หากพูดถึงหนึ่งในเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชื่อของ “ชาไทย” คงเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มแก้วโปรดในใจใครหลายคน…โดยเฉพาะเมื่อกระแสชาไทยกลายเป็นไวรัลสำหรับชาวต่างชาติ ด้วยรสชาติอันหอมหวาน สีส้ม เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร ทำให้เครื่องดื่มชนิดนี้เข้าไปอยู่ในใครได้ไม่ยาก
ในขณะที่กระแสที่ชาไทยกำลังเป็นที่รู้จัก “ชาตรามือ” คือหนึ่งในแบรนด์ที่ไม่เพียงอยู่เบื้องหลังเทรนด์นี้ แต่ยังเป็น “ผู้นำตลาด” ที่สร้างจุดเปลี่ยนให้ชาไทยกลายเป็น Soft Power ของไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิ
จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ เมื่อปี 2488 ภายใต้ชื่อแบรนด์ “ชาตรามือ” ในยุคที่การดื่มชาในบ้านเรายังผูกโยงกับวัฒนธรรมจีน… ใครจะคิดว่าวันนี้ ชานมใส่น้ำแข็งแบบไทยๆ จะกลายเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่โด่งดังที่สุดของประเทศ และส่งต่อไปสู่ใจคนทั่วโลกได้ จนกลายเป็นแบรนด์ชาไทย ที่มีรายได้กว่า 3,000 ล้านบาทในปี 2567 ที่ผ่านมา และยังสามารถครองส่วนแบ่งทางในตลาดได้ 70% (ในไทย) ส่งออกสินค้าภายใต้แบรนด์ชาตรามืออย่างเป็นทางการไปมากกว่า 21 ประเทศ มีสาขาในประเทศแล้วกว่า 220 สาขา และต่างประเทศ 114 สาขา ใน 11 ประเทศ (ในรูปแบบแฟรนไชส์) ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ จีน และเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกง กัมพูชา พม่า มาเลเซีย บรูไน เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม
คุณศรีศุภร จาตุรงควนิชย์ กรรมการบริหาร แบรนด์ชาตรามือ กล่าวว่า 80 ปี ของชาตรามือ ที่เติบโตเคียงคู่สังคมไทย ได้มีส่วนร่วมนำความเปลี่ยนแปลงให้กับพฤติกรรมการดื่มชาของคนไทย เพราะเป็นแบรนด์แรกๆ ที่พัฒนาสูตรเครื่องดื่ม “ชาไทย” ชาใส่นมและเสิร์ฟพร้อมน้ำแข็ง เพื่อให้เหมาะกับสภาพอากาศของประเทศไทย จนกลายเป็นเมนู “ชาไทย” สูตรต้นตำรับชาตรามือ
คุณศรีศุภร จาตุรงควนิชย์
นอกจากนี้ “ชาตรามือ” ยังได้สร้างโมเดลร้านชา เพื่อนำเมนูชาไทยที่เคยเป็นสตรีทฟู้ดเข้าไปจำหน่ายในศูนย์การค้า และยังได้ร่วมผลักดัน “Thai Tea” ให้กลายเป็นเมนูเครื่องดื่มที่คนทั่วโลกรู้จัก เรียกได้ว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทยอย่างแท้จริง
เปิดวิสัยทัศน์เจน 3 ปั้นรายได้ 5,000 ล้านบาทใน 2 ปี
วันนี้ “ชาตรามือ” ก้าวสู่เส้นทางการเติบโตอีกขั้น ภายใต้การบริการงานของทายาทรุ่นที่ 3 นำโดย พราวนรินทร์ เรืองฤทธิเดช, เศรษฐิกิจ เรืองฤทธิเดช และศรัณพัฐ เรืองฤทธิเดช ในฐานะกรรมการบริหาร ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่การทำชาให้อร่อย หรือขายดี แต่กำลังพาแบรนด์ไปสู่ทิศทางใหม่ ทั้งเชิงธุรกิจ นวัตกรรม และวัฒนธรรม
“เป้าหมายของเราคือการเป็น Global Brand อย่างแท้จริง โดยยังคงรักษาแก่นแท้ของชาไทยเอาไว้” คุณพราวนรินทร์กล่าว
