สยามเซ็นเตอร์ (Siam Cemter) เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ประกาศย้ำจุดยืนครั้งสำคัญในฐานะ “The Thaideaopolis – มหานครแห่งไทยสร้างสรรค์” เดินหน้าผนึกกำลังพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน สร้างระบบนิเวศชิงสร้างสรรค์ (Creative Ecosystem) ที่แข็งแกร่ง เพื่อเป็นแพลตฟอร์มหลักในการขับเคลื่อนพลังสร้างสรรค์ไทยในทุกมิติ ทั้งแฟชั่น ดีไซน์ อาหาร และไลฟ์สไตล์ พร้อมปลุกพลังไทยสปิริตผ่านแคมเปญ #รักเธอประเทศไทย ชวนคนไทยร่วมภาคภูมิใจและผลักดันผลงานสร้างสรรค์ร่วมสมัยสู่สายตาชาวโลก
ท่ามกลางกระแสความตื่นตัวในพลังสร้างสรรค์ของไทย “สยามเซ็นเตอร์” ได้ผนึกพันธมิตรชั้นนำประกาศวิสัยทัศน์ ครั้งสำคัญในการประกาศย้ำจุดยืนในฐานะ ‘The THAIdeaopolis – มหานครแห่งไทยสร้างสรรค์’ ผนึกกำลังพันธมิตร ทุกภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศ ขับเคลื่อนพลังไทยสร้างสรรค์ในหลากหลายมิติให้ก้าวสู่เวทีโลก ที่ไม่ใช่แค่การ เป็นศูนย์การค้า แต่คือแพลตฟอร์มของคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ นักออกแบบ ดีไซน์ ดีไซน์เนอร์ ให้มีพื้นที่ในการออกแบบ พร้อมนำภูมิปัญญาไทยต่อยอดสู่สากล เพื่อสร้างระบบนิเวศแห่งความคิดสร้างสรรค์ (Creative Ecosystem) ที่แข็งแกร่ง
มีเป้าหมายเพื่อเป็นแพลตฟอร์มแห่งโอกาสที่สร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายแนวคิดสร้างสรรค์ของเยาวชนตลอดจนผู้ประกอบการไทยต่อยอดสู่เวทีระดับสากล พร้อมเชิญชวนทุกคนแสดงพลัง #รักเธอประเทศไทย ผ่านผลงานไทย สร้างสรรค์หลากหลายมิติ ที่สะท้อนความรัก ความภาคภูมิใจ และคุณค่าของความเป็นไทยในรูปแบบที่ทันสมัย

ตัวแทนยังก์ดีไซเนอร์จากสถาบันทั่วประเทศ
คุณเอกวิทย์ ชัยวรานุรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารหน่วยธุรกิจ สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “ตลอด 5 ทศวรรษที่ผ่านมา สยามเซ็นเตอร์คือเวทีต้นแบบที่แจ้งเกิดให้นักออกแบบ และแบรนด์ไทยระดับตำนานมานับไม่ถ้วน วันนี้เราขอตอกย้ำจุดยืนนั้นให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในฐานะ ‘The Thaideaopolis’ ที่ไม่ได้เป็นเพียงศูนย์กลางของไอเดีย แต่เป็นศูนย์กลางของ ‘ไอเดียแบบไทยๆ’ ที่พร้อมจะนำภูมิปัญญาและศักยภาพของ คนไทยไปต่อยอดสู่ความเป็นสากล”
พร้อมกันนี้ สยามเซ็นเตอร์ได้เปิดตัวแคมเปญ #รักเธอประเทศไทย เพื่อเป็นอีกหนึ่งข้อความสำคัญในการปลุกพลังคนไทย ให้ร่วมแสดงออกถึงความรักชาติในรูปแบบที่สร้างสรรค์และร่วมสมัย ผ่านผลงานที่สะท้อนคุณค่าและอัตลักษณ์ ความเป็นไทยในทุกมิติ เพื่อทำให้โลกหันกลับมามองประเทศไทยด้วยความชื่นชมและยอมรับในพลังสร้างสรรค์ที่ไม่สิ้นสุด
ก้าวต่อไป “สยามเซ็นเตอร์” ยังคงมุ่งมั่นสร้างระบบนิเวศ (Creative Ecosystem) ที่แข็งแกร่ง ด้วยการ Co-create Collaboration กับพันธมิตรทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษาชั้นนำ อาทิ หน่วยงานภาครัฐ เช่น กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงวัฒนธรรม, กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ,กรมส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน องค์กรสร้างสรรค์และ วัฒนธรรม เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA), ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) พันธมิตรเอกชนและแบรนด์ไทยชั้นนำภายในสยามเซ็นเตอร์
ทั้งหมดนี้ได้หลอมรวม ต่อยอดและสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมมอบ ประสบการณ์แปลกใหม่ (Extraordinary Experiences), เป็นครั้งแรก (Be The First), และเต็มเปี่ยมด้วย แรงบันดาลใจ (Be Inspired)
ส่องไฮไลต์โปรเจกต์ขับเคลื่อนพลังไทยสร้างสรรค์
การผนึกกำลังกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งคือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์นี้ให้เป็นจริงผ่านการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในเชิงกลยุทธ์แขนงต่างๆ ทั้งภาครัฐ-เอกชน อาทิ กระทรวงพาณิชย์, ททท., สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) และแบรนด์ไทยชั้นนำอีกมากมาย เพื่อสร้างสรรค์โปรเจกต์ที่น่าสนใจตลอดทั้งปี ประกอบไปด้วย
– พลังไทยสร้างสรรค์ด้านออกแบบ: ยกระดับงานดีไซน์ไทยสู่เวทีโลกผ่านโครงการ Designers’ Room/ Talent Thai / Creative Studio Promotion ร่วมกับ DITP และเปิดพื้นที่โชว์เคสสินค้าจากนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ผ่าน Absolute Siam Store x CEA – Neighbourmart POP! พร้อมปฏิวัติภาพจำของที่ระลึกไทยให้กลายเป็นงานดีไซน์สุดยูนีคที่ Absolute Siam Thai Souvenir
– พลังไทยสร้างสรรค์ด้านแฟชั่น: สานต่อตำนานผู้นำแฟชั่นไทย เปิดเวที Siam Center Visionary Stage ในงาน Bangkok International Fashion Week 2025 (ตุลาคม 2568) ให้ดีไซเนอร์รุ่นใหม่จากทั่วประเทศได้แสดงศักยภาพและเชื่อมโยงภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับเทรนด์โลก ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
– พลังไทยสร้างสรรค์ด้านอาหารและไลฟ์สไตล์: เป็นที่ตั้งของ Flagship Store แบรนด์อาหารไทยที่สร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ๆ เช่น ร้านตำกระเทยสาเกต และ ร้านอิเจ้แจ่วฮ้อน ที่นำรสชาติอีสานดั้งเดิมมาตีความใหม่ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนเมือง และ บูทีค ปัญญ์ปุริ คอนเซ็ปต์ใหม่ “The Purple Grove” และ Pop-up สุดพิเศษ ‘A RETURN TO WHAT’S ALREADY HERE’ เป็นต้น
การจับมือดังกล่าวจึงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการสร้าง “เศรษฐกิจไทยสร้างสรรค์” ผ่านจุดแข็งทั้ง 3 ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ความคิดสร้างสรรค์,ต้นทุนทางวัฒธรรม, และเทคโนโลยีองค์ความรู้ เพื่อผลักดันแบรนด์ไทยให้เติบโตในเวทีโลก พร้อมสร้างความภาคภูมิใจให้คนไทย
มาร่วมแสดงพลัง #รักเธอประเทศไทย และเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น ศูนย์กลางแห่งความคิดสร้างสรรค์ระดับโลก (Global Creative Hub) ที่ซึ่งพลังสร้างสรรค์ของคนไทย จะถูกส่งต่อไปสู่สายตาคนทั่วโลกอย่างน่าภาคภูมิใจ








