จากเทรนด์ Shoppertainment ที่ผสมผสานระหว่างเอนเตอร์เทนเมนต์และการซื้อขายบนอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม ที่เข้ามา Disrupt และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคในการซื้อของออนไลน์ในปัจจุบัน พร้อมสร้างโอกาสการเติบโตของ “คอนเทนต์ ครีเอเตอร์” ด้วยโมเดล Affiliate หรือการปักตะกร้าบนแพลตฟอร์ม TikTok
ในงาน iCreator Conference 2025 Presented by Sony คุณจิรภัทร บุญคลัง จาก TikTok Shop Thailand ขึ้นเวทีให้มุมมองในหัวข้อ Turn Creativity into Conversion พลิกเกมคอนเทนต์เปลี่ยนคลิกเป็นยอดขายด้วย TikTok Shop สรุปได้ดังนี้
– จากข้อมูลผลสำรวจพบว่านอกจากราคาและโปรโมชั่น ผู้บริโภค 59% เริ่มสนใจซื้อสินค้าจากการดูรีวิวบนแพลตฟอร์มต่างๆ โดย 80% มองหาแพลตฟอร์มที่สามารถให้ประสบการณ์ซื้อขายสินค้าแบบครบลูบ (all-in-one) ตั้งแต่การค้นหาวิดีโอรีวิวสินค้า ไปถึงการกดซื้อสินค้าผ่านคอนเทนต์ได้ทันที
– เทรนด์ Shoppertainment สร้างกระแสระดับโลกจาก #TikTokMadeMeBuyIt ที่ผู้ใช้ TikTok กว่า 1 ล้านคน ได้ออกมาทำวิดีโอรีวิวสินค้าที่ซื้อมาหลังจากการได้รับชมวิดีโอรีวิวสินค้าอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้มียอดวิวสูงถึง 9,200 ล้านวิว จากแฮชแท็กดังกล่าว
– ด้วยพลังของ Shoppertainment ทำให้ปี 2025 ได้เห็นปรากฏการณ์การเติบโตและความสำเร็จของ TikTok Shop Affiliate และการทำคอนเทนต์บนอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นจำนวน Creator Affiliate ที่เติบโตและสร้างยอดขายได้กว่า 2 ล้านคน จำนวนคอนเทนต์ อีคอมเมิร์ซ ทั้งวิดีโอและไลฟ์ สตรีมกว่า 100 ล้านคอนเทนต์ โดยมีจำนวนไลฟ์ สตรีม 20 ล้านชั่วโมง
ปัจจัยสร้างการเติบโตของ TikTok Shop มีกลยุทธ์ที่น่าสนใจ
– การเติบโตของครีเอเตอร์อย่างก้าวกระโดด พบว่ากว่า 10,000 ราย สามารถสร้างผู้ติดตามที่เริ่มจาก 0 ไปสู่ครีเอเตอร์ที่สร้างยอดขายได้ในระยะเวลา 30 วัน นอกจากนี้ครีเอเตอร์ยังเปลี่ยนมาทำ Creator Affiliate แบบเต็มตัว หากทำคอนเทนต์ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 3 เดือน
– จำนวนผู้ติดตามของ Creator Affiliate เพิ่มขึ้นสูง จากการทำคอนเทนต์ต่อเนื่อง โดยมีระยะเวลารับชมคอนเทนต์เพิ่มขึ้น จำนวนทราฟฟิกเพิ่มขึ้นในช่วงแคมเปญ เกิดจากความชอบและความเชื่อที่ผู้ติดตามมีให้กับครีเอเตอร์
– Key Success Factors ที่ช่วยพัฒนาการเติบโตของครีเอเตอร์ คือ ความคิดสร้างสรรค์ในการทำคอนเทนต์ (Creativity), ยอดวิวที่ครีเอเตอร์สร้างได้ผ่านคอนเทนต์ที่มีความคิดสร้างสรรค์ และจำนวนผู้ติดตามที่ชื่นชอบครีเอเตอร์และคอนเทนต์
ทำความเข้าใจ PACE อาวุธ Affiliate Model
PACE คือ Framework ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นแผนการเติบโตสำหรับครีเอเตอร์ Affiliate Model บน TikTok Shop ที่จะช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ให้กลายเป็นยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่จำนวนผู้ติดตามที่เพิ่มมากขึ้น สรุปได้ดังนี้
P – Persona ภาพลักษณ์ของครีเอเตอร์
1. ตั้งคำถามกับตัวเองว่ามีความถนัดด้านใด สินค้าอะไรที่ต้องการนำมาขายในคอนเทนต์รีวิว ที่สำคัญผู้ติดตามปัจจุบันตรงกับแนวทางคอนเทนต์ที่จะทำหรือไม่
2. แนวทางการทำคอนเทนต์ปัจจุบัน ตอบโจทย์เป้าหมายของช่องหรือไม่ เพราะไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ทั่วไปหรือคอนเทนต์ติดตะกร้า นับเป็นเครื่องมือทรงพลังที่จะช่วยปรับรูปแบบของช่องได้
3. การสร้างเอนเกจกับผู้ติดตามอย่างสม่ำเสมอ เพราะไม่ว่าจะมีภาพลักษณ์ของช่องแบบไหน ผู้ติดตามคือเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยเปลี่ยนยอดวิวเป็นยอดขายได้
A – Assortment สินค้าที่เลือกทำรีวิวขายบนคอนเทนต์
1. การเลือกสินค้าควรตอบโจทย์ภาพลักษณ์ของช่อง รวมทั้งความสนใจของกลุ่มผู้ติดตามหลัก ทั้งด้านความน่าสนใจและความคุ้มค่าของสินค้า
