
คุณธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โลกทุกวันนี้เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ตั้งแต่ผลกระทบจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ไปจนถึงความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทุกความท้าทายนำมาซึ่งโอกาส การเติบโตในโลกยุคใหม่ ไม่ใช่แค่การปรับตัว แต่ต้องก้าวพ้นกระแสแห่งความผันผวนนี้
จึงได้กำหนดแผนธุรกิจ Strategy 2030 หรือ กลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่ปี 2573 ในการสร้างการเติบโตและการเสริมแกร่งธุรกิจหลักในการสร้างโอกาสบริษัท ไม่ว่าจะเป็น การสร้างการเติบโตในกลุ่มอาหารทะเลแปรรูป อาหารแช่เย็น และอาหารสัตว์เลี้ยง ตลอดจนการมองหาโอกาสใหม่ ๆ เพื่อสร้างกระแสเงินสดในการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจที่มีศักยภาพต่อไป

- เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก: ได้แก่ อาหารทะเลแปรรูป อาหารแช่เย็น และอาหารสัตว์ เพื่อสร้างกระแสเงินสดที่จำเป็นสำหรับการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตใหม่ ๆ
- สร้างคลื่นลูกใหม่ของการเติบโต: มุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจที่เติบโตเร็ว เช่น อาหารสัตว์เลี้ยง อาหารแช่แข็ง อาหารพร้อมทาน และอินกรีเดียนท์ ซึ่งไทยยูเนี่ยนเชื่อว่าจะยังคงขับเคลื่อนการเติบโตของผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง
- การเปิดน่านน้ำใหม่: มุ่งเน้นการแสวงหาไอเดียและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และโปรตีนทางเลือก เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของไทยยูเนี่ยนในอนาคต
อย่างไรก็ตามท่ามกลางการดำเนินงานในโลกยุคใหม่ ที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป บริษัทยังคงเน้นการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ตามความต้องการของผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางผ่าน Customer Centric เป็นหลัก ควบคู่กับการปรับการทำงานในเชิงลึกมากขึ้น ในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจหลักควบคู่ไปกับมองหาการควบรวมกิจการเพิ่มแหล่งรายได้ใหม่ เช่น การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และโปรตีนทางเลือก โดยภาพรวมการลงทุนทั้งหมดบริษัทได้วางงบประมาณไว้ที่ 5,000 ล้านบาทต่อปี
ชู 2 โปรเจกต์ทรานส์ฟอร์เมชันแห่งปี “โซนาร์-เทลวินด์” เสริมแกร่งธุรกิจ
คุณพอล เฮอร์โฮลซ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์และทรานส์ฟอร์เมชัน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “กลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่ปี 2573 ที่ประกอบด้วย 3 แกนหลัก เป็นปัจจัยสำคัญที่จะเร่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ด้วยโอกาสการเติบโตทั้งจากธุรกิจในปัจจุบัน และธุรกิจใหม่ ๆ รวมถึงการควบรวมกิจการ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสู่ความสำเร็จในอีก 6 ปีข้างหน้า ซึ่งต้องวางรากฐานที่แข็งแกร่ง ภายใต้ยุทธศาสตร์การเติบโต Strategy 2030 มี โปรเจกต์ทรานส์ฟอร์เมชัน 2 โปรเจกต์สำคัญ ประกอบด้วย
1.โปรเจกต์โซนาร์ (Project Sonar) โครงการทรานส์ฟอร์เมชันของกลุ่มบริษัท มุ่งวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตในระยะยาว โดยตั้งเป้าลดต้นทุนเฉลี่ยปีละ 2,625 ล้านบาท (หรือ 75 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป มีเป้าหมายที่จะสร้างรูปแบบการดำเนินงานที่แข็งแกร่งสอดคล้องกับกลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่ปี 2573 สร้างขีดความสามารถด้านการจัดซื้อและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ปัจจุบันไทยยูเนี่ยนได้เริ่มต้นดำเนินการต่าง ๆ เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมาย ตามกลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่ปี 2573 รวมถึงโครงการทรานส์ฟอร์มเมชันทั้งสองโครงการ ผ่านโครงการสำคัญ ๆ เช่น การจัดตั้ง ศูนย์นวัตกรรมแห่งใหม่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ การเพิ่มการลงทุนด้านการส่งเสริมการตลาดเพื่อคงความเป็นผู้นำแบรนด์อาหารทะเลแปรรูปชั้นนำของโลกหลากหลายแบรนด์ของกลุ่มบริษัทอย่างต่อเนื่อง การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านการผลิต การขยายทีมและยกระดับขีดความสามารถทางดิจิทัลของกลุ่มบริษัททั่วโลก เป็นต้น




