HomeInsightMcCormick เผยอินไซต์ “รสเผ็ด” ของแต่ละชาติ – Gen ไม่เหมือนกัน โอกาสใหม่ของธุรกิจอาหารเอเชีย

McCormick เผยอินไซต์ “รสเผ็ด” ของแต่ละชาติ – Gen ไม่เหมือนกัน โอกาสใหม่ของธุรกิจอาหารเอเชีย

แชร์ :


แม็คคอร์มิค (McCormick)
แบรนด์สมุนไพรและเครื่องเทศระดับโลก ที่มียอดขายกว่า 6.7 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปีใน 150 ประเทศ ได้เปิดเผยผลการวิจัยเรื่องแนวโน้มความชื่นชอบรสเผ็ดร้อนของกลุ่มผู้บริโภคในขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และเครื่องปรุงรสในประเทศไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย เพื่อสร้างโอกาสใหม่ให้กับผู้ผลิตอาหารในไทยและอาเซียน ตอบรับเทรนด์อาหารรสเผ็ดที่กำลังเติบโตทั่วโลก

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

“รสเผ็ด” คือภาษาสากลของคนรุ่นใหม่

รายงานของ McCormick ชี้ว่า “ความเผ็ด” ไม่ใช่เพียงรสชาติ แต่เป็น ภาษาทางอารมณ์และการแสดงออกตัวตนของผู้บริโภครุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มมิลเลนเนียลและ Gen Z ที่มองว่าความเผ็ดคือประสบการณ์แห่งความสนุก ท้าทาย และสะท้อนตัวตนอย่างมีพลัง จึงไม่แปลกที่ผลิตภัณฑ์อย่าง ขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และเครื่องปรุงรสเผ็ด จะเติบโตโดดเด่นในหลายประเทศของเอเชีย รวมถึงไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย

จากการศึกษาของแม็คคอร์มิค ผู้บริโภคส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่างชื่นชอบอาหารรสเผ็ด และนิยมความเผ็ดร้อน ที่จับคู่กับรสชาติเสริมอื่น ๆ ในทั้งผลิตภัณฑ์ทั้งสามหมวด:

  • คนไทยชอบการผสมผสานระหว่างรสเผ็ดร้อนและอูมามิ (59% ของผู้ตอบแบบสอบถาม)
  • คนอินโดนีเซียชื่นชอบรสเผ็ดร้อนผสมกับรสหวาน (47% ของผู้ตอบแบบสอบถาม)
  • คนเวียดนามชอบรสเผ็ดร้อนผสมกับรสเปรี้ยว (51% ของผู้ตอบแบบสอบถาม)

“ไม่ใช่มีแค่ “พริก” ที่เผ็ด คนรุ่นใหม่ ชอบความหลากหลาย

ในประเทศไทย “รสเผ็ด” ถือเป็น DNA ของอาหารไทยอยู่แล้ว แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการความเผ็ดที่ “มีมิติ” มากกว่าแค่ร้อนแรง จากการสำรวจพบว่า คนไทยเพียง 26% เท่านั้นที่คิดว่าความเผ็ดต้องมาจาก “พริก” เพียงอย่างเดียว ขณะที่กว่า 59% ชอบรสเผ็ดที่ผสานกับ “อูมามิ” หรือรสกลมกล่อมลุ่มลึก สะท้อนแนวโน้มใหม่ของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ต้องเน้น “รสเผ็ดที่มีชั้นเชิง” ไม่ใช่เผ็ดเพื่อความเผ็ดเท่านั้น

จากการศึกษาของแม็คคอร์มิค ผู้บริโภคส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่างชื่นชอบอาหารรสเผ็ด และนิยมความเผ็ดร้อน ที่จับคู่กับรสชาติเสริมอื่น ๆ ในทั้งผลิตภัณฑ์ทั้งสามหมวด:

  • คนไทยชอบการผสมผสานระหว่างรสเผ็ดร้อนและอูมามิ (59% ของผู้ตอบแบบสอบถาม)
  • คนอินโดนีเซียชื่นชอบรสเผ็ดร้อนผสมกับรสหวาน (47% ของผู้ตอบแบบสอบถาม)
  • คนเวียดนามชอบรสเผ็ดร้อนผสมกับรสเปรี้ยว (51% ของผู้ตอบแบบสอบถาม)

เพื่อให้ผู้ผลิตอาหารเกิดความเข้าใจยิ่งขึ้นเกี่ยวกับลักษณะที่ซับซ้อนของรสเผ็ดร้อน แม็คคอร์มิคยังได้เปิดตัว Heat Wheel ซอฟต์แวร์แสดงข้อมูลทางประสาทสัมผัสและเครื่องมือทางเทคนิคที่เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะที่ใช้ถอดรหัสภาษาของรสเผ็ดร้อน ซึ่งจะเป็นกรอบวิธีคิดแบบใหม่สำหรับการพัฒนานวัตกรรมด้านรสชาติ โดยแสดงออกเป็นสองมิติ คือโปรไฟล์รสชาติ   (Flavour Profile) ซึ่งจับความแตกต่างของรสชาติและกลิ่นของส่วนผสมที่เผ็ดร้อน และประสบการณ์ทางประสาทสัมผัส (Sensory Experience) ซึ่งกำหนดว่าความเผ็ดร้อนรู้สึกได้ที่ไหน มีความเข้มข้นเพียงใด และลักษณะของความร้อนผ่าวในปาก Heat Wheel เป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้งานง่ายในการสื่อสารเกี่ยวกับประสบการณ์ด้านรสชาติที่เน้นความเผ็ดร้อน เชื่อมโยง ความชื่นชอบในรสชาติของผู้บริโภคและผู้ผลิตเข้ากับคลังส่วนผสมเครื่องปรุงรสเผ็ดร้อนของแม็คคอร์มิค

