
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วชิร คูณทวีเทพ รองอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์ และผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจและวิเคราะห์แนวโน้ม 10 ธุรกิจดาวรุ่ง และ 10 ธุรกิจดาวร่วง ประจำปี 2569 เพื่อสะท้อนทิศทางเศรษฐกิจไทยและใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจด้านการลงทุนในระยะข้างหน้า
โดยการประเมินดังกล่าวใช้เกณฑ์การให้คะแนนรวม 100 คะแนน จาก 5 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ด้านยอดขาย ด้านต้นทุน ส่วนต่างของยอดขาย (กำไรสุทธิ) ผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงและระดับการแข่งขัน ตลอดจนความต้องการของตลาดและความสอดคล้องกับกระแสนิยม โดยให้คะแนนปัจจัยละ 20 คะแนน
พร้อมกันนี้ สถาบันฯ ได้ประกาศ เทรนด์สำคัญปี 2569 ที่จะมีบทบาทต่อการเติบโตของภาคธุรกิจ ได้แก่ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล) / Health (สุขภาพ) / Digital (ดิจิทัลและเทคโนโลยี)
10 ธุรกิจดาวรุ่ง ปี 2569
1. ธุรกิจ Cloud Service และ Cyber Security รวมถึง Social Media และ Online Entertainment
2. ธุรกิจคอนเทนต์ดิจิทัล เช่น YouTuber การรีวิวสินค้า Influencer รวมถึงธุรกิจโทรคมนาคม และนายหน้าออนไลน์
3. ธุรกิจ E-commerce การซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงธุรกิจ AI และธุรกิจความเชื่อ (สายมู หมอดู ฮวงจุ้ย)
4. ธุรกิจการแพทย์และความงาม รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ธุรกิจเงินด่วน โรงรับจำนำและธุรกิจ AI
5. ธุรกิจโลจิสติกส์ Delivery และคลังสินค้า รวมถึง Street Food ตลาดนัดกลางคืน และธุรกิจสัตว์เลี้ยง
6. ธุรกิจพลังงานทดแทน เช่น โซลาร์เซลล์ และธุรกิจอาหารเสริมสุขภาพและความงาม
7. ธุรกิจที่ปรึกษาด้านการลงทุนและการวางแผนทางการเงิน รวมถึงธุรกิจเกมส์
8. ธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) และการติดตั้ง รวมถึง FinTech และ EdTech
9. ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต รวมถึงธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (ไม่มีแอลกอฮอล์) และที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม
10. ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมถึงธุรกิจการบิน ร้านเสริมสวยและดูแลเส้นผม ธุรกิจตู้หยอดเหรียญ และธุรกิจกีฬา
10 ธุรกิจดาวร่วง ปี 2569
1. ร้านให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Café) และธุรกิจจำหน่ายและผลิตอุปกรณ์บันทึกข้อมูล
2. ร้านขายหนังสือ แผงหนังสือ และสื่อสิ่งพิมพ์
3. ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ที่ไม่มี Online Platform และส่งหนังสือพิมพ์
4. ร้านโชห่วย (Traditional Trade)
5. ธุรกิจผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
6. ธุรกิจถ่ายเอกสาร
7. ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบดั้งเดิม ไม่มีการออกแบบดีไซน์
8. ธุรกิจของเล่นเด็ก
9. ธุรกิจร้านถ่ายรูปและล้างอัดภาพแบบดั้งเดิม
10. ธุรกิจรถยนต์มือสอง
รองศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า ผลสำรวจดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจไทย โดยธุรกิจที่สามารถปรับตัวสู่ดิจิทัล ใส่ใจสุขภาพ และดำเนินงานตามหลัก ESG จะมีโอกาสเติบโตสูง
ในขณะเดียวกัน ธุรกิจดั้งเดิมที่ยังพึ่งพารูปแบบการดำเนินงานแบบเดิม ขาดการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ นวัตกรรม และการสร้างมูลค่าเพิ่ม จะเผชิญแรงกดดันจากต้นทุน การแข่งขัน และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเร่งปรับตัว เพื่อให้สามารถอยู่รอดและแข่งขันได้ในบริบทเศรษฐกิจใหม่



