนี้

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

1. สภาพแวดล้อมการทำงานในอเมริกาเติบโตขึ้น 

– กลุ่มคนทำงานอายุ 15-35 หรือ Millennial คือกลุ่มคนที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาปี 2015 ซึ่งจัดเป็น 35% ของประชากรคนทำงานทั้งหมด

– เมื่อเลือกงาน กลุ่ม Millennial มักจะให้ความสำคัญในเรื่อง การเทรนนิ่งเพื่อการพัฒนาตนเอง มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งที่ 21% รองลงมาคือ ชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น 19% และเงินโบนัส 14%

Job Desires

– อย่างที่ทราบกันดีว่าการเข้าถึงของเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตนั้นพัฒนาขึ้นไปเยอะมาก ปี 2014 พบว่าอินเตอร์เน็ตนั้นครอบคลุมถึง 84% แล้วจากประชากรทั้งหมด และการเชื่อมต่อผ่านจากมือถือเพิ่มขึ้นเป็น 64% จากเพียงแค่ 18% ในปี 2009

– ในปี 2014 มูลค่าตลาด E-Commerce ถือเป็น 9% ของยอดขายจากร้านค้าปลีก

2. Re-Imagining ยังมีอย่างต่อเนื่อง

-Re-Imagining Computing: ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ อะไรๆมันก็ง่ายขึ้น เราจะเห็นว่าแต่ก่อนกว่าเราจะทำ Offline Payment ได้ครั้งนึงต้องมีขั้นตอนยุ่งยากมากมาย สมัยนี้แค่บัตรเครดิตใบเดียวก็พอแล้ว หรือการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ สมัยนี้ก็มีโปรแกรมสำเร็จรูปให้เราคีย์ข้อมูลและช่วยเราวิเคราะห์ออกมาได้อย่างง่ายดาย

-Re-Imagining Messaging: สมัยนี้มีน้อยคนนักที่จะใช้แอพ Messaging คล้ายๆกัน เพราะแต่ละคนก็ใช้แอพเพื่อส่งข้อความคนละจุดประสงค์ แตกต่างกันไปในแต่ละสถานการณ์

-Re-Imagining Content: User-Generated Content บน Pinterest ตอนนี้มีอัตราเติบโตจากปี 2014 เฉลี่ยอยู่ที่ 75% Snapchat มีผู้ใช้นิยมอัพโหลดวีดีโอของตนเองแบบ Real-Time มากขึ้น วีดีโอชื่อ Coachella มีจำนวนคนดูมากกว่า 40 ล้านภายใน 3 วัน ส่วน Facebook นั้น 50% ของผู้ใช้ดูวีดีโออย่างน้อย 1 วีดีโอต่อวัน 53% ของยอดวิวของวีดีโอนั้นได้มาจากที่คนแชร์ต่อ และ 75% ดูผ่านมือถือ

-Re-Imagining Internet Usage: คนอายุ 12-14 ปีก็ยังคงเป็น Trend Settler ที่อเมริกา แอพที่วัยรุ่นพวกนี้ใช้มากที่สุดในปี 2015 คือ Facebook 74% ตามมาด้วย Instagram 59% และ SnapChat 57% แต่ 32% ของพวกเขาเห็นตรงกันว่า Instagram คือแอฟที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา (วัดช่วง Spring 2015) กลุ่ม Millennial ในอเมริกาติดสมาร์ทโฟนกันมาก โดยที่ 87% บอกว่า “สมาร์ทโฟนอยู่กับเขาตลอดเวลา” 44% ใช้กล้องสมาร์ทโฟนทุกวัน และ 76% โพสรูปเหล่านั้นบนโลกโซเชียล

3. เทรนด์สำคัญบนโลกอินเตอร์เน็ต

-จำนวนผู้ใช้อินเตอร์ทั่วโลกเติบโตขึ้นอย่างช้าๆโดยในปี 2014 โตขึ้นเพียง 8% เมื่อเทียบกับปี 2013 ที่ 10% และ 2012 ที่ 11%

-จำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนทั่วโลกในปี 2014 เติบโตขึ้น 23% จากปี 2013 โดยมีผู้ใช้อยู่ 1 พันล้านคน ถือว่าเป็นการโตที่ช้าลงเมื่อเทียบกับปี 2013 ซึ่งโตจากปี 2012 อยู่ 27%

-ประเทศตลาดกำลังพัฒนานั้นมี GDP เฉลี่ยอยู่ที่ 13,000 เหรียญ วัดจากประเทศที่มีประชากรมากกว่า 50 ล้านคน โดยจากจำนวนประชากรนั้น มีคนที่ใช้สมาร์ทโฟนน้อยกว่า 50%

-จำนวนผู้ใช้ Mobile Data ทั่วโลกเติบโตขึ้น 69% ในปี 2014 ซึ่งลดลงจากปี 2013 ที่เติบโตจากปี 2012 81%

