
“ดุสิตธานี” ได้แต่งตั้ง คุณชนินทธ์ โทณวณิก รักษาการประธานกรรมการ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มอีกหนึ่งตำแหน่ง เพื่อให้การบริหารจัดการและนโยบายต่างๆ ในระยะเปลี่ยนผ่าน
หนึ่งในปัญหาที่กำลังถูกจับตาคือ ความขัดแย้งของ 3 ทายาทดุสิตธานี คือ คุณชนินทธ์ โทณวณิก (พี่ชายคนโต) และคุณสินี เธียรประสิทธิ์-สุนงค์ สาลีรัฐวิภาค” (น้องสาว)
จนนำไปสู่การจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 26 กันยายน 2568 โดยมีวาระสำคัญ คือ “พิจารณาอนุมัติถอดถอน คุณชนินทธ์ โทณวณิก ออกจากกรรมการบริษัท
คุณชนินทธ์ กล่าวในประเด็นความขัดแย้งของทายาทว่า “ปัญหาต่างๆ ที่มีอยู่แก้ไขได้ ผมค่อนข้างมั่นใจ อยากให้มีความเชื่อมั่นใน ดุสิตธานี รับรองว่าในหลักการแล้วสามารถจบลงด้วยดี ไม่ต้องเป็นห่วง ทุกคนมีความต้องการที่อยากจะเห็นทุกอย่างออกมาดี”
ปีหน้าหวังดุสิตธานี “กำไร”
ตลอดช่วง 10 ปีที่คุณศุภจี เข้ามาบริหารดุสิตธานี ได้ขยายธุรกิจเพิ่มเติมจากเดิม 2 ธุรกิจหลัก คือโรงแรมและธุรกิจการศึกษา ปัจจุบันมี 5 ธุรกิจ ที่เพิ่มเติมเข้ามา เช่น ธุรกิจฟู้ด การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทำให้มีการกระจายแหล่งรายได้
ขยายจำนวนโรงแรมและวิลล่าจาก 27 แห่ง เพิ่มเป็น 297 แห่ง โดยเป็นโรงแรม 57 แห่ง และวิลล่า 240 หลัง จากจุดหมายปลายทางใน 8 ประเทศทั่วโลก ขยายสู่ 18 ประเทศทั่วโลก และจากแบรนด์โรงแรม 4 แบรนด์ ปัจจุบัน “ดุสิตธานี” มีแบรนด์ภายใต้การบริหารถึง 9 แบรนด์ ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า
แม้ว่างบการเงินของ “ดุสิตธานี” มีผลขาดทุนสะสมกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเหตุให้งดจ่ายเงินปันผลตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา แต่ความจริง คือ บริษัทกำลังสร้าง “รายได้” ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าเมื่อ 10 ปีก่อนกว่าเท่าตัว จากปี 2557 ที่กลุ่มดุสิตธานีมีรายได้รวม 5,370 ล้านบาท เพิ่มเป็น 11,204 ล้านบาทในปี 2567
หลังจากนี้รายได้จะเพิ่มขึ้นแตะหลัก 10,000 ล้านบาทต่อเนื่อง คาดว่าจะพลิกทำกำไรได้ในปี 2569
จุดเปลี่ยนของดุสิตธานี คือการรับรู้รายได้จากการขายโครงการดุสิต เรสซิเดนเซส (Dusit Residences) ที่ขายไปแล้ว 90% มูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีการทยอยโอนและรับรู้รายได้ 80% ในปี 2569 รวมถึงโรงแรมอีกกว่า 50 แห่งทั่วโลกที่อยู่ในแผนการขยายธุรกิจของดุสิตธานี
การลงทุนในโครงการ Dusit Central Park มูลค่ากว่า 46,000 ล้านบาท ถือเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาวให้ดุสิตธานี
การดำเนินงานของกลุ่มดุสิตธานีหลังจากนี้ จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากแผนงานเดิมที่ได้ถูกวางรากฐานไว้อย่างมั่นคงตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม ธุรกิจการศึกษา ธุรกิจอาหาร และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE





