สร้างแรงกระเพื่อมในตลาดชาเมืองไทยไม่หยุด สำหรับ “ชาตรามือ” หลังคลอดแบรนด์ลูกเจาะตลาดพรีเมี่ยมในชื่อ “CTM” (Captivating Tea Muse) ร้านขายชาที่มีความ Specialty เอาใจคนรักชาในทำเลกลางเมืองอย่าง “เซ็นทรัล พาร์ค” แล้ว
ล่าสุด “ชาตรามือ” ขอลุยต่อด้วยการเปิดตัวโมเดล ชาตรามือ ไดร์ฟทรู (ChaTraMue DRIVE THRU) ครั้งแรกในกรุงเทพ ที่ “ลิตเติ้ลวอล์ค รามคำแหง” หลังนำร่องทดลองตลาด “ชาตรามือ สาขา พอร์โต้โก ท่าจีน” เน้นเจาะนักเดินทางลงภาคใต้ ไปเมื่อปี 2562 ก่อนที่จะขยายต่อมายัง “ชาตรามือ ไดร์ฟทรู สาขาเชียงใหม่” (เต็มรูปแบบครบทั้งติ่มซำ เมนูเซ็ต เครื่องดื่ม)
ภาพจาก FB : Little Walk Ramkhamhaeng
สำหรับ “ชาตรามือ ไดร์ฟทรู สาขา ลิตเติ้ลวอล์ค” มีพื้นที่ 100 กว่า ตร.ม. นับเป็นสาขาที่ 3 สำหรับโมเดล DRIVE THRU ของทางแบรนด์ ภายในตกแต่งเน้นดีไซน์ทันสมัย ในบรรยากาศสบาย ๆ โดยจะจำหน่ายติ่มซำ เครื่องดื่ม (แต่น้อยกว่าที่เชียงใหม่) เปิดให้บริการตั้งแต่ 07.00 – 21.00 น. นอกจากนี้ยังมีบริการดีลิเวอรี่เข้าภายในร้าน
คุณแพรว-พราวนรินทร์ เรืองฤทธิเดช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิพย์ธารี จำกัด และทายาทรุ่น 3 ของธุรกิจชาตรามือ กล่าวกับ BrandBuffet ว่า การเปิดสาขาดังกล่าวถือเป็นการลองตลาดในกรุงเทพฯว่าจะดีหรือไม่ กระแสตอบรับจะเป็นอย่างไร เพราะพฤติกรรมลูกค้าเขตกรุงเทพในปัจจุบันหลายคนตอนนี้ใช้ชีวิตบนรถ บางคนไม่สะดวกลงมา สั่งน้ำและไป อาจจะเป็นโมเดลหนึ่งที่ตอบโจทย์คนทำงาน กลับบ้านเดินทางอากาศร้อนไม่อยากลงจากรถ
“การมีโดร์ฟทรูเหมือนเพิ่มโอกาสให้คนเข้าถึงแบรนด์มากขึ้น โดยเฉพาะในกรุงเทพที่หลายคนอาจจะต้องการความเร่งรีบ สะดวกสบาย บางคนอาจจะแค่อยากซื้อเครื่องดื่ม ไม่อยากวนหาที่จอดรถ ไม่อยากลงจากรถเพราะอากาศร้อน”
อย่างไรก็ตามแม้ “ชาตรามือ” จะขยายโมเดล DRIVE THRU เข้ามายังทำเลกรุงเทพมหานคร ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทำเลศักยภาพแล้ว แต่ “คุณแพรว” บอกว่า ยังคงต้องศึกษาตลาดพฤติกรรมลูกค้าคนเมืองสำหรับโมเดล DRIVE THRU เพิ่มเติมอีกว่าชื่นชอบเมนูแบบไหน ชอบดื่มเครื่องดื่มเวลาใด ก่อนจะนำมาพัฒนาและปรับปรุงการบริการ แน่นอนหากมีทำเลที่เหมาะสม และโอกาสในการขยายก็จะเดินหน้าขยายสาขาทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดอย่างแน่นอน
“การขยายสาขาในอนาคตถ้ามีพื้นที่ๆ มีกลุ่มการเดินทางค่อนข้างเยอะ ก็จะขยายไปอย่างแน่นอน ซึ่งการขยายสาขาไดร์ฟทรูในกรุงเทพทางแบรนด์ก็ยังไม่เคยลองมาก่อน คงดูผลตอบรับก่อนว่าจะเป็นอย่างไร แต่มีโอกาสก็ไปเรื่อยๆ มีหลายปัจจัยประกอบ ไม่ว่าจะเป็นการดูการเดินทางในแต่ละเส้นทั้งขาเข้า-ขาออก ว่าลูกค้านิยมแวะช่วงไหน ตลอดจนดูการเข้ามาซื้อว่าเช้าหรือเย็นมากกว่ากัน เพื่อประกอบการตัดสินใจ”คุณแพรวกล่าว
ปัจจุบัน “ชาตรามือ” ถือเป็นผู้นำตลาดชาเมืองไทยด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 70% มีจำนวนสาขาในไทยทั้งสิ้น 225 สาขา และต่างประเทศอีก 130 แห่ง (ใน 13 ประเทศ) โดยโมเดลการขยายร้านส่วนใหญ่ยังเป็น “Grab and Go”