“เทศกาลเจนนี่” ไลฟ์ขายของบน TikTok 4 วัน สร้างยอดขายรวมเกือบ 300 ล้านบาท แบรนด์สินค้าแห่เข้าหาติดต่อมาแล้ว 10,000 แบรนด์ จ่ายเงินรอคิวไลฟ์แล้ว 5,000 แบรนด์ กลายเป็น ปรากฏการณ์ “เจนนี่” และกรณีศึกษาบทเรียนการตลาดที่น่าสนใจ
เริ่มต้นจากดราม่าพลิกโอกาสขายของ
ปรากฏการณ์นี้เริ่มจากประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นในครอบครัวของ “เจนนี่ รัชนก” หรือ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” เธอจึงมาไลฟ์ TikTok เพื่ออธิบายเหตุการณ์ ซึ่งมีคนดูกว่า 300,000 คน เมื่อพูดจบแล้วเห็นว่ามีคนดูเยอะ จึงบอกผู้ชมขอไลฟ์ขายสินค้าของตัวเองต่อ ซึ่งได้รับความสนใจขายจนหมดสต็อก
จากนั้นจึงบอกให้แบรนด์ต่างๆ ใครมีสินค้าให้ขายให้ติดต่อเข้ามา ก็มีสินค้าติดต่อขอให้ไลฟ์ขายของ 10 นาที “เจนนี่” คิดค่าจ้าง 50,000 บาท (ปกติไลฟ์ 1 ชั่วโมงคิดค่าจ้าง 2 แสนบาท) ปรากฏว่าทำยอดขายได้ 3 ล้านบาท
จากนั้นเจ้าของแบรนด์จึงส่งสินค้ามาให้ไลฟ์ขายต่อเนื่อง วันแรก (9 ตุลาคม) ไลฟ์ตั้งแต่ 11.00 น. ถึง 6 โมงเช้าของอีกวัน ทำยอดขายรวมได้ 24 ล้านบาท
วันต่อมาแบรนด์ต่างๆ จึงแห่ส่งสินค้าให้ขายจำนวนมาก “เจนนี่” ได้อัตราค่าจ้างใหม่ โดยไลฟ์ปักตะกร้า TikTok 10 นาที คิดราคา 50,000 บาท ให้ 1,000 ออเดอร์ (ออเดอร์ละ 50 บาท) ถ้าขายได้ครบ 1,000 ออเดอร์ก่อน 10 นาที จะโทรดีลกับแบรนด์ว่าจะขายต่อหรือไม่ หากขายต่อคิดค่าจ้างเพิ่ม 50,000 บาทต่อ 1,000 ออเดอร์ ไปเรื่อยๆ ปัจจุบันค่าจ้างสูงสุดต่อไลฟ์ 10 นาที อยู่ที่ 8 ล้านบาท
ไลฟ์ขายของมาราธอน 4 วันเกือบ 300 ล้าน
นับจาก “เจนนี่” พลิกดราม่าเป็นโอกาสมาไลฟ์ TikTok ขายของมาราธอน 4 วัน ทำยอดขายให้แบรนด์ต่างๆ ไปแล้วเกือบ 300 ล้านบาท โดยมีแบรนด์มาจ้างไลฟ์วันละ 200 แบรนด์
– วันที่ 9 ตุลาคม 2568 ขายได้ 24 ล้านบาท
– วันที่ 10 ตุลาคม 2568 ขายได้ 33 ล้านบาท
– วันที่ 11 ตุลาคม 2568 ขายได้ 80 ล้านบาท
– วันที่ 12 ตุลาคม 2568 ขายได้ 126 ล้านบาท
ช่อง TikTok ของ “เจนนี่” มีผู้ติดตามกว่า 19 ล้านคน โดยมียอดคนดูไลฟ์ขายของสูงสุดกว่า 400,000 คน
โดยไลฟ์ที่ทำยอดขายได้สูงสุด (ณ วันที่ 12 ตุลาคม) คือ สินค้าแบรนด์ LYO ของ “หนุ่ม กรรชัย” ทำยอดขายได้ถึง 19 ล้านบาทภายใน 10 นาที และอันดัน 2 สินค้าของ “บอส ณวัฒน์” ทำยอดขายได้ 16 ล้านบาท
สินค้าที่นำมาขายในไลฟ์ “เจนนี่” จะขอให้แบรนด์จัดโปรโมชั่นราคาดีที่สุดให้ลูกค้า หลังไลฟ์แบรนด์สามารถนำคอนเทนต์ไปติดตระกร้าสร้างยอดขายได้ต่อเนื่อง
สินค้า 10,000 แบรนด์ต่อคิวจ้างไลฟ์ขายของ
ในรายการโหนกระแส วันที่ 13 ตุลาคม 2568 “เจนนี่” เล่าว่าไลฟ์ขายของบน TikTok มา 8 ปีแล้วและทำมาต่อเนื่อง เป็นคนที่เข้าใจแพลตฟอร์ม TikTok เป็นอย่างดี
ต้องทำคอนเทนต์เรียล ดูสนุกเพื่อดึงผู้ชมสร้างเอนเกจเมนต์ให้สูง เห็นได้ว่า “เจนนี่” ใช้กล้องมือถือไลฟ์ขายขาย รีวิวแบบเรียลๆ บ้านๆ เพื่อสื่อให้เห็นว่าทุกคนก็ไลฟ์ได้ไม่ต้องมีทีมโปรดักชั่น มีการโทรดีลค่าจ้างกับแบรนด์แบบเรียลๆ ให้ผู้ชมเห็น
จากปรากฏการณ์ “เจนนี่” วันแรกที่ไลฟ์ขายของเองคนเดียว เมื่อเห็นว่ายอดผู้ชมลดลง จึงชวน ดารา นักแสดง คนดัง ที่เป็นเจ้าของแบรนด์มาร่วมไลฟ์ขายของด้วยเพื่อดึงผู้ชมสร้างเอนเกจเมนต์ให้มากขึ้น โดยมีคนดูสูงสุดกว่า 400,000 คน
เมื่อมีดาราคนดังมาร่วมไลฟ์ขายของและยอดคนดูหลักแสนคนขึ้นไป ก็จะใช้วิธีสลับแบรนด์เล็กๆ มาไลฟ์ต่อจากดาราคนดัง เพื่อให้แบรนด์เล็กๆ มีคนดูจำนวนมากและขายสินค้าได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำให้สินค้าแบรนด์ของดาราคนดังจึงได้คิวไลฟ์ก่อน เชื่อว่าแบรนด์เล็ก ที่ขึ้นไลฟ์ต่อจากคนดังจะคุ้มค่าการรอ
โดยคนดังที่จะมาไลฟ์ร่วมกัน เช่น อั้ม พัชราภา, ใหม่ ดาวิกา, โดม ปกรณ์ ลัม, ขวัญ อุษามณี, ปู ไปรยา
ปัจจุบันใช้วิธีบริหารสินค้าที่จะมาไลฟ์ในแต่ละวัน คือเป็นสินค้าแบรนด์ดาราคนดัง 30 แบรนด์ และแบรนด์ทั่วไป 200 แบรนด์ เริ่มไลฟ์ตั้งแต่ 16.00 น. ไปจนถึงช่วง 5.00 – 6.00 น. ของอีกวัน
ขณะนี้มีสินค้าคอนเฟิร์มจ่ายเงินค่าจ้างแล้ว 5,000 แบรนด์ (แบรนด์ละ 50,000 บาท) และติดต่อรอคิวอีก 10,000 แบรนด์
ทุกดราม่าเปลี่ยนเป็นเม็ดเงินได้เสมอ เจนนี่ ต้องการสร้างประวัตศาสตร์ไลฟ์ขายของ ภายในเดือนตุลาคมนี้ ตั้งเป้ายอดขายรวม 1,000 ล้านบาท และภายใน 1 ปี ทำยอดขาย 10,000 ล้านบาท
เจาะ 3 เทคนิคปรากฏการณ์ “เจนนี่”
เทรนด์ Live Commerce ติดอันดับท็อปกลุ่มสื่อที่กำลังเติบโต จากพฤติกรรมผู้บริโภคชอบดูและซื้อสินค้าผ่านไลฟ์ ในฝั่งแบรนด์มองเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างยอดขายได้ทันที นักการตลาดจึงให้ความสำคัญในการสื่อสารผ่าน Live Commerce
คุณแอ๊ม-ศรัณย์ แบ่งกุศลจิต ซีอีโอ Uppercuz เจ้าของช่อง TikTok “การตลาดการเตลิด” ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและการทำสื่อออนไลน์ วิเคราะห์ “3 เทคนิค” ที่เจนนี่ ใช้ไลฟ์แล้วสร้างคนดูมหาศาลเป็นปรากฏการณ์ ดังนี้
1. ความจริงใจในการรีวิวสินค้า แต่ละสินค้าใช้เวลาขึ้นไลฟ์ไม่นาน มีเจ้าของแบรนด์มาร่วมไลฟ์ด้วย คอนเทนต์มีความจริงใจมีความเป็นธรรมชาติแบบสุดๆ ไม่มีการปรุงแต่ง ทุกอย่างเรียล ตั้งกล้องไลฟ์จากมือถือ เจ้าของแบรนด์อยากนำเสนอสินค้าอย่างไรก็ได้ คนไทยชอบความจริงใจ ดูเป็นธรรมชาติ เข้าถึงง่ายเหมือนเป็นเพื่อนกัน เพราะเมื่อเป็นเพื่อนกันก็ให้ความรู้สึกเหมือนซื้อของจากเพื่อน
2. ไลฟ์มาราธอน เริ่มตั้งแต่ 16.00 น. ถึง 5.00 – 6.00 น.ของอีกวัน เป็นไลฟ์แบบมาราธอน 17-18 ชั่วโมงต่อวัน เมื่อยังคนดู เจนนี่ก็ไลฟ์ไปเรื่อยๆ เรียกว่าอยู่ไปด้วยกัน โดยหลักการนำส่งไลฟ์ของ TikTok หากไลฟ์ไหนขายของได้ดี สร้างยอด Gross Merchandise Value (GMV) หรือ “ยอดขายรวม” ได้สูง ก็จะฟีดไลฟ์นั้นให้เห็นจำนวนมาก ยิ่งขายดีแบรนด์เข้าเยอะระบบจะเพิ่มแรงดันฟีดอัตโนมัติไปเรื่อยๆ
3. ปรากฏการณ์ใหม่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มาทำซ้ำก็ไม่ได้ จากความเหมาะเจาะหลายอย่าง คือ มีดราม่าเรื่องแม่ ในเวลาที่ใกล้เคียงกับเทศกาลขาย 10.10 “เจนนี่” จึงไลฟ์ขายของ เมื่อแบรนด์เห็นว่าขายได้ ก็เข้ามาจำนวนมาก การเป็นปรากฎการณ์ หรือ “ไวรัล” เป็นสิ่งที่บังคับให้เกิดขึ้นไม่ได้ ต่อให้ผู้ชมไม่เคยซื้อมาก่อน แต่เห็นเป็นไวรัลคนก็กดซื้อตามไปด้วย
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE