“โลกแฟชั่น” หนึ่งในอุตสาหกรรมที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน และปัจจัยแวดล้อมมากกมาย โดยเฉพาะเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนในโลกที่ธุรกิจแฟชั่นเต็มไปด้วยการแข่งขัน และภาวะเศรษฐกิจเป็นเหมือนพายุที่พัดซัดความมั่นคงด้านแฟชั่นโลกให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ตลอดจนกลายเป็นความท้าทายของแฟชั่นแบรนด์ในระดับโลคัล
วิคธีร์รัฐ (VICKTEERUT) คืออีกหนึ่งแบรนด์ที่ยืนหยัดในฐานะแบรนด์สัญชาติแฟชั่นไทยที่ไม่ได้เพียงแค่ “รอด” แต่ยัง “เติบโต” ได้อย่างมั่นใจ โดยมีหนึ่งในอยู่เบื้องหลังความสำเร็จอย่าง “คุณแป้ง – อรประพันธ์ สุทธินรเศรษฐ์” หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ ในบทบาทกรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แบรนด์ VICKTEERUT

คุณแป้ง – อรประพันธ์ สุทธินรเศรษฐ์
“เราไม่ได้สนใจว่าเราจะต้องขายได้เท่าไหร่ เพราะเราไม่ใช่บริษัทที่แสวงผลกำไรมากมาย แต่เราทำแบรนด์ด้วยความสนุก ซึ่งทุกอย่างพอเกิดจากความสนุกและความใส่ใจก็จะประสบผลสำเร็จตามมา” คุณแป้ง เผยถึงแนวคิดหลักในการทำแบรนด์ทีต้องเริ่มจากความสนุกไม่ใช่แค่รายได้
แม้ครึ่งปีที่ผ่านมาสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อจะชะลอตัว แต่ VICKTEERUT ก็ไม่ได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจ-ยอดขาย ตลอดจนการทำงานแต่อย่างใด แต่ทุกอย่างยังคงเดินหน้าเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แม้ลูกค้าขาจรที่เป็นต่างชาติจะลดลงไปบ้าง จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไป แต่ในส่วนของลูกค้าประจำที่สั่งทางช่องออนไลน์ยังคงซื้อขายประจำอยู่ เพราะลูกค้าหลักของแบรนด์เป็นลูกค้าไทยมากกว่า 87%
“แฟชั่นของประเทศประเทศไทยอาจจะแบ่งกลุ่มคนนิดหนึ่ง คือผู้หญิงสนใจการแต่งตัว รูปลักษณ์ของตัวเองและมีสตังค์ยังคงไม่ทิ้งความสวยงาม ทำให้เศรษฐกิจไม่ส่งผลกระทบต่อแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายมากนัก”
จาก “สไตลิสต์” สู่ผู้นำแบรนด์แฟชั่น VICKTEERUT ที่ต้องสวยแบบ “คิดมาแล้ว”
“คุณแป้ง” คือบุคคลสำคัญผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ VICKTEERUT เธอเริ่มต้นเส้นทางสายแฟชั่นด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยแพชชั่น แต่ไม่ใช่แพชชั่นที่มาจากความฝันหวานเลิศลอย หากเป็นแรงขับจากประสบการณ์ตรงในฐานะ “สไตลิสต์” และร่วมทำรายการทีวี แม็กกาซีนต่างๆมากมาย ก่อนจะไปเรียนต่อที่อังกฤษ จนทำให้เธอเห็นภาพชัดว่าผู้หญิงต้องการอะไร และเสื้อผ้าแบบไหนที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตจริง
หลังจากใช้ชีวิตในวงการแฟชั่นในไทยและอังกฤษ เธอกลับมาเปิดแบรนด์กับเพื่อน “ธีร์รัฐ ว่องวัฒนะสิน” ร่วมผู้ก่อตั้งแบรนด์ภายใต้ชื่อของดีไซเนอร์คู่ก่อตั้ง “วิคธีร์รัฐ” (VICKTEERUT) ซึ่งต่อมากลายเป็นแบรนด์ไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กับเอกลักษณ์ “เรียบแต่คม” “เท่แต่สวย” และ “เป็นผู้หญิงแต่ไม่ยอมอ่อนแอ”
ธุรกิจแฟชั่นที่เติบโตด้วย “ความเข้าใจ” ไม่ใช่ “ตามกระแส”
แม้จะไม่มีการวางแผนกลยุทธ์แบบบริษัทใหญ่ ๆ แต่สิ่งที่ VICKTEERUT มีคือ “ความสนุก” และ “ความเข้าใจผู้หญิง” ในแบบที่ไม่ต้องถามก็รู้ว่าเธออยากใส่อะไร นั่นทำให้ “70% ของคอลเลกชันมาจากสิ่งที่เรารู้ว่าผู้หญิงใส่จริง อีก 30% คือของที่เราอยากปล่อย อยากบอกเล่า และสิ่งที่แบรนด์อยากเห็นคืออะไร”
“ตอนนี้เราไม่เคยคิดเลยว่าปีๆหนึ่งเราจะขายได้เท่าไร เราเพียงอยากสนุกในการสร้างสรรค์งานใหม่ๆ เพราะว่าที่ผ่านมาเราเคยคิดแล้วเรานอยด์ การคิดว่าจะขายให้ได้เท่าไร เหมือนการเอาสถิติทั้งหลายมาดูว่าตัวนี้ขายดี ตัวนี้ขายไม่ดี บางทีแฟชั่นไม่ได้อะไรมากำหนดขนาดนั้น เพราะแฟชั่นมีเทรนด์เป็นตัวกำหนด บางจะขายได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้เลย เราเลยทำให้เราทำอะไรตามความชอบว่าเราอยากเห็นคนใส่อะไร เทรนด์อะไรมาเป็นตัวตั้งมากกว่า”
ปัจจุบันลูกค้าหลักของแบรนด์คือ “ผู้หญิงทำงาน” โดยเฉพาะสายการเงิน วัยประมาณ 40 ปี ที่ต้องการเสื้อผ้าที่ดูดี มั่นใจ ใส่แล้วรู้สึกสตรอง แต่ไม่ต้องเสียงดัง เสื้อผ้าของ VICKTEERUT จึงตอบโจทย์สาวออฟฟิศที่มีความเท่ในตัว และอยากสวยแบบ “คิดมาแล้ว” เพราะ สิ่งที่แบรนด์อยากเห็นคืออยากเห็นผู้หญิงสวยขึ้น แต่งตัวดีขึ้น มีความสนุกกับการแต่งตัวมากขึ้น
ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคหลังโควิด ที่ทำให้สไตล์แคชชวลเป็นที่นิยมมากขึ้น “คุณแป้ง” กลับตั้งคำถามว่า “แล้วทำไมผู้หญิงถึงไม่แต่งตัวสวยเหมือนเมื่อก่อน?” เพราะหากย้อนภาพในไปอดีต ผู้หญิงมักจะแต่งตัวสวยมากๆ เมื่อออกไปสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานปาร์ตี้ รับประทานอาหาร หรือแม้แต่ท่องเที่ยวต่างๆ
คำตอบของเธอจึงไม่ใช่การดัดแปลงตามกระแส แต่เป็นการผลักดันผ่านดีไซน์ ด้วยความตั้งใจว่าอยากให้ผู้หญิง “กลับมาแต่งตัวให้สวยอีกครั้ง” โดยไม่จำเป็นต้องเป็นแฟชั่นที่ฉูดฉาด แต่ต้องเป็นตัวของตัวเอง เป็นความงามที่ผ่านการคิดและกลั่นกรองแล้ว
ด้วยแนวคิดทั้งหมดถูกถ่ายทอดเป็นเอกลักษณ์ของ VICKTEERUT กลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มี DNA แบบเฉพาะตัว หรือนิยามที่ว่า “สวยแบบคิดมาแล้ว” “คุณแป้ง” ขยายความว่าเราอยากให้ผู้หญิงรู้ว่าชอบอะไรแบบไหน มีความเป็นตัวของตัวเอง การออกแบบแต่ละคอลเลคชั่นจึงมีสูตรผสมผสาน 70 : 30 หรือความต้องการของลูกค้าในสัดส่วน 70% และสิ่งที่แบรนด์เป็น อยากให้ลูกค้าเห็นอีก 30% โดยลูกค้าหลักๆของแบรนด์เป็นผู้หญิงวัย 40 ปีขึ้นไป ในกลุ่มผู้หญิงที่ทำงานบริการ การเงิน แบงค์ เพราะตอบโจทย์ความต้องการด้านความเป็นสมาร์ท ดูแต่งตัวโก้ตลอดเวลา
จากจุดแข็งทั้งหมดทำให้ VICKTEERUT เป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่มักจะมีการคอลแลบ (collab) หรือร่วมงานกับศิลปิน นักออกแบบ หรือแบรนด์อื่นๆ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ อยู่เสมอ ตั้งแต่คอลเลกชั่นพิเศษ หรือสินค้าที่มีการออกแบบร่วมกัน ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ หรือสินค้าไลฟ์สไตล์อื่นๆ ไม่ว่า แสนสิริ ,The Standard (เดอะ สแตนดาร์ด) ออกแบบยูนิฟอร์มสำหรับโรงแรม The Standard, Hua Hin เป็นต้น โดยในช่วงครึ่งปีหลังนับจากนี้แบรนด์ยังเตรียมเปิดตัวกับพันธมิตรอีกมากมายในการทำงานร่วมกันตั้งแต่องกร ไปจนถึงแบรนด์ดังต่างๆ
จาก Passion สู่ตลาดแฟชั่นระดับโลก
อย่างไรก็ดีแม้จะเริ่มต้นจากความเป็นไทยอย่างแท้จริง เพราะแบรนด์มีลูกค้าหลักถึง 87% เป็นคนไทย แต่ VICKTEERUT ก็ไม่หยุดแค่นั้น แบรนด์เริ่มเปิดตลาดต่างประเทศกับการทยอยวางจำหน่ายผลงานอย่างเงียบๆในช่องทางห้างสรรพสินค้าต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถเติบโตและเป็นที่รู้จักในแวดวงแฟชั่นระดับโลก ล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา VICKTEERUT ผงาดบนเวทีแฟชั่นโลกอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก บนเวที NEW YORK FASHION WEEK 2025 เป็นครั้งแรก โดยถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากศิลปะอาร์ตเดโค (Art Deco) สร้างนิยามใหม่ของความหรูหรา สนุกสนาน และโมเดิร์น
“การไป New York Fashion Week 2025 ที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกของแบรนด์บนเวทีแฟชั่นระดับโลก นับเป็นประสบการณ์ใหม่ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ส่วนแผนการปั้นแบรนด์ระดับโลกคงไม่ขนาดนั้น เราเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า”
นอกจากตลาดต่างประเทศแล้วในยุคที่โลกไร้พรมแดน และช่องทางออนไลน์กลายเป็นหน้าร้านแห่งอนาคต (ยอดขายออนไลน์ตอนนี้คิดเป็น 50% ของแบรนด์) VICKTEERUT ก็เตรียมขยายตัวเองสู่ตลาดแฟชั่นระดับสากล ด้วยดีไซน์ที่ไม่จำกัดว่าเป็นของชาติใด แต่เป็น “ภาษาของผู้หญิงที่มั่นใจ”
