
ในปี 2566 นี้ LPN จึงตอกย้ำจุดยืนดังกล่าวด้วยการสร้างสรรค์ไอเดียเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของการอยู่อาศัยที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ทุกเจนเนอเรชันในทุกโครงการของ LPN ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ผ่านแคมเปญการสื่อสารโดนใจ #สารภาพว่าติดบ้าน พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของแคมเปญได้อย่างลงตัว
จุดเด่นชัดเจน + Consumer Insight = “น่าอยู่” จนต้อง #สารภาพว่าติดบ้าน
ชัดเจนว่าจุดเด่นของ LPN ที่ผู้คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึง คือโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพมาตรฐาน ฟังก์ชันต่าง ๆ ก็ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองหรือซื้อเพื่อลงทุน ด้วยเหตุผลที่ว่าราคาคุ้มค่า เข้าถึงง่าย ขายคล่อง ขายต่อยังได้กำไร รวมถึงการบริหารชุมชนหรือนิติบุคคลที่มีความเป็นมืออาชีพ จนมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และปัจจุบัน LPN ยังให้ความสำคัญกับสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าหลากหลายช่วงวัยที่มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ซึ่งพัฒนามาจาก Consumer Insight ของลูกค้าจริงเป็นหลัก ทั้งในเรื่องของการออกแบบดีไซน์พื้นที่สีเขียว และพื้นที่ส่วนกลางต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ความ “น่าอยู่” ที่ LPN ตั้งใจนำเสนอและส่งมอบให้กับลูกค้าทุกคน
ตั้งแต่ต้นปี 2566 นับเป็นปีแห่งการสร้างการรับรู้ และสร้างประสบการณ์ใหม่ของ LPN ทั้งกลุ่มเป้าหมายเดิม และขยายสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ จากจุดเริ่มต้นที่ LPN ต้องการส่งมอบความ “น่าอยู่” ให้กับลูกค้าทุกคน จึงเป็นที่มาของการสื่อสาร Corporate Campaign ใหม่ที่เข้าใจง่าย ภายใต้ชื่อ #สารภาพว่าติดบ้าน ที่ถ่ายทอดความสุขและความอิ่มเอมที่เกิดขึ้นภายใต้การอยู่อาศัยในทุกโครงการคุณภาพของ LPN และส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยวิถีที่ยั่งยืนในราคาที่เหมาะสม เพื่อก่อให้เกิด “Livable Living Experience” ให้เป็นบ้านที่ “น่าอยู่” สำหรับทุกไลฟ์สไตล์ ทุกเจนเนอเรชั่น โดยมาพร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัย บ่งบอกความเป็นตัวเองที่เรียบง่ายแต่มีสไตล์ และเป็นที่ที่สามารถแบ่งปันประสบการณ์ความสุขร่วมกับผู้อื่นได้ด้วย
คุณมนพัทธ์ ศุภกิจจานุสันติ์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาแบรนด์ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพยนตร์โฆษณาชุด #สารภาพว่าติดบ้าน ผลงานสร้างสรรค์โดย Youngster BKK ประกอบด้วยภาพยนตร์โฆษณา 3 เรื่อง ได้แก่ เจ้านายที่รัก เพื่อนที่รัก และแฟนที่รัก ผ่านไลฟ์สไตล์ของตัวละคร ประกอบกับบทเพลง Sunday ที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับเรื่องราวต่าง ๆ ซึ่งขับร้องโดย มอร์-วสุพล เกรียงประภากิจ ศิลปินนักร้องและผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาชื่อดัง ผ่านการสื่อสารที่ครอบคลุมทั้ง Above The Line และ Below The Line เน้นกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่ใช้งานผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก รวมถึงการวางแผนการสื่อสารอย่างต่อเนื่องทุกรูปแบบ ซึ่งหนังเรื่องแรก “เจ้านายที่รัก”
ลุยพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ “น่าอยู่” ผ่านแกนหลัก “5 C”
คุณโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการแอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “แคมเปญนี้คือภาคต่อของ LPN ที่ประกาศตั้งแต่ต้นปีว่าจะรุกโครงการบ้านเดี่ยวมากขึ้น มีการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวใหม่ ๆ ในปี 2567 รวมมูลค่าเกือบ 10,000 ล้านบาท พร้อมปรับปรุงวิธีการออกแบบ การสื่อสารและแบรนด์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกเจนเนอเรชัน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีมุมมองและพฤติกรรมแตกต่างไปจากคนรุ่นก่อนหน้า จากลุมพินี “ชุมชนน่าอยู่” เราตัดคำว่าชุมชนออกไป เพราะทำให้ผู้บริโภคมักคิดถึงแต่คอนโดมิเนียม แต่คงความ “น่าอยู่” ซึ่งเป็นจุดแข็งของเราไว้ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาที่อยู่อาศัยของ LPN ที่มีหลากหลายประเภท นอกเหนือไปจากคอนโดมิเนียม และทำให้คำว่าน่าอยู่ซึ่งฟังดูแล้วเป็นนามธรรมมาก ๆ เป็นรูปธรรม จับต้องและสัมผัสได้จริง ๆ”

1. Comfort = การอยู่อาศัยที่สบายกาย สบายใจ
2. Convenience = ความสะดวกในการเดินทางเพื่อการอยู่อาศัย
3. Care for well-being = สุขภาวะที่ดีทั้งกายและใจ
4. Care the planet = ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม เพื่อโลกที่น่าอยู่มากขึ้น
5. Community & Social = ให้ความสำคัญกับสังคมที่น่าอยู่
โดยทั้งหมดนับเป็นองค์ประกอบหลักในการทำงานของ LPN เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยทุกรูปแบบที่ตอบรับกับความน่าอยู่ของทุกคน และตลอดไป ผมเชื่อว่าแคมเปญใหม่ จะสะท้อนโมเม้นท์ของคนติดบ้านได้อย่างสนุกสนาน และเห็นภาพความสุขของลูกบ้าน LPN พร้อมสัมผัสความเป็น Livable Living Experience ได้เป็นอย่างดีครับ”
เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ทำความรู้จักและเข้าถึงความ “น่าอยู่” ของ LPN มากขึ้น มาพบกับงานขายครั้งใหญ่แห่งปี LPN Moredinary Home Expo ยกขบวนโครงการบ้าน ทาวน์โฮม และคอนโดพร้อมอยู่คุณภาพ ที่มาพร้อมกับความน่าอยู่อย่างแท้จริง และความคุ้มค่าที่มากกว่า พิเศษ! รับโปรโมชั่น 3 ต่อ Hot Deal เฉพาะในงานนี้เท่านั้น! ณ เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 1 โซน C ในระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2566



