บมจ.ดุสิตธานี แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2568 คุณชนินทธ์ โทณวณิก รักษาการประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มของบริษัทดุสิตธานี ได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ดุสิตธานี (สัดส่วนถือหุ้น 49.74%)
โดยคุณชนินทธ์ ได้ซื้อหุ้นบริษัท ชนัตถ์และลูก จำนวน 1,200,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 15.96% จากคุณสุนงค์ สาลีรัฐวิภาค (น้องสาวคุณชนินทธ์)
หลังจากซื้อหุ้นดังกล่าว คุณชนินทธ์ ได้ถือหุ้นใน บริษัทชนัตถ์และลูก รวมเป็นสัดส่วนเป็น 41.36% ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด
การเข้าซื้อหุ้น บริษัทชนัตถ์และลูก ดังกล่าว คุณชนินทธ์ ไม่มีการเข้าซื้อหุ้นทางตรงใน บมจ.ดุสิตธานี เพิ่มเติมแต่อย่างใด ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทชนัตถ์และลูกใน บมจ. ดุสิตธานี ไม่มีการเปลี่ยนแปลง คือ ยังคงถือหุ้นจำนวน 422,821,310 หุ้น สัดส่วน 49.74%
เดิมบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ถือหุ้นโดยทายาทของท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งดุสิตธานี ซึ่งมี 3 คน คือคุณชนินทธ์ โทณวณิก (พี่ชายคนโต), คุณสินี เธียรประสิทธิ์ และ คุณสุนงค์ สาลีรัฐวิภาค (ทั้งสองคนเป็นน้องสาวคุณชนินทธ์) ซึ่งร่วมถือหุ้นด้วยสัดส่วนใกล้เคียงกัน ดังนี้
– ตระกูลโทณวณิก สัดส่วน 26.66%
– ตระกูลเธียรประสิทธิ์ สัดส่วน 26.65%
– ตระกูลสาลีรัฐวิภาค สัดส่วน 21.68%
ช่วงเดือนสิงหาคม 2568 “ดุสิตธานี” มีความเคลื่อนไหวสำคัญ จากปมขัดแย้งศึกสายเลือด จากฝั่ง 2 ทายาท คือคุณสินี เธียรประสิทธิ์ และคุณสุนงค์ สาลีรัฐวิภาค เมื่อรวมหุ้นกันจึงถือหุ้นมากกว่าคุณชนินทธ์ ได้เสนอวาระถอดถอน คุณชนินทธ์ ออกจากกรรมการ ดุสิตธานี จากประเด็นการบริหาร ดุสิตธานีที่ไม่ได้จ่ายเงินปันผลมากว่า 5 ปีแล้ว และปัญหาการขาดทุนสะสม จึงต้องการเปลี่ยนแปลงการบริหารงานของดุสิตธานี แต่ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 ก็ “ไม่อนุมัติ” วาระถอดถอน คุณชนินทธ์ โทณวณิก ให้พ้นตำแหน่งกรรมการ
หลังจาก คุณชนินทธ์ ได้ซื้อหุ้นบริษัทชนัตถ์และลูก จากคุณสุนงค์ สาลีรัฐวิภาค รวมสัดส่วน 41.36% และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด คาดว่าจะช่วยคลี่คลายปัญหาปมขัดแย้งศึกสายเลือดการบริหารดุสิตธานีลงได้
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE