กลายเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่มาแรงทั้งในไทยและต่างประเทศ สำหรับตลาดความงามมูลค่ากว่า 2.7 แสนล้านบาทของไทย ที่กำลังแจ้งเกิดในเวทีระดับโลกได้อย่างสวยงามในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะด้วยคุณภาพ ความนิยม บวกกับกระแส T Beauty ที่มาแรง ทำให้แบรนด์ไทยได้รับความนิยมตามไปด้วย
ศรีจันทร์ (SRICHAN BANGKOK 1948) คืออีกหนึ่งแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในตลาดความงาม แม้จะเป็นแบรนด์เก่าแก่ แต่ด้วยการปรับตัว พัฒนาสินค้าใหม่ ทำให้ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ชื่อของ “ศรีจันทร์” กลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ในใจที่ใครหลายคนนึกถึง
“ถ้า PARIS ,MILAN , NEW YORK , LONDON อยู่ในชื่อแบรนด์ดังระดับโลกได้ แล้วทำไม BANGKOK จะอยู่ต่อท้ายชื่อแบรนด์ไทยไม่ได้ เท่จะตาย….” คุณรวิศ หาญอุตสาหะ ประกาศเจตจำนงของการเติมที่มาของแบรนด์ลงบนชื่อ Srichand Bangkok 1948 แบรนด์ความงามสัญชาติไทยที่พลิกภาพจาก “แป้งในตำนาน” สู่แบรนด์บิวตี้แห่งความหวังของอุตสาหกรรมความงามยุคใหม่ T-Beauty (การแต่งหน้า และความงามแบบไทย) อุตสาหกรรมความงามไทยที่พร้อมเป็น Soft Power สำคัญของประเทศ พร้อมทะยาน Global Brand ในอนาคต
การเติมคำว่า “BANGKOK 1948” (ปีที่ก่อตั้ง) ลงบนชื่อแบรนด์ให้เป็น SRICHAN BANGKOK 1948 นับเป็นอีกความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของ “ศรีจันทร์” แบรนด์สกินแคร์สัญชาติไทยอายุอานามกว่า 77 ปีที่ประสบความสำเร็จในการรับมือตลาดความงามด้วยยอดขายกว่า 1,600 ล้านบาทในปี 2567 ที่พร้อมก้าวสู่ยุคใหม่ของการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งกับนิยาม “The Dawn of Thai Beauty Era” หรือ “ยุครุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลง” ครั้งใหม่
คุณรวิศ หาญอุตสาหะ
ปลุกตำนาน Rebranding เปลี่ยน ‘แป้งโบราณ’ ให้กลายเป็น Must-Have Item
ต้นกำเนิดของ “ศรีจันทร์” เริ่มขึ้นในปี 2488 (1948) ในฐานะร้านขายยาเล็ก ๆ บนถนนบำรุงเมือง ที่เชื่อมั่นในพลังของสมุนไพรไทย จากผลิตภัณฑ์พื้นฐานอย่าง “ผงหอมศรีจันทร์” จนกลายเป็นเครื่องสำอางสามัญประจำบ้านของสาวไทยในยุคนั้น แต่สิ่งที่โดดเด่นคือการไม่ทิ้ง “แก่น” ของความเป็นไทย แม้เวลาจะเปลี่ยนแปลงไป
การกลับมาครั้งสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ “คุณรวิศ หาญอุตสาหะ” ทายาทรุ่นสองเข้ามาสานต่อกิจการครอบครัว โดยเริ่มต้นยุคแห่งการ “Rebranding” ในปี 2010 พร้อมแนวคิด “Modern Classic Thainess” ที่ผสมความเป็นไทยดั้งเดิมกับความร่วมสมัย
“ถ้าต้องการจะต่อเรือ อย่าเพียงแค่ระดมคนตัดไม้ แต่จงสอนให้เขาอยากออกไปโลดแล่นในมหาสมุทรที่ไม่มีวันสิ้นสุด นั่นคือปรัชญาที่หล่อหลอมแบรนด์ศรีจันทร์ให้พร้อมทะยานสู่โลกในฐานะตัวแทนความภูมิใจของไทย” คุณรวิศ กล่าวถึงแนวคิดและคติประจำใจที่นำมาใช้ในการทำงาน
“แป้งม่วงศรีจันทร์” หรือ Bare to Perfect Translucent Powder กลายเป็นผลิตภัณฑ์ไอคอนิก ที่ครองใจสาวไทย และขึ้นแท่น อันดับ 1 ในกลุ่มแป้งฝุ่นในประเทศไทย (ข้อมูลจาก NielsenIQ, 2024) แต่เมื่อโลกต้องเผชิญโควิด-19 ในปี 2021 ศรีจันทร์กลับไม่เพียงแค่เอาตัวรอด แต่พลิกสถานการณ์สู่โอกาสครั้งใหญ่ ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก:
- การรีพอร์ตโฟลิโอสินค้า: ขยายจากแค่ “แป้ง” สู่กลุ่มสกินแคร์ กันแดด เมคอัพ
- การฟังเสียงผู้บริโภค: คนไทยให้ความสำคัญกับ ส่วนผสม มากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก ศรีจันทร์จึงลงทุนในคุณภาพและการสื่อสารผ่าน Insight ที่ลึกซึ้ง
- สร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่: ดึงคนรุ่นใหม่ให้มาร่วม “เชื่อ” และ “สร้าง” วัฒนธรรมองค์กรยุคใหม่ไปพร้อมกัน
คุณรวิศ ยังบอกอีกว่า “ในช่วงปี 2021-2024 แม้จะเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องจากโควิด-19 แต่บริษัทสามารถปรับตัวรับความท้าทายและพลิกเป็นโอกาสในการสร้างการเติบโต จนได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคทำให้บริษัทสามารถมียอดขายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2023 และเติบโตต่อเนื่องแบบ Double Digit ตั้งแต่ปี 2021-2024 โดยเฉพาะเมื่อดูจากอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสม (CAGR) ของทั้งสองแบรนด์หลักอย่างศรีจันทร์ และ ศศิ ซึ่งอยู่ที่ระดับสูงถึง 51% และ 53% ต่อปีตามลำดับ ตั้งแต่ปี 2021–2024 สะท้อนการเติบโตของบริษัทที่มาจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภค โดยยอดขายเติบโตต่อเนื่อง 4 ปี
- ปี 2021 คือ 520 ล้านบาท
- ปี 2022 คือ 717 ล้านบาท (+42.02%)
- ปี 2023 คือ 1,019 ล้านบาท (+41.92%)
- ปี 2024 คือ 1,600 ล้านบาท (58.98%)
- ตั้งเป้ายอดขายปี 2025 มากกว่า +30% – 40%
- รายได้รวมมาจากช่องทางการจำหน่ายแบบออฟไลน์ 90% และออนไลน์ 10%
ก้าวสู่ศรีจันทร์ยุคใหม่ The Dawn of Thai Beauty Era ปักธง ‘T-Beauty’ สู่ระดับโลก
ด้านตลาดต่างประเทศ “ศรีจันทร์” ก็พร้อมย้ำความเชื่อมั่นต่อ T-beauty ที่ทั้งไทยและต่างประเทศยอมรับ แม้กระทั่งญี่ปุ่นยังอิน “สุวาอิ เมคุ” เทรนด์การแต่งหน้าแบบไทย และเผยโอกาสในการรุกตลาดอาเซียนและเอเชีย ตั้งเป้าเติบโตในสัดส่วนการขายตลาดต่างประเทศเป็น 10-15% ใน 3 ปี จากปัจจุบันที่ตลาดหลักยังอยู่ที่กัมพูชา ลาวเมียนมา และเวียดนาม (CLMV)
“เทรนด์การแต่งหน้าสไตล์ไทย หรือ สุวาอิ เมคุ กำลังได้รับความนิยมในหมู่ชาวต่างชาติ จนกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ ซึ่งจากกระแสความนิยมเหล่านี้ทำให้ T-Beauty ได้รับความนิยมตามไปด้วยทั้งแบรนด์ความงาม สินค้าจากไทย มองว่านี่คือโอกาสของการเติบโตและพาแบรนด์ไประดับโลกได้ง่ายขึ้น”
จากนี้ไป “ศรีจันทร์” เร่งแผนขยายตลาดใหม่ๆ มากขึ้น โดยช่วงแรกจะโฟกัสในเอเชียก่อน ก่อนจะขยายในตลาดภูมิภารอื่นๆ เป็นลำดับถัดไป หลังการขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ สัญญาณที่ดีจากตลาด “ลาว” และ “ญี่ปุ่น”
โดยในตลาด “ลาว” มีการเติบโตเฉลี่ยต่อปี ตั้งแต่ 2021-2024 อยู่ที่ 112.5% ต่อปี สินค้าที่ได้รับความนิยมอยู่ในหมวดสกินแคร์ เช่น Moisture Burst Series, Sunscreen แป้งฝุ่นและรองพื้น สร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านการสนับสนุนกิจกรรมระดับประเทศ เช่น สนับสนุนการประกวด Miss Universe Laos ในปี 2022-2024 การจัดงานและสนับสนุน Laos Fashion Week 2024 ฯลฯ และมีการใช้ Local Brand Presenter คือ “Nethdao” อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังของลาว
ส่วนใน “ญี่ปุ่น” ปัจจุบัน ศรีจันทร์มีการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มแป้งในตลาดญี่ปุ่นผ่านช่องทางออฟไลน์มากกว่า 2,000 ร้านค้าทั่วประเทศ นอกจากนั้น ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของศรีจันทร์ ทำให้ BANDAI บริษัทผลิตของเล่นจากประเทศญี่ปุ่นขอซื้อลิขสิทธิ์ของตัวแป้ง เพื่อนำไปทำเป็นกาชาปอง โดยเลือกจากแป้งที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นทั้ง 6 แบบ “ศรีจันทร์” เป็น Purposeful Brand ที่มีเป้าหมายคือความภูมิใจของคนไทย เบื้องหลังความสำเร็จที่เกิดขึ้นตลอดปี 2021 – 2025 มาจากการที่ศรีจันทร์เป็น Purposeful Brand ที่มีเป้าหมายต้องการจะเป็นแบรนด์ไทยระดับสากลที่เป็นความภูมิใจของคนไทยจากการใส่ใจผู้บริโภค
ในประเทศจีน และ CLMV เดินหน้าขยายผ่านพาร์ตเนอร์ดิสทริบิวเตอร์ที่มีเป้าหมายเดียวกัน โดยเป้าหมาย 3 ปีข้างหน้า เพิ่มสัดส่วนตลาดต่างประเทศให้ได้ 10-15% ของรายได้รวม
ต่อยอด “ศศิ (Sasi)” แบรนด์ลูกที่สะท้อนความเป็นไทย
นอกจากนี้ยังมีการต่อยอดมายังแบรนด์ใหม่ “ศศิ (Sasi)” แบรนด์ลูกของศรีจันทร์ ถือกำเนิดขึ้นในปี 2017 เจาะตลาด “Beauty Beginner” โดย Positioning ของแบรนด์คือ “The most value for money yet trendy beauty & lifestyle brand” แบรนด์ความงามและไลฟ์สไตล์ที่คุ้มค่าและทันสมัย กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองหาความคุ้มค่าและความสนุกสนานในการใช้เครื่องสำอาง โดยมีจุดแข็ง: “Kiss & Blush” ใช้ได้ทั้งตา แก้ม ปาก และกลุ่ม “Acne Sol” ที่ตอบโจทย์สิววัยรุ่น เติบโตต่อเนื่องแบบ CAGR 53% (2021-2024)
“ศศิ แตกไลน์มารับคนรุ่นใหม่ เด็กๆ Beauty Beginner การตั้งชื่อนี้เพราะต้องการรักษาความเป็นแก่นของแบรนด์ไทย ศศิ มีความหมายว่าพระจันทร์ เช่นเดียวกับศรีจันทร์ บวกกับสะกดชื่อภาษาอังกฤษเขียนง่าย เขียนสวย เลยนำมาตั้งเป็นชื่อ” คุณรวิศกล่าว
บทสรุปความสำเร็จของศรีจันทร์ไม่ได้มาจากการขายสินค้า แต่จากการ “เชื่อ” ในรากเหง้าของตัวเอง และการ “สร้าง” ให้คนอื่นเชื่อไปด้วยกัน โดยยึดมั่นใน 4 แกนหลักของ “Purposeful Brand” ประกอบไปด้วย
- Modern Classic Thainess – รากฐานของความภาคภูมิใจ
- พรีเซ็นเตอร์ร่วมสมัยแบบไทย ๆ – ใบเฟิร์น โบว์ เมลดา เป็นต้น
- คุณภาพผลิตภัณฑ์แบบจริงใจ
- วัฒนธรรมองค์กรที่ดึงดูดคนรุ่นใหม่