แบกต้นทุนไม่ไหว “ฟาสต์ รีเทลลิ่ง” บริษัทแม่ของยูนิโคล่ (Uniqlo) แบรนด์เสื้อผ้ายักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นเตรียมขึ้นราคาสินค้าในสหรัฐอเมริกาแล้ว พร้อมระบุว่า เหตุผลหลักมาจากภาษีของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จัดเก็บกับประเทศต่าง ๆ ได้เริ่มส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินงานของบริษัทในสหรัฐฯ นั่นเอง
สำหรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับ Uniqlo นั้น คุณทาเคชิ โอคาซากิ เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของฟาสต์ รีเทลลิ่ง ระบุว่า จะเริ่มเห็นผลกระทบอย่างมากในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวของปีนี้ ซึ่งแนวทางแก้ไขคือ การขึ้นราคาสินค้าในส่วนที่ทำได้ และจะพยายามสร้างธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนร่วมด้วย
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ Uniqlo ส่วนใหญ่ที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ และหลายประเทศต้องเผชิญกับภาษีนำเข้าระดับสูง เช่น ศรีลังกาที่เจออัตราภาษี 30% หรือเวียดนามที่แม้จะได้ภาษีนำเข้าต่ำกว่า 20% แต่ถ้าเป็นการส่งออกสินค้าจากประเทศที่สามผ่านเวียดนามจะต้องเสียภาษีนำเข้า 40% เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ในปีงบประมาณนี้ (สิ้นสุดเดือนสิงหาคม) ฟาสต์ รีเทลลิ่ง คาดการณ์ว่าจะมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 545,000 ล้านเยน เนื่องจากได้ส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ล่วงหน้าแล้ว (ปัจจุบัน Uniqlo มีสาขามากกว่า 2,500 แห่งทั่วโลก)
แต่สำหรับยอดขายและกำไรในไตรมาสที่สี่นั้น คาดว่าจะลดลง โดยเฉพาะในตลาดจีนที่กำลังซื้อเริ่มชะลอตัว (มีร้าน Uniqlo มากกว่า 900 แห่งในจีนแผ่นดินใหญ่) โดยบริษัทได้หันไปลงทุนเพิ่มในอเมริกาเหนือและยุโรปเป็นการทดแทนแล้ว
ผลกระทบดังกล่าวยังทำให้หุ้นของ Fast Retailing เป็นหุ้นที่ขาดทุนมากเป็นอันดับสี่ในบรรดาหุ้นขนาดใหญ่ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ด้วย โดยลดลงประมาณ 8% (อ้างอิงจาก LSEG)
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand
เป็นเพื่อนกับเราได้ที่ LINE




