HomeBrand Move !!ศึกหม้อต้มสุดแรง..ไทยยูเนี่ยนฯ เผยยอดขายกุ้งโต 100% รับอานิสงส์ตลาดสุกี้บูม พร้อมกางแผน 3 ปี ดัน “Q-Fresh” ทะยานสู่ 500 ล้าน

ศึกหม้อต้มสุดแรง..ไทยยูเนี่ยนฯ เผยยอดขายกุ้งโต 100% รับอานิสงส์ตลาดสุกี้บูม พร้อมกางแผน 3 ปี ดัน “Q-Fresh” ทะยานสู่ 500 ล้าน

แชร์ :

ไทยยูเนี่ยนฯ กางแผนครั้งใหญ่ ตั้งเป้าผลักดันแบรนด์ “Q-Fresh” ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดสู่ยอดขาย 500 ล้านบาทภายใน 3 ปี ชูกลยุทธ์เจาะตลาดคนรุ่นใหม่และขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้าให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น พร้อมชูความแข็งแกร่งด้านซัพพลายเชนและการเป็นพาร์ทเนอร์กับเชนร้านอาหารยักษ์ใหญ่รับเทรนด์ตลาดโตต่อเนื่อง

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ท่ามกลางการแข่งขันที่ร้อนแรงในธุรกิจร้านอาหาร เบื้องหลังศึกเหล่านี้คือยักษ์ใหญ่ด้านวัตถุดิบอาหารอย่างไทย บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่คอยเป็นหลังบ้านในการซัพพอร์ตวัตถุดิบ ร่วมกันพัฒนาสินค้า-เมนูต่างๆ มากมาย 

 

ตลาดหม้อต้มมาแรง ดันยอดขายกุ้งโต 100%  

โดยเฉพาะการแข่งขันที่รุนแรงของเชนร้านอาหารสุกี้ชาบูชื่อดังอย่าง MK และ สุกี้ตี๋น้อย ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนความต้องการบริโภคกุ้งในประเทศให้สูงขึ้นแบบก้าวกระโดด  โดยทางบริษัทได้รับประโยชน์โดยตรงจากปรากฏการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ยอดขายผลิตภัณฑ์กุ้งซึ่งเป็นรายได้หลักถึง 60% ของบริษัท เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ 100% หรือคิดเป็น 5-6 เท่าของยอดขายปกติ โดยบริษัทถือซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ให้กับร้านอาหารเหล่านี้ 

 

 

คุณธนโชติ บุญมีโชติ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจกุ้ง บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า  ช่วงนี้กระแสการแข่งขันในตลาดสุกี้มาแรง  ฉะนั้นสิ่งที่เราทำคือ การช่วยลูกค้าคิดเมนูใหม่ๆ ว่าสินค้าอะไรที่เข้าไปอยู่ในร้านแล้วจะเหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น โปรโมชั่นกุ้งแก้ว เราก็ทำงานร่วมกับ ตี๋น้อย ก็โชคดีว่า จังหวะได้แล้วก็ลอนช์ ไปซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก  ส่วน MK  ก็มีการคุยกันในเชิงกลยุทธ์ ที่ต้องทำงานร่วมอย่างต่อเนื่อง

 

“เรามีความได้เปรียบในเรื่องของแหล่งวัตถุดิบ โดยเฉพาะกุ้ง ทำให้เราสามารถควบคุมคุณภาพได้ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ซึ่งการเป็นพาร์ทเนอร์กับเชนร้านอาหารชั้นนำอย่าง MK, สุกี้ตี๋น้อย และ Copper Buffet ทำให้เราเข้าใจความต้องการของตลาด Food Service เป็นอย่างดี”

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มร้านอาหารเชนใหญ่อีกมากมาย อาทิ  ร้านอาหารในเครือโออิชิ ,ไมเนอร์ กรุ๊ป ตลอดจนแมคโดนัลด์ , Copper , NSL Foods , แม็คโคร ,โลตัส ,เซเว่น อีเลฟเว่น เป็นต้น 

Q-Fresh ทัพหน้าบุกตลาดรีเทล ปรับกลยุทธ์เจาะ Gen Z

ในขณะที่ตลาด Food Service เติบโตอย่างแข็งแกร่ง TFM ก็ไม่หยุดนิ่งในการรุกตลาดค้าปลีก (Retail) ผ่านแบรนด์ “Q-Fresh” โดยได้มีการปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z

 

 

โดย “คุณพนิตตา มิ่งสูงเนิน” ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด แบรนด์คิวเฟรช กล่าวว่า “เราเริ่มจากการรีแบรนด์แพ็กเกจจิ้งให้มีความสดใสและทันสมัยมากขึ้น จากนั้นเราได้ทำรีเสิร์ชเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ ซึ่งพบว่าพวกเขาต้องการความสะดวกสบาย และนิยมใช้ ‘หม้อทอด’ และ ‘ไมโครเวฟ’ ในการทำอาหาร”

จาก Insight ดังกล่าว Q-Fresh ได้พัฒนาสินค้าในกลุ่ม “Value Added” และ “Breaded” ซึ่งเป็นสินค้าพร้อมปรุงและพร้อมทาน เช่น กุ้งชุบแป้งทอด ที่สามารถนำเข้าหม้อทอดไร้น้ำมันได้ทันที เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมือง

นอกจากนี้ Q-Fresh ได้ใช้กลยุทธ์การตลาดที่เรียกว่า “Peer Community” หรือการสร้างการรับรู้ผ่านกลุ่มคอมมูนิตี้ออนไลน์ โดยเฉพาะในกลุ่มรีวิวสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต เช่น “รีวิว Makro” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 2.4 ล้านคน

“เราพบว่าการสื่อสารในกลุ่มเหล่านี้ทรงพลังมาก เพราะเป็นการบอกต่อแบบ ‘เพื่อนเชื่อเพื่อน'” ยกตัวอย่าง “สินค้ากุ้งต้ม’ ของเรากลายเป็นไวรัลในกลุ่มนี้ จนสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 30 ล้านบาทในเวลาเพียง 3 เดือน”

นอกจากนี้ Q-Fresh ยังใช้ Micro-Influencer และ Key Opinion Leader (KOL) อย่าง “คุณแก้มบุ๋ม” ในการทำ Live บน TikTok ซึ่งสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 70,000 บาทภายใน 1 ชั่วโมง พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังของช่องทางใหม่ๆ ในการเข้าถึงลูกค้า

 

กางแผน 3 ปี สู่ 500 ล้าน และการขยายพอร์ตโฟลิโอ

ด้วยความสำเร็จจากการปรับกลยุทธ์ Q-Fresh ได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตอย่างชัดเจน โดยคาดว่ายอดขายจะแตะ 300 ล้านบาทในปีนี้ และทะยานสู่ 500 ล้านบาทภายใน 3 ปีข้างหน้า (ปี 2571) ผ่าน 3 กลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนการเติบโต ได้แก่

  • Customer Centricity หรือการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง โดยอาศัยข้อมูลเชิงลึกจากการวิจัยตลาด และการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคมาเป็นพื้นฐานในการพัฒนาผลิตภัณฑ์
  • Customer Segment Expansion การขยายฐานลูกค้า โดยใช้ดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อเสียงสะท้อนของผู้บริโภคได้แบบเรียลไทม์
  • Strategic Partnership & Co-Innovation หรือการสร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อตอบรับเทรนด์การบริโภคที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลา

โดยกุญแจสำคัญสู่การเติบโตของ Q-Fresh คือการปรับกลยุทธ์เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z

  1. การ Rebrand: ปรับเปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งให้มีความสดใส ทันสมัย และโดดเด่นบนชั้นวางสินค้า
  2. การพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์: จากการทำรีเสิร์ช พบว่าคนรุ่นใหม่ต้องการความสะดวกสบาย และนิยมใช้ “หม้อทอดไร้น้ำมัน” และ “ไมโครเวฟ” Q-Fresh จึงได้พัฒนาสินค้าในกลุ่ม “Value Added” (สินค้าพร้อมปรุง) และ “Breaded” (สินค้าชุบแป้งทอด) พร้อมทั้งมีแผนที่จะขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้าไปยังวัตถุดิบอื่นๆ ที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ เช่น “ปลาหมึก” เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาหารทะเลที่ได้รับความนิยม พร้อมทั้งการทำ “Co-innovation”  กับพาร์ทเนอร์ต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ตลาดอย่างต่อเนื่อง
  3. เจาะตลาด Gen Z ผ่าน Insight จริง: จากการสำรวจกลุ่มวัยรุ่นในย่านสยามสแควร์ พบว่า “กุ้ง” ยังคงเป็นอาหารทะเลยอดนิยม และมีความต้องการเมนูใหม่ๆ ที่ทำง่าย เช่น กุ้งเผาพร้อมน้ำจิ้ม หรือกุ้งที่สามารถนำไปประกอบอาหารง่ายๆได้

 

 

“ที่ผ่านมา เรามีการจับมือกับพันธมิตรร้านอาหารระดับพรีเมียมเพื่อรังสรรค์เมนูที่สอดรับกับกระแส Chef’s Table และไฟน์ไดน์นิ่ง อย่างไรก็ดี ปัจจุบันอาหารประเภทสตรีทฟู้ดกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เนื่องจากเป็นอาหารที่เข้าถึงง่าย รับประทานได้ทุกวัน และมีตัวเลือกที่หลากหลาย Q-Fresh จึงได้ปรับกลยุทธ์โดยมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่ม Ready to cook – Value-added  ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และไม่ยุ่งยาก และในโอกาสครบรอบ 8 ปี รวมทั้งการจับมือกับพันธมิตร 8 ร้านดัง เพื่อรังสรรค์เมนูพิเศษที่ใช้วัตถุดิบจากคิวเฟรช”

ทั้งนี้ในปี 2567 พอร์ตธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งภายใต้กลุ่มไทยยูเนี่ยนนั้นประกอบด้วย 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ กุ้ง 59% ,แซลมอนและปลากะพง  21%,อาหารสำเร็จรูปแช่แข็งพร้อมทาน 18% และซีฟู้ด สแน็ค 2% ทั้งในรูปแบบรับจ้างผลิต (Private Label) และภายใต้แบรนด์ของบริษัทเองอย่างคิวเฟรช


แชร์ :

You may also like