ไม่บ่อยนัก ที่จะเห็นแบรนด์ข้ามชาติในฝั่งรีเทลเข้ามามีบทบาทและประสบความสำเร็จในไทย ไม่ว่าจะเป็นในแง่ภาพจำ ความนิยม ตลอดจนการขยายสาขา แต่ “มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย.” (MR. D.I.Y.) คือแบรนด์ยักษ์ค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์สัญชาติมาเลเซีย ที่ก้าวข้ามบทพิสูจน์ทั้งหมดจนประสบความสำเร็จในไทย และทะยานยอดมากกว่าหมื่นล้านบาทจนสำเร็จ
นี่คือ 8 ข้อสรุปเส้นทาง 9 ปี ของ MR.D.I.Y ในไทยบนเส้นทางแห่งความสำเร็จ กับการเดินหน้าสู่ทศวรรษใหม่ด้วยแผนลงทุนครั้งใหญ่ 6,000 ล้านบาท เพื่อขยายให้ครบ 1,500 สาขาภายใน 3 ปี พร้อมเปิดตัวโมเดลร้านรูปแบบใหม่ “MR. D.I.Y. 2.0” เจาะห้างเกรด A และพื้นที่ศักยภาพทั่วประเทศ
1.แบรนด์ “มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย.” (MR. D.I.Y.) ถือเป็นร้านอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์สัญชาติมาเลเซีย เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2548 ปัจจุบันมีสาขาในมาเลเซียกว่า 1,000 สาขา ส่วนในไทยเข้ามาทำตลาดครั้งแรกในปี 2559 หรือเมื่อ 9 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นประเทศแรกที่เข้ามาขยายสาขาในต่างประเทศ และเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากมาเลเซีย ปัจจุบันมีสาขาในไทยแล้ว 1,004 สาขา ครอบคลุม 77 จังหวัด ส่วนใหญ่เป็นสาขาในเขตภาคกลางกว่า 40% และมีพนักงานกว่า 10,000 คน มีลูกค้าหมุนเวียนเข้ามาใช้บริการแล้วกว่า 100 ล้าน Transition
2.ปัจจุบัน MR. D.I.Y. ขยายสาขาในต่างประเทศไปแล้ว 13 ประเทศทั่วโลก ซึ่ง Top 3 (ในแง่จำนวนสาขาเกิน 1,000 แห่ง) ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย โดยสาขาลำดับที่ 1,000 ในประเทศไทยสาขา “เดอะ มอลล์ ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน” ที่มาพร้อมโมเดลใหม่ “MR. D.I.Y. 2.0” ซึ่งเป็นดีไซน์รูปแบบใหม่ นับเป็นสาขาที่ 2 ของโมเดลนี้ต่อจากสาขาซีคอน ศรีนครินทร์ ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
3.โมเดลใหม่นี้ภายในเน้นเป็นดีไซน์ที่เพิ่มประสบการณ์การช้อปปิ้งแก่ลูกค้า โดยเชลฟ์จะไม่สูงมากนัก (เพื่อให้มองเห็นอีกฝั่งได้) มีโถงทางเดินตรงกลาง สำหรับจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นต่างๆ ได้ง่าย แน่นอนในอนาคตจะมีการขยายโมเดล “MR. D.I.Y. 2.0” นี้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งจะเน้นไปยังทำเลศูนย์การค้าเกรด A ที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูง

คุณอานุภาพ คงมาลัย
4.ขณะที่แผนงานระยะยาว 3 ปี (2568-2570) นับจากนี้ “MR.D.I.Y” วางเป้าหมายขยายสาขาเพิ่มอีก 500 สาขา ภายใต้งบประมาณการลงทุน 6,000 ล้านบาท นั่นจะทำให้ในอีก 3 ปีข้างหน้าจะมีสาขาทั้งสิ้นมากกว่า 1,500 สาขา โดยมีเป้าหมายคือเจาะทำเลตั้งแต่ระดับจังหวัด ไปจนถึงทำเลขนาดเล็กอย่างระดับตำบล โดยวางเป้าเป็นร้านค้าที่อยู่ทุกจังหวัด ทุกเมือง และทุกพื้นที่ในไทย
5.ส่วนเหตุผลของการเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง “คุณอานุภาพ คงมาลัย” รองประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บอกว่า เพราะไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง มีช่องว่างทางการตลาดอยู่มาก ซึ่งเมื่อเทียบกับมาเลเซียที่มีประชากรต่อคิดเป็นจำนวนกว่า 350 คนต่อสาขา ส่วนในไทย 1,000 สาขา คิดเป็นจำนวนประชากรต่อสาขาอยู่ที่ 660 คน นั่นเท่ากับว่าไทยยังมีมีศักยภาพอีกมากในการขยายสาขา
6. ส่วนกลยุทธ์นับจากนี้แบรนด์จะยังคงเน้น “Always Low Prices” หรือ ราคาถูกคุ้มเสมอ ผ่านสินค้ากว่า 15,000 รายการใน 6 หมวดสินค้า 6 แผนกหลัก ได้แก่ อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และเครื่องมือช่าง เครื่องใช้ในครัวเรือนและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา ของเล่น และหมวดหมู่อื่นๆ โดยมีทั้งสินค้าเฮาท์แบรนด์ 40% นอกจากนี้ยังมีสินค้าไทยกว่า 31% ที่ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์กว่า 350 ราย นั่นทำให้กลายเป็นจุดแข็งของแบรนด์ในการเติมสินค้าที่หลากหลายเต็มเชลฟ์รองรับลูกค้าตลอดเวลา
7.นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวมาสคอตในการสื่อสารแบรนด์ในชื่อน้อง “ปันดี” มาสคอตหมีแพนด้าสีขาวดำ มาในชุดฟอร์มสีเหลือง สวมหมวกที่เหลืองสดใส ซึ่งเป็นสีของแบรนด์ โดยชื่อ “ปันดี” มีที่มาจากการเป็นสินค้าในราคาแบ่งปัน ไม่แพง และ มีคุณภาพที่ดี เพื่อให้ลูกค้ามีความพึงพอใจเพื่อมัดใจลูกค้า โดยปัจจุบันลูกค้าของร้านมีการจับจ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 172-175 บาทต่อบิล หรือซื้อสินค้าเฉลี่ยคนละ 4 ชิ้น ส่วนสินค้าในร้านมีราคาเฉลี่ย 40 บาท
8.ในปีที่ผ่านมา MR.D.I.Y มีผลการดำเนินงาน 16,200 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเติบโตต่อเนื่องจากปี 2567 โดยเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา MR. D.I.Y. ได้ประกาศเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเตรียมเสนอขายหุ้น IPO ไม่เกิน 981,482,654 หุ้น โดยได้นับหนึ่งแบบไฟลิ่งแล้วเมื่อวันที่ 23 ม.ค.68 ปัจจุบันอย่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอขายหุ้น IPO โดยจะนำเงินที่ได้ไปลงทุนพัฒนาและขยายธุรกิจ ชำระเงินกู้ของบริษัทฯ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนทั่วไปสำหรับการดำเนินงาน