2. การเลือกสินค้าที่เข้ากับตัวตนของช่อง มีโอกาสสร้างยอดขาย ยอดวิว และยอดเอนเกจเมนต์ที่สูงกว่าคอนเทนต์อื่นๆ 2 เท่า
3. TikTok Shop สนับสนุนครีเอเตอร์เลือกสินค้ามารีวิวได้ผ่านฟีเจอร์ Affiliate Product Marketplace ที่รวบรวมสินค้าไว้กว่า 2 ล้านชิ้น จากแบรนด์และร้านค้าชั้นนำกว่า 2 แสนแบรนด์
C – Content คอนเทนต์ที่ใช้รีวิวสินค้า
1. การผลิตคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ โดยต้องโฟกัสการดีไซน์กลยุทธ์คอนเทนต์ ตอบโจทย์ความชื่นชอบของกลุ่มผู้ชมหลักเพื่อหยุดดูคอนเทนต์ตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้ชอบและเชื่อในคอนเทนต์ สุดท้ายอยากซื้อสินค้าที่รีวิว
2. ความสม่ำเสมอในการผลิตคอนเทนต์ ทั้งด้านจำนวนและคุณภาพ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของครีเอเตอร์ไปสู่ผู้ชมบนช่อง TikTok
3. การสร้างความแตกต่างในช่วงที่สงครามคอนเทนต์เดือด ก็คือ “คุณภาพคอนเทนต์” จากการสำรวจการทำไลฟ์ สตรีม พบว่าครีเอเตอร์ที่ทำคอนเทนต์อย่างมีคุณภาพจะมียอดทราฟฟิกสูง สร้างมูลค่ายอดขายสูง คนดูไลฟ์เป็นเวลานาน และจำนวนผู้ติดตามผ่านไลฟ์สูงขึ้น
E – Empowerment ตัวช่วยผลักดันการเติบโต
1. การใช้เครื่องมือและระบบสนับสนุนจากแพลตฟอร์มให้เต็มประสิทธิภาพ เช่น กิจกรรม แคมเปญต่างๆ ของ TikTok เช่น เมกะแคมเปญ, Double digit แคมเปญ
2. การเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ค้าและแบรนด์ชั้นนำที่อยู่บนแพลตฟอร์มได้โดยตรง เพื่อรับสิทธิพิเศษต่างๆ จากแบรนด์สนับสนุนคอนเทนต์ เช่น การโฆษณา โปรโมชั่น ราคาพิเศษ เพื่อช่วยให้ช่องเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด
3. การเป็นพาร์ทเนอร์กับเอเยนซีที่ทำงานร่วมกับ TikTok Shop ที่จะช่วยสนับสนุนการผลิตคอนเทนต์
ไกด์ไลน์ Do’s และ Don’t คอนเทนต์ปักตะกร้า
การทำโมเดล Affiliate มีสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ (DO’s และ DON’Ts) เพื่อสร้างการเติบโตช่อง TikTok Shop ดังนี้
DO’s (สิ่งที่ควรทำ)
- รักษาคุณภาพและความสม่ำเสมอของเนื้อหา เผยแพร่เนื้อหาอย่างน้อย 1 ครั้งต่อวัน
– วิดีโอสั้น (Short video) ควรมีความยาวอย่างน้อย 30 วินาที
- ไลฟ์สตรีม (Livestream) ควรมีความยาวอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
- ปักหมุดสินค้าในคอนเทนต์เสมอและต้องแน่ใจว่าได้กล่าวถึงสินค้าอย่างถูกต้อง
– นำเสนอสินค้าจริงในคอนเทนต์และแชร์รีวิวที่มาจากการใช้งานจริง
– ปรับปรุงคุณภาพงานผลิตและวิธีการสร้างการมีส่วนร่วมแบบโต้ตอบ (interactive engagement methods)
– รับทราบและปฏิบัติตาม TikTok Shop Community Guidelines (แนวทางปฏิบัติของชุมชน TikTok Shop)
DON’Ts (สิ่งที่ไม่ควรทำ)
– ขาดความสม่ำเสมอโพสต์คอนเทนต์ โดยไม่ควรทิ้งระยะเวลาห่างเกินไปในการโพสต์แต่ละคอนเทนต์ ทั้งวิดีโอและไลฟ์สตรีม โดยควรโพสต์ 5-7 คอนเทนต์ต่อสัปดาห์ เพื่อให้ระบบ TikTok จดจำได้ และฟีดคอนเทนต์ไปให้ผู้ชมที่สนใจ
– หลีกเลี่ยงการทำคอนเทนต์รีวิวสินค้าที่ไม่มี Product ในคอนเทนต์ หรือไม่มีการสาธิตวิธีการใช้สินค้าในคอนเทนต์ เพราะผู้ชมจะไม่เข้าใจว่าต้องการสื่ออะไร และกระทบต่อความน่าเชื่อถือของคอนเทนต์
– การหลีกเลี่ยงการกล่าวอ้างเกินจริง หรือการให้ข้อมูลสินค้าที่ไม่ถูกต้อง (ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มครีเอเตอร์รีวิวสินค้าสุขภาพและความงามเป็นหลัก) โดยต้องพรีเซนต์ข้อมูลที่ปรากฏอยู่จริงบนสินค้า หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลที่ ให้สัญญา (commit) เรื่องเวลา และสรรพคุณเกินจริง
– การหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลส่วนตัวผ่านคอนเทนต์ปักตะกร้า เช่น เบอร์โทร ที่อยู่ของครีเอเตอร์ โดยแนะนำให้ติดต่อผ่านช่องแชท TikTok
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE