
ในปี 2567 “อายิโนะโมะโต๊ะ” ได้เสิร์ฟอาหารเพื่อสุขภาพ 248 ล้านมื้อ เติบโต 24% ผลิตภัณฑ์ที่ทำรายได้หลักและเป็น “ผู้นำ”ตลาด ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดคือ ผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะ 90%, รสดี 80% และกาแฟกระป๋องเบอร์ดี้ 50%
นอกจากนี้ยังกลุ่มสินค้าที่เติบโตโดดเด่น คือ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมกรดอะมิโน 30% และอาหารแช่แข็ง 80%
เปิดแผน ปี68 ชู 3 กลยุทธ์ผู้นำธุรกิจอาหาร
มร.อิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าทิศทางการดำเนินงานในปี 2568 ขับเคลื่อนธุรกิจผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ก้าวสู่ผู้นำธุรกิจอาหารสร้างความอยู่ดีมีสุข (Well-Being)
1. สร้างการเติบโตกลุ่มสินค้าผู้นำตลาดและสินค้าเพื่อสุขภาพ “ลดโซเดียม- น้ำตาล 0%”
– กลุ่มสินค้าเครื่องปรุงรส “ผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะ” ในฐานะผู้นำตลาด เตรียมเปิดตัวอีกหลากหลายผลิตภัณฑ์
– “รสดี” ปีที่ผ่านมาสร้างการเติบโตจากสินค้าทางเลือกสุขภาพ เช่น “รสดีเมนู แป้งชุบทอดปรุงรสสำเร็จ” สูตรลดการอมน้ำมัน 30% และลดโซเดียม “รสดีมายด์” ลดเกลือลง 15% รวมทั้งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ความสะดวกทำอาหารด้วย “รสดีซุปก้อน ฮอทพอท รสซุปหม่าล่า”
– กาแฟ “เบอร์ดี้” ช่วงครึ่งปีแรก “เบอร์ดี้” ยังรักษาการเติบโตเบอร์หนึ่งตลาดกาแฟกระป๋องได้ดี โดยมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดต่อเนื่อง ตอบโจทย์ทางเลือกสุขภาพและความต้องการที่หลากหลาก โดยสูตร Low Sugar และสูตรน้ำตาล 0% (Zero Sugar) เติบโตสูงกว่าสูตรปกติจากเทรนด์การดูแลสุขภาพ ปีที่ผ่านมาเปิดตัว “เบอร์ดี้คาเฟ่” แบบขวด PET แนวเทรนดี้ ปีนี้เตรียมเปิดตัวรสชาติใหม่เพิ่มเติม
– อาหารแช่แข็ง เพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์เมนูอาหารสไตล์ญี่ปุ่น ที่กินง่ายและดีต่อสุขภาพ
– ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน (Ready-to-eat) เปิดตัว “อายิโนะโมะโต๊ะ ควิก มีล” โจ๊กพร้อมทาน (ฉีกซองพร้อมรับประทานได้ทันทีไม่ต้องเติมน้ำ) เก็บได้ที่อุณภูมิห้อง หรืออุ่นด้วยเตาไมโครเวฟ เป็นสินค้าที่เจาะคนเมืองที่เร่งรีบด้วยอาหารมื้อเร่งด่วน
– กลุ่มธุรกิจใหม่ใช้นวัตกรรม AminoScience พัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกรดอะมิโน เช่น “อะมิโนไวทัล วอเตอร์ชาร์จ” เครื่องดื่มชาร์จพลังสำหรับกลุ่มเล่นกีฟฬา, “อายิโนะโมะโต๊ะ อะมิโนไนท์” เสริมการนอน, “อะมิโนมอฟ” สำหรับผู้สูงวัย
2. หนุนโภชนาการกีฬาให้ทัพนักกีฬาและคนไทย สานต่อโครงการ Thailand Victory Project เป็นปีที่ 7 ผ่านการสนับสนุนกีฬาซีเกมส์ 2025 โดยต่อยอดความเชี่ยวชาญในการดูแลโภชนาการกีฬาและจุดแข็งด้าน “AminoScience” จากญี่ปุ่นสู่ไทย
นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดตัว Ajinomoto Victory Canteen ซึ่งเป็นการปรับลุคใหม่ให้กับห้องอาหารของนักกีฬา นำเสนอโภชนาการที่ดี และพื้นที่กิจกรรมสำหรับพัฒนาศักยภาพของทัพนักกีฬาไทย
3. ใช้เทคโนโลยี FarmAI ช่วยลดคาร์บอนสร้างความยั่งยืน ตั้งเป้าลดใช้คาร์บอน พร้อมเพิ่มปริมาณการตรวจสอบกลับ (traceability) จากโครงการ “Thai Farmer Better Life Partner” ขึ้นเป็น 45,000 ตัน หรือประมาณ 30% โดยมีแอปพลิเคชัน FarmAI เป็นเครื่องมือใหม่ที่จะเข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพในการตรวจสอบกลับการดำเนินงานในระบบ ecosystem
พร้อมเดินหน้าโมเดล Ajinomoto FD Green one-stop service ด้วยการสร้างเครือข่ายเพื่อการเกษตรกับพาร์ตเนอร์อย่างครบวงจร ผ่านการใช้เทคโนโลยีในการยกระดับการเกษตร เพิ่มผลผลิตและให้ความรู้แก่เกษตรกรมันสำปะหลังและกาแฟเพื่อผลผลิตที่มีคุณภาพ ควบคู่กับการลดคาร์บอนตามเป้าหมายใน Scope 3
ประเทศไทยผลิตแป้งมันสำปะหลัง 5,000 ล้านตันต่อปี ส่งออก 80% และใช้ในประเทศ 20% ซึ่งอายิโนะโมะโต๊ะ เป็นผู้ใช้วัตถุดิบมันสำปะหลังรายใหญ่ในไทย จากการผลิตเครื่องปรุงรส
ปีที่ผ่านมาบริษัทบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอน ประกอบด้วย การลดคาร์บอน 92% สำหรับ Scope 1 และ 2 และยังบรรลุเป้าหมายด้านการลดของเสียจากอาหารที่ 82% (1,600 ตัน) ลดการใชน้ำ 92% และยังจัดทำแคมเปญ Upcycling เก็บกลับพลาสติกได้กว่า 1.5 ล้านชิ้น ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรที่หลากหลาย การปรับเปลี่ยนชุดยูนิฟอร์มสำหรับพนักงานขายและพนักงานโรงงานเป็นเสื้อที่ทำมาจากพลาสติกรีไซเคิล และการติดตั้งหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ได้เกือบ 100% ที่โรงงานผลิต
เจาะตลาดร้านอาหารสตรีทฟู้ดหนุน B2B โต
กลุ่มธุรกิจ B2B ของ “อายิโนะโมะโต๊ะ” เจาะตลาดธุรกิจร้านอาหารและสตรีทฟู้ดไทย ปี 2567 ธุรกิจนี้มีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท มีผู้ประกอบการร้านอาหารกว่า 700,000 ร้านค้า ร้านอาหาร 3 กลุ่มแรกที่มีจำนวนมากสุดคือ 1. อาหารอีสาน 2.ร้านอาหารตามสั่ง 3.ร้านก๋วยเตี๋ยว
โดยร้านก๋วยเตี๋ยว มีสัดส่วน 20% ของร้านอาหารทั้งหมด “อายิโนะโมะโต๊ะ” ได้พัฒนาสินค้าใหม่เจาะตลาดนี้ ด้วย “ซุปก๋วยเตี๋ยวรสดีแบบน้ำ” สูตรซุปกระดูกหมูเคี่ยวนาน และ “อายิพลัส ผงนัวสูตรเข้มข้น” ที่ช่วยให้ปรุงอาหารได้อร่อยคงที่
ปีนี้ธุรกิจร้านอาหารสตรีทฟู้ดที่จับกลุ่มกำลังซื้อคนไทยกิน 3 มื้อในชีวิตประจำวัน ยังมีโอกาสเติบโตได้และเป็นโอกาสขยายตลาดของ “อายิโนะโมะโต๊ะ” เพื่อสร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจ B2B
“อายิโนะโมะโต๊ะ” แบรนด์ที่อยู่ในประเทศไทยมากว่า 60 ปี เริ่มต้นจากผงชูรส “แต่วันนี้เราไม่ใช่แค่บริษัทผลิตเครื่องปรุงรส จากกลยุทธ์ขับเคลื่อนองค์กรด้าน Well-Being จะทรานส์ฟอร์มสู่ผู้นำในการสร้างความอยู่ดีมีสุข ด้วยความเชี่ยวชาญด้าน AminoScience เพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างยั่งยืน”
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE







