หากดูแนวโน้มธุรกิจโรงแรมปี 2025 พบว่าครึ่งปีแรก พบว่า ราคาขายเฉลี่ยต่อห้องพัก หรือ ADR (Average Daily Rate) ในทุกระดับห้องพักยังเติบโตได้ (เมื่อเทียบปีก่อนหน้า) ไม่ว่าจะเป็น Luxury อยู่ที่ 7,267 บาท เพิ่มขึ้น 6% Upscale 4,430 บาท เพิ่มขึ้น 10.5% และ Midscale (Economy) 2,040 บาท เพิ่มขึ้น 17.1%
แม้ครึ่งปีแรกอัตราการเข้าพักโรงแรมในกลุ่ม Luxury และ Upscale โดยคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยปีนี้ตัวเลขอยู่ที่ 34.5 ล้านคน ลดลง 2.8% เทียบปีก่อนหน้า จากปัจจัยเศรษฐกิจชะลอตัว ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Risk) แต่จาก ADR ที่เพิ่มขึ้นของโรงแรม เห็นได้ว่าแม้จำนวนลดลงแต่การใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
หากดูแนวโน้มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่เจอวิกฤติมาต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2011 น้ำท่วมใหญ่ มาถึงปี 2019 สถานการณ์โควิด ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจากปี 2010 ที่จำนวน 15.94 ล้านคน มาถึงปี 2019 จำนวน 39.92 ล้านคน เติบโต 150%
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คาดการณ์ว่านับจากปี 2024 ที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 35.55 ล้านคน ปี 2033 จะเพิ่มเป็น 88.88 ล้านคน หรือเติบโต 150% จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้ยังเห็นการลงทุนธุรกิจโรงแรมอย่างต่อเนื่อง
PCL ชูโมเดลบริหารเชนโรงแรมชื่อเจ้าของ – อินเตอร์เชน
คุณปฐม ศิริวัฒนประยูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พีซีแอล ฮอสปิทาลิตี้ จำกัด (PCL Hospitality) กล่าวว่าบริษัทเป็นที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารจัดการโรงแรมแบบครบวงจร ทั้งในรูปแบบแฟรนไชส์ (Franchise)ของอินเตอร์เชน และการบริหารภายใต้แบรนด์ของเจ้าของโครงการ (White Label) ที่เปิดดำเนินการมา 10 ปี และตัวเองมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจโรงแรมในกลุ่มอินเตอร์เชนมากว่า 3 ทศวรรษ
บริการของ PCL
1. ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาโรงแรม บริการครอบคลุมตั้งแต่แนวคิดโครงการจนถึงการเตรียมความพร้อมในช่วงก่อนการก่อสร้าง ได้แก่
– การศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Study) วิเคราะห์ตลาด กลุ่มเป้าหมาย และประมาณการทางการเงิน เพื่อประเมินความคุ้มค่าและศักยภาพของโครงการ
– การคัดเลือกแบรนด์ (Brand Selection) ประเมินตัวเลือกแบรนด์ให้สอดคล้องกับตำแหน่งทางการตลาดและวัตถุประสงค์ของโครงการ
– บริการด้านเทคนิค (Technical Service) ให้คำแนะนำและตรวจสอบแบบสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของการดำเนินงานโรงแรม
– การบริหารจัดการโครงการ (Project Management) ดำเนินการบริหารและประสานงานกับทีมผู้ออกแบบ ผู้รับเหมา แบรนด์โรงแรม และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในช่วงก่อนการก่อสร้าง เพื่อให้โครงการสอดคล้องกับแผนงานและมาตรฐานที่วางไว้
2. บริหารจัดการโรงแรม (Hotel Management Services) บริหารจัดการโรงแรมในฐานะ Third-Party Operator โดยครอบคลุมการบริหารบุคลากร การตลาด การจัดการรายได้ การควบคุมต้นทุน และการรักษามาตรฐานการให้บริการ ทั้งในรูปแบบแฟรนไชส์ (Franchise) ของอินเตอร์เชน และภายใต้แบรนด์ของเจ้าของโครงการ (White Label)
โรงแรม เรนทรี เขาใหญ่
การบริหารโรงแรมภายใต้ชื่อเจ้าของ (White Label) ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมขนาดกลางและเล็ก ที่ยืดหยุ่นในการสร้างแบรนด์ของตนเอง ส่วนการบริหารโรงแรมภายใต้แบรนด์โรงแรมชั้นนำของเครือโรงแรมระดับโลก (International Chain) เป็นตัวเลือกสำหรับโรงแรมตั้งแต่ 80 ห้องขึ้นไป ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่พิสูจน์ถึงความสำเร็จอย่างสูงในตลาดสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่ง PCL จะผลักดันให้เป็นอีกทางเลือกหลักของการบริหารโรงแรมในภูมิภาคนี้
“หัวใจสำคัญของการบริหารจัดการโครงการ ต้องวางรากฐานที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ การกำหนดรูปแบบและแนวทางของโรงแรมให้เหมาะสม การจัดทำงบประมาณ ตลอดจนการวิเคราะห์ผลตอบแทนจากการลงทุน เพื่อช่วยลดความเสี่ยงทั้งด้านเงินทุนและเวลา”
3 กลุ่มหลักลูกค้า PCL บริหารโรงแรม
สำหรับลูกค้าของ PCL ในการเป็นที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารโรงแรม มี 3 กลุ่มดังนี้
1. กลุ่มทายาทที่รับไม้ต่อธุรกิจโรงแรมจากรุ่นพ่อแม่ที่ทำธุรกิจโรงแรมอยู่แล้ว แต่รุ่นลูกอาจไม่ต้องการบริหารต่อ จึงว่าจ้าง Third-Party อย่าง PCL เข้ามาบริหารหรือดูแลการปรับปรุงและพัฒนาต่อ รวมทั้งกลุ่มเศรษฐีที่ดิน หรือตระกูลดังเจ้าของที่ดินทำเลทอง ที่ต้องการลงทุนธุรกิจโรงแรมเพื่อสร้างรายได้ระยะยาว
2. กลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการกระจายความเสี่ยง (diversification) จากธุรกิจเดิมที่มีอยู่ หรือธุรกิจอยู่ในช่วงขาลง เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีที่ดินอยู่แล้ว จึงขยายพอร์ตโฟลิโอมาลงทุนธุรกิจโรงแรมที่มองว่ายังมีโอกาสเติบโตได้
3. ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์พัฒนาที่อยู่อาศัย ซึ่งมีที่ดินในมืออยู่แล้วและต้องการขยายพอร์ตโฟลิโอธุรกิจโรงแรมที่สามารถสร้างรายได้ประจำ
โดย PCL จะได้รับค่าธรรมเนียม (Fee) จากการเป็นที่ปรึกษาพัฒนาโครงการและการบริหารโรงแรมจากเจ้าของโครงการที่มาว่าจ้าง
Hampton by Hilton Phuket Town
ด้านการบริหารโรงแรม PCL ได้รับความไว้วางใจจาก International Chain ที่ให้ความเชื่อมั่นเป็น preferred partner ที่มีบทบาทตั้งแต่การวางแผนพัฒนาไปจนถึงการบริหารจัดการอย่างเต็มรูปแบบ ล่าสุดได้ร่วมงานกับ Hilton ในการเปิดตัว Nivata Koh Samui, Tapestry Collection by Hilton ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปีนี้ และ Hampton by Hilton Phuket Town ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของแบรนด์นี้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ได้ปรับโฉม Wyndham Jomtien Pattaya ให้กลายเป็นที่พักระดับพรีเมียมในพัทยา รวมทั้งโครงการยักษ์ใหญ่อย่าง Vega City Nha Trang เวียดนาม ที่รวบรวมโรงแรมในเครือ Melia, Grand Melia และ New World ไว้ด้วยกัน
ขณะเดียวกัน PCL ยังเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ ภายใต้โมเดลแฟรนไชส์ของเครือโรงแรมระดับโลก อย่าง Renaissance Pattaya โดยพัฒนาตั้งแต่เริ่มต้นจากที่ดินเปล่า บริหารจนกลายเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวที่ได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นอกจากนี้ยังได้บริหารโรงแรม Best Western Matter ติวานนท์ ซึ่งเป็นการพลิกโฉมอาคารเดิมให้กลายเป็นโรงแรมระดับสากล
Renaissance Pattaya
ในส่วนการบริหารจัดการโรงแรมแบบ White Label ที่พัฒนาขึ้นโดยเจ้าของแบรนด์เอง อาทิ Riva Vibe Hotel Bangkok ที่ช่วยสร้างสรรค์ตั้งแต่แนวคิดไปจนถึงการบริหาร รวมถึง Rain Tree Khao Yai Hotel โรงแรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
กลุ่มธุรกิจ-ตระกูลดังหันลงทุนโรงแรม
คุณศรินญา มหาดำรงค์กุล กรรมการบริหาร โรงแรมเรเนซองส์ พัทยา รีสอร์ท แอนด์ สปา เปิดเผยว่าการลงทุนธุรกิจโรงแรมเพราะมองเห็นศักยภาพการเติบโตของทำเลนาจอมเทียน พัทยา จึงตัดสินใจบุกเบิกพัฒนาโรงแรม เรเนซองส์ พัทยา ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์ของเครือ Marriott โดยโครงการประสบความสำเร็จด้วยดีมาตลอด 8 ปี โดยร่วมมือกับ PCL ในการพัฒนาโรงแรมตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยความเชี่ยวชาญของ PCL ที่เปรียบเสมือนทางลัดสู่ความสำเร็จ ช่วยลดความเสี่ยงและสร้างความมั่นใจในการดำเนินงาน เพราะความสำคัญของธุรกิจโรงแรมคือการบริหารประสบการณ์ของแขกและพนักงานให้ดีที่สุด
คุณเจน จงสถิตย์วัฒนา กรรมการบริหาร โรงแรม เรนทรี เขาใหญ่ กล่าวว่าโรงแรมที่สร้างขึ้นเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ในเครือของบริษัทนานมีบุ๊คส์ โดยออกแบบทุกพื้นที่ให้สร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้เข้าพัก การเข้ามาของ PCL ช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าได้อย่างชัดเจน คะแนนความพึงพอใจเพิ่มขึ้นต่อเนื่องภายในระยะเวลาอันสั้น ด้วยความเข้าใจในวัตถุประสงค์ และความสามารถในการบริหารต่อยอดเอกลักษณ์ของโรงแรม ทั้งบรรยากาศธรรมชาติและกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับท้องถิ่น
PCL เปิดแผน 5 ปีบริหารโรงแรมเพิ่มเท่าตัว-เปิดแบรนด์เชนโรงแรมของตัวเอง
ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา PCL ได้เข้าไปบริหารโรงแรมทั้งอินเตอร์เชนและภายใต้ชื่อเจ้าของ 30 โครงการ รวม 1,300 ห้อง กระจายอยู่ใน 10 จังหวัดของประเทศไทย คือ ในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยว
วางแผนธุรกิจอีก 5 ปีจากนี้ (2025-2030) ขยายการบริหารโรงแรมทั้งอินเตอร์เชนและภายใต้ชื่อเจ้าของรวมเป็น 5,000 ห้อง หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปัจจุบัน
โดยปลายปีนี้ PCL เตรียมเปิดตัวแบรนด์เชนโรงแรมของตัวเองครั้งแรก ระดับ Premium Economy เฉลี่ยราคาห้องละ 1,500 บาทต่อคืน ในทำเลเมืองรอง (Secondary Cities) เช่น ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี พิษณุโลก โครงการแรกเป็นการซื้อตึกโรงแรมที่มีอยู่แล้วมาปรับปรุงใหม่ ตามแผน 5 ปี จะลงทุน 5 แห่ง ลงทุนโครงการละ 10-80 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับจำนวนห้องพัก
การลงทุนเปิดแบรนด์เชนโรงแรมเจาะกลุ่ม Premium Economy ไม่ได้มองแค่ตลาดนักท่องเที่ยว แต่มองโอกาสจากตลาดการเดินทางทุกรูปแบบทั้งงานประชุม เยี่ยมญาติ สายมู ซึ่งในทำเลเมืองรองยังมีโอกาสอีกมาก อีกทั้งโรงแรมในตลาดนี้มีคู่แข่งที่เป็นเชนโรงแรมไม่มาก
นอกจากนี้ได้เตรียมเปิดตัวแบรนด์เชนโรงแรมระดับ Premium อีกหนึ่งแบรนด์ โดยลงทุนโครงการแรกที่ทำเลทองหล่อ มูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท เปิดบริการช่วงปลายปี 2569 หรือต้นปี 2570
การลงทุนโรงแรมด้วยการเปิดแบรนด์เองทั้งระดับ Premium Economy และ Premium เพื่อให้ผู้ที่สนใจลงทุนโรงแรมมี “ตัวเลือก” ในใช้แบรนด์ของบริษัท นอกจากการใช้อินเตอร์เชน
ตามแผนธุรกิจ 5 ปี เตรียมขยายการบริหารเชนโรงแรมไปยังต่างประเทศ คือ ลาวและเวียดนาม ขณะนี้มีโปรเจกต์ในมือแล้ว 5 โครงการ
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE