
ดร. บุรณิน รัตนสมบัติ นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวว่าทิศทางการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจและกลยุทธ์การตลาดปี 2026 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่ “โลกที่มีความฉลาดล้ำจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี” ขณะเดียวกันเปราะบางมากขึ้นจากปัญหาทางสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม การผลิตและการบริโภค ที่ไม่สมดุล
“วันนี้โลกไม่เหมือนเดิมและจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เรากำลังอยู่ในโลกที่ฉลาดล้ำ (Intelligent World) ด้วยอำนาจของเทคโนโลยี Big Data, AI ที่กำลังเป็น AI Agentic เรียนรู้และสั่งการได้ด้วยตัวเอง เราสามารถทำความเข้าใจผู้บริโภคได้อย่างไม่มีเคยมีมาก่อน เราสร้างนวัตกรรมใหม่ได้ในพริบตา และทำให้ชีวิตสะดวกสบายไร้ขีดจำกัดบนระบบอัตโนมัติ”
แต่อีกด้านหนึ่งของโลกก็มีความเปราะบางและไร้สมดุลอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จากการเติบโตของหนี้สินที่มากกว่ารายได้ ทำให้ความมั่งคั่งลดลง ปริมาณการผลิตที่สูงกว่าความต้องการใช้ทำให้เกิดการแข่งขันราคา ความแตกต่างของ Generation และความเหลื่อมล้ำทำให้มีความแตกต่างทางความคิด จนทำให้การคาดการณ์เป็นเรื่องยากมีความซับซ้อน อ่อนไหว ไม่แน่นอนและไร้สมดุล
บทบาทหน้าที่ของนักการตลาดในวันนี้ไม่ใช่แค่การขายสินค้าอีกต่อไป แต่คือการเป็นผู้นำในการสร้างความไว้วางใจ สร้างความเปลี่ยนแปลง และเป็นผู้ส่งมอบ “ความหมาย” ที่แท้จริงให้กับสังคม บูรณาการความคิด ประสบการณ์ เชิง Wisdom และ In Action บนพื้นฐานของโลกที่เล็กลง และการเปลี่ยนแปลงที่เร็วขึ้น
สรุป 5 กลยุทธ์การตลาดที่สำคัญในปี 2026
1. มองตลาดแบบ Fragmented (Fragmented Marketing): ยุคของการสื่อสารแบบ Mass Media ได้จบลงแล้ว เราต้องเข้าใจว่าผู้บริโภคถูกแบ่งเป็นกลุ่มย่อยๆ นับไม่ถ้วน (Fragmented Segments) ที่มีความต้องการเฉพาะเจาะจงสูง แบรนด์ต้องสื่อสารและสร้างประสบการณ์ที่ปรับให้เข้ากับแต่ละส่วนย่อยได้อย่างแท้จริง (Hyper Personalization) โดยสามารถใช้ความเก่งและความฉลาดของเทคโนโลยี เช่น AI มา เป็นเพื่อนคู่คิด เพื่อนร่วมงาน (Teammates)
2. เข้าใจความยืดหยุ่นทางจิตใจและธุรกิจ (Resiliency): ความสามารถในการล้มแล้วลุกขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว คือสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดของแบรนด์ เราต้องสร้างโมเดลธุรกิจและแบรนด์ที่สามารถทนทานต่อแรงกระแทกจากภายนอกได้ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตซัพพลายเชนหรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างฉับพลัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ภาวะที่สังคมเปราะบาง แบรนด์ที่ดีจะต้องบริหาร Supply chain ที่ยืดหยุ่น สร้าง ความหวัง สร้างโอกาส และเป็นกำลังใจที่ดีให้กับสังคม (Chaotic Advantage และ Brand Movement)
3. ร่วมสร้างมูลค่าร่วมให้สังคม (Value Creation and Inclusiveness): การสร้างแบรนด์ที่แตกต่าง (Differentiated Brand) จะเกิดขึ้นได้เมื่อเราสร้าง “มูลค่า” ที่มากกว่าแค่ กำไร เราต้องมองหาโมเดล Value Creation ที่สร้างประโยชน์ให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด (Stakeholders) ตั้งแต่ลูกค้า พนักงาน ชุมชน ไปจนถึงสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้ง ส่งเสริมแนวคิด Inclusiveness หรือความเท่าเทียม
4. กำหนดจรรยาบรรณและจริยธรรมให้อยู่ในใจของนักการตลาด ถึงแม้ยังไม่มีกฎหมายหรือข้อบังคับที่ชัดเจน การทำตลาดไวรัลและใช้ Influencer ยุคใหม่ต้องมี ความหมาย ไม่ใช่แค่สร้างดราม่า และยอดขาย (Drama Quality และ Influencer Guidance)
5. ให้ความสำคัญกับบริหารการเงินและกระแสเงินสด (Cash Flow Management): ในโลกที่เปราะบาง การเติบโตอย่างบ้าคลั่งโดยไม่สนใจพื้นฐานทางการเงินนั้นอันตราย นักการตลาดต้องทำงานร่วมกับฝ่ายการเงินอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ แน่ใจว่าทุกการลงทุนทางการตลาดนั้น คุ้มค่า มีประสิทธิภาพ และไม่สร้างภาระด้าน Cashflow
โลกในปี 2026 ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป การตลาดไม่ใช่แค่การขายสินค้า แต่คือการสร้างความเข้าใจในมนุษย์ สังคม และเทคโนโลยี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสังคมไทย ด้วยพลังของการตลาด เรียนรู้ ออกแบบขับเคลื่อนโลกที่ฉลาดล้ำใบนี้ให้ก้าวต่อไปอย่างเข้มแข็ง สมดุล ยั่งยืน เป็นประโยชน์ต่อทุกคน
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE



