“สายตา” หนึ่งในปัญหาของคนไทยยุคใหม่ที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง “หอแว่น Better Vision” ประกาศเดินหน้ากลยุทธ์เชิงรุกครั้งใหญ่ ด้วยการเปิดตัวสาขาต้นแบบแห่งอนาคตที่ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ชูคอนเซ็ปต์ใหม่ที่ไม่เหมือนร้านแว่นทั่วไป มุ่งเน้นการเป็น Vision Expert Solution ดูแลสุขภาพตาทุกมิติ พร้อมกันนี้ยังเร่งเครื่องขยายแบรนด์ลูก “Monde” เจาะชุมชน คอมมูนิตี้มอลล์ สร้างการเข้าถึงบริการตรวจวัดสายตาคุณภาพดีในระดับชุมชน
ปัญหาสายตาคนไทยน่าห่วง หอแว่นเร่งเครื่อง “Vision Expert Solution”
จากข้อมูลเชิงลึกของหอแว่น พบว่า แนวโน้มปัญหาสายตาของคนไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันเด็กและวัยรุ่นมีปัญหาสายตาสั้นเพิ่มขึ้นถึง 20-30% ซึ่งสูงกว่าในอดีตที่ 20% อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นถึง 40 ปี ที่ประสบปัญหาสายตาสั้นและเอียงในอัตราสูงถึง 30-40% อันเป็นผลมาจากการใช้สมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดียที่เพิ่มขึ้น ส่วนผู้ที่มีอายุเกิน 40 ปี เกือบ 100% จะประสบปัญหาสายตายาวตามวัย ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพตาอันดับหนึ่งของโลก ทำให้ตลาดเลนส์โปรเกรสซีฟของหอแว่นเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละ 10% นับตั้งแต่หลังวิกฤตโควิด-19
ดร. ปิยะพงษ์ ธัญญศรีสังข์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิชั่น เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า เราเห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการยกระดับมาตรฐานการดูแลสายตาให้คนไทยเข้าถึงได้ง่ายและมีคุณภาพสูงสุด ล่าสุดเพื่อเป็นการรองรับแนวโน้มดังกล่าวได้เปิดตัว “หอแว่น Better Vision” สาขา ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค จึงเป็นก้าวสำคัญในการนำเสนอบริการดูแลสุขภาพสายตาแบบ One-Stop-Service ที่แตกต่างจากร้านแว่นทั่วไปอย่างสิ้นเชิง

ดร. ปิยะพงษ์ ธัญญศรีสังข์
โดยร่วมมือกับ TRSC International Eye and Vision Center เพื่อส่งมอบประสบการณ์การสายตาแบบองค์รวมที่ครอบคลุมมากกว่าร้านแว่นทั่วไป ด้วยนักทัศนมาตร (Optometrist) และผู้เชี่ยวชาญ ที่ผ่านการอบรมจาก TRSC ควบคู่เครื่องมือทันสมัยมาตรฐานระดับเดียวกับ TRSC ผ่านการลงทุนมากกว่าสาขาปกติถึง 3 เท่า เพื่อติดตั้งอุปกรณ์ตรวจสุขภาพตาที่ทันสมัยระดับโลก เช่น Nidek Intelligent Refractor, Slit Lamp, Galilei G4 และเทคโนโลยี Leica Eyecare Application ที่สามารถจำลองความหนาและมุมมองเลนส์ได้ละเอียดและแม่นยำ พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญและนักทัศนมาตรที่ผ่านการอบรมจาก TRSC International Eye and Vision Center เพื่อมอบประสบการณ์การตรวจสุขภาพตาเบื้องต้นที่ครอบคลุมและแม่นยำที่สุด โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ด้านกลยุทธ์การตลาด“หอแว่น Better Vision” สาขา ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เน้นสร้างประสบการณ์การดูแลสุขภาพตา เพื่อสื่อสารภาพลักษณ์ความเป็น Vision Expert Solution ของแบรนด์ให้ชัดเจน และต่อเนื่องในทุก Touchpoint ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาออนไลน์ บนแพลตฟอร์มดิจิทัล สื่อใน-นอกร้านทั้งภาพ เสียง และอินเตอร์แอคทีฟ รวมถึงประสบการณ์การให้บริการจริงจากนักทัศนมาตรและผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเสริมความแกร่งของแบรนด์ และเป็นแนวทางสำคัญในการต่อยอดสู่การเปิดสาขาใหม่ในเมืองใหญ่ทั่วประเทศ
โดยสาขา ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค จะเป็นต้นแบบของประสบการณ์ใหม่ที่ลูกค้าจะจดจำ และเชื่อมั่นในระยะยาว เนื่องจากเป็นทำเล Strategic Location ที่เหมาะสมจะช่วยให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลักได้ง่ายขึ้น และมีศักยภาพในการสร้างยอดขายที่สูงขึ้น ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานธุรกิจของแบรนด์ในอนาคต
เปิดตัว “Monde” Fighting Brand น้องใหม่เจาะชุมชน คอมมูนิตี้มอลล์
นอกจากการยกระดับแบรนด์หลัก “หอแว่น” แล้ว บริษัทยังได้เร่งขยายอาณาจักรด้วยการเปิดตัวแบรนด์ลูก “Monde” (มองเด้) ที่ปัจจุบันมีแล้ว 160 สาขา และมีแผนจะปิดที่ 190 สาขาภายในปีนี้ โดยเน้นการกระจายสาขาในระดับชุมชน ปั๊มน้ำมัน และคอมมูนิตี้มอลล์ ด้วยราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงง่ายเพียง 1,000-4,000 บาท ซึ่งเป็นโมเดลที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า โดยเฉลี่ยมีการเปิดสาขาใหม่ถึงเดือนละ 10 สาขา ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา โดยแบรนด์ “Monde ถูกปั้นขึ้นมาเพื่อเป็นแฟรนไชส์ในการขยายสาขา เบื้องต้นขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองตลาดก่อนจะเปิดตัวรูปแบบดังกล่าวอย่างเป็นทางการ
ดร. ปิยะพงษ์ เผยว่า “ปัจจุบันมีสาขาแฟรนไชส์ 5 แห่ง และเราจะขยายสาขาไปทั่วประเทศ โดย 30% จะอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนอีก 70% จะกระจายไปต่างจังหวัด” การขยาย Monde สะท้อนถึงกลยุทธ์ของหอแว่นในการเข้าถึงลูกค้าในวงกว้างขึ้น และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีปัญหาสายตาไม่ซับซ้อน หรือผู้ที่มองหาแว่นตาคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย
นอกจากนี้ หอแว่นยังคงเดินหน้าขยายสาขาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ โดยปีนี้มีแผนเปิดเพิ่มอีก 5 สาขา รวมถึงที่เซ็นทรัล กระบี่ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำตลาดแว่นตาที่เข้าใจพฤติกรรมคนไทย ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเลือกไปร้านแว่นก่อนไปโรงพยาบาลเมื่อมีปัญหาสายตา
มุ่งสู่ Vision Expert Solution ที่สมบูรณ์แบบ
อย่างไรก็ตามแม้ตลาดแว่นตาโดยรวมในปีนี้จะไม่เติบโตมากนัก แต่หอแว่นยังคงรักษาการเติบโตของเลนส์โปรเกรสซีฟได้อย่างแข็งแกร่ง และเป็น Exclusive Distributor ของเลนส์ Leica ในประเทศไทย ซึ่งตอกย้ำถึงความเชี่ยวชาญและคุณภาพที่เหนือกว่า
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในระยะ 5 ปีข้างหน้า คือการปรับโฉมและยกระดับประสบการณ์หน้าร้านให้พรี เมียมมากขึ้น ผ่านการรีโนเวทสาขาเดิมให้มีบรรยากาศ (ambience) ที่เชิญชวนและดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาสัมผัส แม้ไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้าในทันที แต่สามารถเข้ามารับรู้ถึงคุณค่าของการดูแลสายตาได้ โดย “หอแว่น Better Vision” พร้อมจะก้าวสู่การเป็น Vision Expert Solution ที่สมบูรณ์แบบ ไม่ใช่เพียงร้านขายแว่น แต่เป็น Holistic Wellness ด้านสุขภาพตา ที่ครบถ้วนทั้งบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ เครื่องมือเทคโนโลยีทันสมัย และผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างยอดเยี่ยม เพื่อมอบประสบการณ์การดูแลสายตาที่เหนือระดับให้กับลูกค้าในทุกมิติ