Insight จากเทรนด์ “Pop Culture” และโอกาสใหม่ของแบรนด์อาหาร

หนึ่งในเทรนด์ที่ McCormick ระบุว่าเติบโตเร็วที่สุดคือ กระแส “รสเผ็ดจากวัฒนธรรมต่างชาติ” เช่น รสหม่าล่าจากจีน รสกิมจิจากเกาหลี และรสวาซาบิจากญี่ปุ่น ซึ่งกำลังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ผลิตอาหารไทยสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สำหรับผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ชอบทดลองและแสวงหาความแปลกใหม่ เช่น บะหมี่รสหม่าล่า หรือขนมรสกิมจิ ซึ่งสำหรับตลาดในประเทศไทยรสชาติเหล่านี้ยังมีช่องว่างอีกมาก

เบ็ตตี้ จูเลียน่า ตัน รองประธานฝ่าย Specialty Flavours & Ingredients, McCormick Asia กล่าวว่า

“ปัจจุบัน ผู้บริโภคมีความอยากรู้            อยากเห็นเกี่ยวกับประสบการณ์ด้านอาหารรสเผ็ดร้อนจากทั่วโลกมากขึ้นเรื่อยๆ และจากเทรนด์ดังกล่าว เราจึงได้ผสมผสาน รสอาหารยอดนิยมจากท้องถิ่นต่าง ๆ เข้ากับโปรไฟล์รสชาติที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทั่วโลก นวัตกรรมด้านรสชาติของเราพัฒนาขึ้นโดยอาศัยเทคโนโลยีดาต้า และรากฐานของผลิตภัณฑ์ในการปรุงอาหารของเราคือหัวใจสำคัญในการสร้างสรรค์รสชาติที่ปรับแต่งตามความต้องการในตลาดและเกาะติดเทรนด์อยู่เสมอ เพื่อมอบประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบให้กับลูกค้า เราอาศัยความเชี่ยวชาญของเราในการเปลี่ยนดาต้าให้เป็นสิ่งที่จับต้องได้ ด้วยการวิเคราะห์ความตั้งใจในการซื้อของลูกค้า ความสอดคล้องกับวิถีการปรุงอาหาร และความนิยมใช้พริกเป็นเครื่องปรุง เราช่วยผู้ผลิตอาหารและแบรนด์ต่างๆ ก้าวข้ามการสร้างสรรค์รสเผ็ดแบบเดิม ๆ เพื่อมอบประสบการณ์รสเผ็ดร้อนที่แตกต่างออกไปและสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้บริโภค”

จาก “Flavour Forecast” สู่ “Future of Flavour”

นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา McCormick ใช้โครงการวิจัย McCormick Flavor Forecast™ เป็นเครื่องมือหลักในการวิเคราะห์ทิศทางรสชาติระดับโลก โดยผสานข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคกับเทคโนโลยีรสชาติ เพื่อคาดการณ์เทรนด์ล่วงหน้า และส่งต่อให้ผู้ผลิตอาหารใช้เป็นแนวทางสร้างนวัตกรรมใหม่ เช่น รสเผ็ดที่มีความอูมามิหรือเผ็ดผสมหวาน ซึ่งเป็นรสชาติที่ได้รับความนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2025–2026

ในด้านธุรกิจคอนซูเมอร์ McCormick ยังเดินหน้าแคมเปญ “Flavour Made Simple” ในไทย โดยได้เชฟอ๊อฟ – ณัฐวุฒิ ธรรมพันธุ์ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ พร้อมอินฟลูเอนเซอร์ด้านอาหาร เพื่อสะท้อนแนวคิดว่า “รสชาติที่ดีเริ่มต้นได้ง่ายในทุกครัวเรือน” และต่อยอดไปสู่การร่วมมือกับรายการ Iron Chef Thailand vs Asia เพื่อเชื่อมโยงรสชาติระดับโลกเข้ากับวัฒนธรรมการกินของไทยอย่างสร้างสรรค์

McCormick  ยังเตรียมเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์รสหวานในงาน FIA Thailand เป็นครั้งแรก เพื่อสร้างสีสันให้กับผู้ที่ชื่นชอบขนมหวานไทยแสนอร่อย ไม่ว่าจะเป็น กัมมี่หมีรสหม่าล่าเผ็ดร้อน, โมจิโต้รสลิ้นจี่ (ไม่มีแอลกอฮอล์), กาแฟข้าวเหนียวมะม่วงไข่มุก, และ Unicorn Sky เครื่องดื่มที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการแสวงหาการแสดงออกถึงตัวตนและการผจญภัยของ Gen Z รวมทั้งนำเอารสชาติที่ผสานวัฒนธรรมหลากหลายของญี่ปุ่น เกาหลี และชาติตะวันตกมาให้ชิม เช่น มันฝรั่งทอดหม่าล่าหม้อไฟ, ซอสกระเทียมเนยรสเผ็ดแบบไม่รมควัน, ซุปกิมจิเกาหลีรสเผ็ด และอุจิ วาซาบิ โคโรเกะ

นอกจากนี้ McCormick  ยังเปิดกว้างพร้อมร่วมพัฒนารสชาติกับพาร์ทเนอร์ทั้งระดับ SMEs. และเชนร้านอาหาร ตลอดจนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เพื่อส่งมอบอาหารที่ตรงใจผู้บริโภคทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยใช้ “Data-driven Flavour Design” นำเอาข้อมูลและเทรนด์อาหารที่เกิดขึ้นจากการวิจัยในแต่ละภูมิภาคมาพัฒนาเป็นสูตรลับเฉพาะคู่ค้าของ McCormick


แชร์ :

You may also like