โดยปัจจุบันหน้าร้าน VICKTEERUT ปัจจุบันมี 5 สาขา ได้แก่ ทองหล่อ, พารากอน, เอ็มโพเรียม, เซ็นทรัลชิดลม และเซ็นทรัลเวิลด์ ช้อปออนไลน์ได้ผ่านเว็บไซต์หลัก และ LINE Official ของแบรนด์ ซึ่งขณะนี้ทางแบรนด์ยังไม่มีแผนขยายสาขาเพิ่มแต่อย่างใด
“เรายอมรับว่าไม่ถนัดการทำออนไลน์ แต่ว่าพฤติกรรมลูกค้า เทรนด์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนการระบาดของโควิด 19 ทำให้เราต้องเร่งปรับตัวในการสร้างช่องทางจำหน่ายที่หลสกหลายครอบคลุมมากยิ่งขึ้น”
ล่าสุดได้เปิดตัวคอลเลกชันล่าสุดอย่าง VICKTEERUT Pre-Fall 2025 Collection “Diet Cake” ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Marie Antoinette ผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความขบถแต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นผู้หญิง สะท้อนคาแรคเตอร์ของแบรนด์ที่ไม่กลัวจะ “เล่นใหญ่” แต่ก็ไม่ละทิ้งความเรียบหรู โดยครั้งนี้ VICKTEERUT ถอดรหัสความเฟมินีน โดยอ้างอิงจากศิลปะยุคโรแมนติก แต่กลั่นกรองอีกชั้นด้วยโครงเสื้อ และวิธีคิดแบบสถาปัตยกรรม ไม่หวานเลี่ยน แต่เป็นความอ่อนหวานที่แทรกอยู่บนโครงสร้างที่แข็งแรงและเฉียบคม ซึ่งความเฟมินีน สุดโมเดิร์นที่คอลเลคชั่นนี้นำเสนอ แสดงออกถึงความเป็นผู้หญิงที่ดูฉลาดแยบยล มีมิติที่ดูซับซ้อนไม่ตื้นเขิน และดูน่าค้นหา
สานต่อแรงบันดาลใจ สู่อนาคตแบรนด์แฟชั่นยุคใหม่
ส่วนเส้นทางการเติบโตของ VICKTEERUT ระยะยาวนับจากนี้ “คุณแป้ง” บอกว่า จะยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์ผลงานด้านแฟชั่นให้เติบโตต่อไป ด้วย Passion และ ความสนุก “ถามว่าแรงบันดาลใจแรกคืออะไร? ไม่มีค่ะ คือมันไม่ได้เริ่มจากฝันอะไรเลย เราแค่ทำแล้วมันสนุก ก็ทำต่อ” คุณแป้งเล่าถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์แบรนด์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
สำหรับคนอื่น นี่อาจฟังดูเหมือนไม่มีทิศทาง แต่สำหรับ VICKTEERUT มันคือหัวใจของการทำแบรนด์ที่ยั่งยืน เพราะทุกคอลเลกชันเกิดจากความรู้สึกจริง ไม่ได้ถูกบีบด้วยตัวเลขยอดขาย
ท้ายที่สุดหากถามว่า “คุณแป้งอยากบอกอะไรกับคนรุ่นใหม่ที่อยากทำแบรนด์แฟชั่น?” เธอตอบสั้น ๆ ว่า: “เริ่มจากความเป็นตัวเองก่อน แล้วค่อยคิดว่าคนอื่นอยากได้อะไร” แม้ในวันที่ทุกแบรนด์ต่างแข่งขันกันในโลกออนไลน์ “วิคธีร์รัฐ” ยังยืนหยัดด้วยหลักคิดง่าย ๆ ว่า “อยากเห็นผู้หญิงแต่งตัวให้สวย” และออกแบบเพื่อสิ่งนั้นไม่ใช่เพื่อกระแส ไม่ใช่เพื่อยอดขาย แต่คือ “ความสนุก” และ “ใจรัก” ที่จะทำ
เพราะสำหรับ VICKTEERUT แล้ว… แฟชั่นไม่ใช่แค่เสื้อผ้า แต่มันคือท่าทีของผู้หญิงที่รู้จักตัวเองดีพอจะเป็น “ตัวเอง” ได้อย่างสวยที่สุด