-ปี 2015 เป็นปีที่เห็นการเติบโตของโมบายมากที่สุด โดยมีผู้ใช้โมบายเดต้าที่อเมริกา วันละ 8 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งจัดเป็น 51% ของจำนวนชั่วโมงที่คนส่วนใหญ่ใช้งานออนไลน์ (5.6 ชั่วโมง)

Mobile Time Spending

-ที่อเมริกาปี 2014 24% ของเวลาที่ผู้บริโภคเสพสื่อคือเสพผ่านมือถือ แต่นักการตลาดทุ่มงบโฆษณาไปให้สื่อโมบายเพียงแค่ 8% จากจำนวนงบโฆษณาทั้งหมด

-สำหรับงบโฆษณาออนไลน์ โฆษณาบนมือถือในปี 2014 โตขึ้น 34% ในทางกลับกันโฆษณาบนเดสท็อปเติบโตลดลงที่ 11%

-เนื่องจากโมบายนั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว Social Network ต่างๆจึงเริ่ม Optimize โฆษณาบนมือถือกันมากขึ้น เช่นสมัยนี้เรามักจะเห็นปุ่ม “Buy” ให้คนกดซื้อผ่านโฆษณาต่างๆไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Twitter ได้แล้ว

-ยุคสมัยเปลี่ยนไป การเสพสื่อสมัยนี้โดยเฉพาะโมบายก็เปลี่ยนไป จาก ตัวอักษร เป็น รูปภาพ เป็น วีดีโอ และจะเป็นทุกๆอย่าง

4. โลกอินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน

-จำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก 35 ล้านในปี 1995 (0.6% จากประชากรทั่วโลก) เป็น 8 พันล้านคนในปี 2014 (39% ของประชากรทั่วโลก)

-จำนวนผู้ใช้มือถือทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก 80 ล้านใน 1995 (1% จากประชากรทั่วโลก) เป็น 2 พันล้านคนในปี 2014 (73% ของประชากรทั่วโลก)

-มูลค่ารวมของ Top 15 Public Internet Company คือ 4 ล้านเหรียญ โดย Apple เป็นบริษัทที่มีมูลค่ารวมมากที่สุด อยู่ที่ 763,567 เหรียญ

5. จีน/อินเดีย: ตลาดใหม่ ตลาดใหญ่

-WeChat ครองตลาดจีน โดยเมื่อตรุจีนที่ผ่านมา มีคนส่งซองอังเปาแบบดิจิตอลบน WeChat มากกว่า 1 พันล้านครั้ง และมีคนใช้ฟังชั่น Shake มากถึง 11 พันล้านจากจำนวนผู้ใช้ทั้งหมด 20 ล้านคน เพื่อรับ Gift จากกิจกรรมของ CCTV’s New Year Gala TV Show

-มี Case Study ของ Documentary Film ชื่อ Under the Dome ซึ่งมียอดวิวมากกว่า 200 ล้าน ภายใน 3 วันหลังจากที่ปล่อย โดย 41% ของยอดวิวนั้นมาจาก WeChat

-นอกจากนี้ WeChat ยังช่วยให้รัฐบาลสามารถสื่อสารกับประชาชนได้มากขึ้น โดยบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ก็ทำผ่าน WeChat ทั้งสิ้น

Chinese Government WeChat

-ทางฝั่งอินเดีย ตอนนี้มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ต 232 ล้านคน เพิ่มขึ้น 37% จากเมื่อปีที่แล้ว โดยเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตหน้าใหม่มากที่สุดในโลก (เพิ่มขึ้น 63 ล้านในปี 2014)

-ในไตรมาสแรกของปี 2015 แอฟที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยของอินเดียใช้งานมากที่สุดคือ Whatsapp รองลงมาคือ Facebook

-ประเทศอินเดียเป็นประเทศที่มีคนใช้อินเตอร์เน็ตผ่านมือถือมากถึง 65% ซึ่งจัดเป็นที่สองรองจากประเทศไนจีเรียซึ่งมีผู้ใช้งาน 76% เท่านั้น

-สำหรับอินเดียแล้ว ยอดขาย E-Commerce กว่า 41% นั้นมาจากการสั่งซื้อผ่านมือถือสมาร์ทโฟนทั้งสิ้น

Global E-Commerce Sale

6. ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับบริษัทมหาชนและเอกชน

-Apple ยังมีมูลค่าตลาดรวมและรายได้มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งอยู่ที่ 764 พันล้านเหรียญ และ 199,800 ล้าน เหรียญ ตามลำดับ ซึ่งทิ้งห่าง Google ที่มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 373 พันล้านเหรียญ และรายได้รวมทั้งหมด 66,001 ล้านเหรียญ

-บริษัทจากประเทศจีนชื่อดังอย่าง Alibaba ขึ้นแท่นอันดับสาม โดยในปี 2015 นี้มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 233 พันล้านเหรียญ และทำรายได้ไปได้ 11,416 ล้านเหรียญ

Internet Public Market Leader

รายงานฉบับเต็ม

Photo


แชร์ :

You may also like