ดังนั้นยุทธศาสตร์ของ “ชาตรามือ” นับจากนี้ไปจะเน้นการเติบโตแบบรอบด้านโดยอาศัยจุดแข็งการบริหารธุรกิจที่มีรากฐานแข็งแรงและครบวงจร ตั้งแต่
- ต้นน้ำ: ดูแล ให้ความรู้ และพัฒนาทักษะ เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่เกษตรกรไร่ชาบนดอยเขตภาคเหนือของไทย
- กลางน้ำ: มีโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง ตั้งอยู่ที่ อ. เวียงป่าเป้า จ. เชียงราย สำหรับผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ชาตรามือ และผลิตวัตถุดิบชาสำหรับชงเครื่องดื่มและของหวานป้อนทั้งในและต่างประเทศ
- ปลายน้ำ: มีสินค้าภายใต้แบรนด์ชาตรามือมากถึง 50 SKU จำหน่ายในช่องทาง Modern trade
เปิด 3 กลยุทธ์ หนุนการเติบโตพร้อมทะยาน Global Brand
ด้านคุณเศรษฐิกิจ เรืองฤทธิเดช กล่าวถึงแนวทางธุรกิจของชาตรามือ ในโอกาสครบรอบ 80 ปี ว่า เป้าหมายต่อไป คือการผลักดันให้แบรนด์ชาตรามือก้าวอย่างยิ่งใหญ่สู่การเป็น “แบรนด์ระดับโลก” (Global brand) ด้วยเพราะมองเห็นศักยภาพความแข็งแกร่งของแบรนด์ชาตรามือ เสริมด้วยการมีเมนูชาไทยซิกเนเจอร์ ที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ระดับโลก
ส่วนกลยุทธ์หลักที่จะมาผลักดันการเติบโต ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักได้แก่
1.Expand Market การมองหาตลาดใหม่ๆ โดยปัจจุบันมีการขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศปัจจุบัน 23 ประเทศ 5 ทวีป โดยปัจจุบันชาตรามือ มีรายได้จากในประเทศ 70% ส่วนในต่างประเทศ 30% ซึ่งในต่างประเทศเป็นรายได้ที่มาจากการจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับชามากกว่าหน้าร้าน ดังนั้นจากนี้ไปบริษัทจะโฟกัสการขยายสาขา (หน้าร้าน) ในต่างประเทศเพิ่มขึ้น
โดยในปีนี้มีแผนการขยายไปอีก 4 ประเทศ ได้แก่ แคนาดา ลาว เม็กซิโก และอินโดนีเซีย ขยายสาขาต่างประเทศรวม 130 สาขา ทำให้ในสิ้นปีนี้ “ชาตรามือ” จะมีสาขาในต่างประเทศ 244 สาขา ส่วนในประเทศจะขยายเพิ่ม 250 สาขาภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้มีสาขาในประเทศ 470 สาขาในสิ้นปี
คุณเศรษฐิกิจ เรืองฤทธิเดช
“แม้จะยังไม่มีแผนขายแฟรนไชส์ในไทย แต่ในต่างประเทศเกือบทั้งหมดคือรูปแบบแฟรนไชส์ เพราะ “การมีพาร์ตเนอร์ที่เข้าใจท้องถิ่น” คือกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้แบรนด์เข้าใจผู้บริโภคแต่ละพื้นที่ได้ดีขึ้น”
2.New products เพิ่มสินค้าใหม่ ชารสชาติใหม่ และชาประเภทต่างๆ โดยจะมีการลงทุนใหม่ และขยายไลน์สินค้าใหม่ทุกๆปี ผ่านโรงงานการผลิตที่ครบวงอยู่เวียงป่าเป้า เชียงราย บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ และยังมีการขยายคลังสินค้าเพื่อรองรับการขยายตัว ตัวอย่างสินค้าที่เป็นที่รู้จัก และชื่นชอบของลูกค้า คือชากุหลาบ เป็นที่นิยมมากในโลกโซเชียล จนกลายเป็นไวรัลทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดตัว “ชาไทยไม่มีสี” โดยใช้ชาตัวเดิม สูตรเดิม เพียงแต่ไม่มีการเติมสีส้มเข้าไป โดยจะวางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม 2568 “ชาไทยสีธรรมชาติ” ช่วงต้นไตรมาส 3 ของปี 2568 และ “ชาไทยคอมบูฉะ” (Sparkling Thai Tea Kombucha) เตรียมเปิดตัวต้นเดือนสิงหาคมปีนี้ เป็นต้น
3.Collaboration project เป็นอีกกลยุทธ์หลักในการทำตลาดช่วง3-4 ปีที่ผ่านมา จากนี้ไปขยายแบรนด์ที่จะคอลแลบเพิ่มขึ้นนอกอุตสาหกรรมอาหาร เช่น แฟชั่น ท่องเที่ยว ตั้งแต่
- Brands แบรนด์รังนก อันดับ 1 ของไทย สร้างสรรค์เมนูพิเศษ (เดือนมกราคม 2568)
- Universal Music ค่ายเพลงระดับโลก โดยร่วมกับศิลปินดังของค่ายนำเสนอ Tea Making @ ChaTraMue shop (เดือนมิถุนายน 2568)
- Cremo แบรนด์ไอศกรีมชื่อดังของไทย สร้างสรรค์ไอศกรีมแท่งรสชาไทยครีมชีส ที่ใช้วัตถุดิบชาไทยจากชาตรามือ (เดือนมิถุนายน 2568)
- Sushiro แบรนด์ซูชิสายพานอันดับ 1 ของญี่ปุ่น สร้างสรรค์เมนูขนมหวานที่ใช้วัตถุดิบชาไทยชาตรามือ (เดือนกรกฎาคม 2568)
- Sculptor แบรนด์แฟชั่นชื่อดังสัญชาติเกาหลี ออกแบบสินค้าแฟชั่น เช่น เสื้อผ้า และเครื่องประดับคอลเล็กชั่นพิเศษ (เดือนกรกฎาคม 2568)
นอกจากนี้ยังเตรียมนี้เปิดตัวแอพพลิเคชั่น “ชาตรามือ” เข้ามาให้บริการลูกค้า รับสิทธิประโยชน์และสั่งซื้อผ่านแอพฯได้แบบทันที โดยเตรียมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการภายในปี 2568 นี้ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวแอปฯ ไม่เกินไตรมาส 3 ปีนี้
มากกว่าแคมเปญการตลาด แต่คือการ “สร้างวัฒนธรรมชาไทย” ตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่
คุณศรัณพัฐ เรืองฤทธิเดช บอกว่า เพื่อเป็นการฉลองในโอกาสครบรอบ 80 ปี ชาตรามือจะยังคงเดินหน้ากิจกรรมการตลาด โปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นจากงานอีเวนต์ใหญ่
– Thai Tea Festival : Celebrate ChaTraMue 80th Anniversary ฉลอง ชาตรามือ 80 ปี ในวันที่ 19 – 21 กันยายน 2568 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ รวมสุดยอดความพิเศษจากชาตรามือ อาทิ เมนูพิเศษจากชาตรามือเปิดตัวครั้งแรกในงาน สินค้าลิมิเต็ดเอดิชั่น และพาร์ทเนอร์ร้านอาหารและคาเฟ่ดัง มารวมตัวกันนำเสนอเมนูอาหารและเครื่องดื่มสูตรพิเศษ และเมนูซิกเนเจอร์จาก ชาตรามือ
-Thai Tea Star Challenge การแข่งขันระดับประเทศ ครีเอตเมนูอาหารจากวัตถุดิบชาตรามือ ชิงรางวัลมูลค่ากว่า 100,000 บาท พร้อมโล่การันตีความอร่อยจากชาตรามือ โดยจะเริ่มแคมเปญการแข่งขันในไตรมาส 3 ปี 2568
-ChaTraMue Shop Campaign สร้างสรรค์เมนูพิเศษฉลองครบรอบ 80 ปี ชาตรามือ มีให้ลิ้มลองเฉพาะที่ ร้านชาตรามือ รวมทั้งโปรโมชั่นร่วมลุ้นสิทธิพิเศษมากมาย
ท้ายที่สุดแม้วันนี้ “ชาตรามือ” จะต้องเผชิญสถานการณ์ปัจจัยลบรอบด้านทั้งกำลังซื้อที่ชะลอตัว ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างไทย กัมพูชา ตลอดจนลดลงของนักท่องเที่ยวจีน แต่สถานการณ์ยังถือว่าประคองตัวและสร้างการเติบโตได้ เนื่องจากยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดpตั้งเป้าการเติบโตในสิ้นปี 2568 นี้ ไว้ที่ 20% เทียบเท่าปีที่ผ่านมาที่มีรายได้เติบโตราว 20-30%