HomeBrand Move !!ซีอีโอใหม่ “EGCO Group” เปิดแผนรับมือความเสี่ยงพลังงานปีหน้า รุก M&A ก๊าซ – พลังงานหมุนเวียน วางเป้ารายได้และกำไรปี 69 ดีกว่าเดิม

ซีอีโอใหม่ “EGCO Group” เปิดแผนรับมือความเสี่ยงพลังงานปีหน้า รุก M&A ก๊าซ – พลังงานหมุนเวียน วางเป้ารายได้และกำไรปี 69 ดีกว่าเดิม

แชร์ :

คุณธวัชชัย สำราญวานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ (กลาง) และทีมผู้บริหาร EGCO Group

ธุรกิจพลังงานในปี 2569 ยังคงมี “ปัจจัยเสี่ยง” เต็มไปหมด แต่ถึงจะท้าทาย ทว่าซีอีโอใหม่ของผู้ผลิตไฟฟ้าและพลังงานเอกชนอย่าง “บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน)” หรือ “EGCO Group” ยังคงวางเป้าหมายการเติบโตทั้งรายได้และกำไรให้ได้มากกว่าปี 2568 คำถามคือ แล้ว EGCO Group จะทำอย่างไรเพื่อไปสู่เป้าหมายนี้ ตามมาฟังวิธีคิดและกลยุทธ์จาก คุณธวัชชัย สำราญวานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO Group

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ปี 69 ยังเต็มไปด้วยปัจจัยเสี่ยง

ตลอดปี 2568 แม้จะเจอความผันผวนมากมาย แต่ EGCO Group ยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง โดย 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ประมาณ 29,000 ล้านบาท โดยรายได้กว่า 90% มาจากธุรกิจไฟฟ้า ส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจพลังงาน ครอบคลุมธุรกิจเชื้อเพลิงและสาธารณูปโภค รวมถึงธุรกิจ Customer Solution & Startup โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด 6,836 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นในประเทศ 42% และต่างประเทศ 58% ใน 6 ประเทศ ทั้งในสหรัฐอเมริกา และเอเชีย โดยประเทศที่เข้าไปลงทุนมากที่สุดคือ สหรัฐอเมริกา แต่ประเทศที่สร้างผลตอบแทนมากที่สุดคือ ฟิลิปปินส์

ส่วนในปี 2569 คุณธวัชชัย ยอมรับว่า ปัจจัยเสี่ยงยังคงมีอยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน การแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ และปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ แต่สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องคือ สถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ เพราะมีผลต่อการลงทุนโครงการพลังงานต่างๆ ทำให้ “การบริหารจัดการความเสี่ยง” เป็นปัจจัยสำคัญในการทำธุรกิจปีหน้า

โดยเป้าหมายหลักในปี 2569 คุณธวัชชัยย้ำว่า “ต้องการสร้างรายได้และผลกำไรให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้ปีหน้าจะดีกว่าปี 2568” ควบคู่กับการสร้างความยั่งยืน ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ของธุรกิจพลังงานโลก โดยภายในปี 2573 ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์อย่างน้อย 10% และภายในปี 2593 บริษัทจะเป็นกลางทางคาร์บอนเต็มตัว

ลุย M&A ขยายการลงทุนโรงไฟฟ้า ใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 

สำหรับกลยุทธ์ที่ EGCO Group เลือกใช้ในการสร้างรายได้และผลกำไรให้เติบโตในปีหน้า คือ การขยายการลงทุน โดยให้น้ำหนักในธุรกิจพลังงานเป็นหลัก ผ่านการลงทุนทั้งแบบควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) เพราะวิธีนี้ช่วยลดความเสี่ยงในการพัฒนาโครงการและสามารถรับรู้กระแสเงินสดได้ทันที รวมถึงการลงทุนพัฒนาโครงการเอง (Greenfield) โดยจะมองหาโอกาสการลงทุนจากฐานธุรกิจที่มีอยู่ทั้งในไทยและต่างประเทศอีก 6 ประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดว่าจะเป็นแหล่งรายได้หลัก จากการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน Pinnacle II และการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในโรงไฟฟ้า Linden Cogen เป็น 38%

อีกทั้งตอนนี้ยังอยู่ระหว่างเจรจาดีล M&A ทั้งโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียน ทั้งในสหรัฐอเมริกา, ตะวันออกกลาง และไทย คาดว่าไตรมาส 2 ปี 2569 จะปิดดีล

กลยุทธ์ต่อมาคือ การบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโอ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีโรงไฟฟ้า 46 โรง และธุรกิจพลังงานกว่า 12 ธุรกิจ ด้วยการ Synergy เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจในกลุ่ม ควบคู่กับการทำ Asset Recycling เพื่อนำกำไรจากการขายสินทรัพย์ไปต่อยอดการลงทุนในโครงการใหม่ที่มีโอกาสสูงกว่า โดยมีแผนจะขายโรงไฟฟ้าก๊าซจำนวน 2 แห่ง มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะชัดเจนภายในครึ่งปีแรกของปี 2569

ขณะเดียวกัน ยังปรับโครงสร้างองค์กรธุรกิจ รวมทั้งนำเทคโนโลยีดิจิทัล และ AI มาใช้ในการทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าให้ดียิ่งขึ้น และตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ

เพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน

ส่วนการสร้างความยั่งยืน คุณธวัชชัย บอกว่า บริษัทจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน จาก 22% เป็น 30% โดยมีแผนนำไฮโดรเจนมาผสมกับก๊าซธรรมชาติเป็นเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCUS) ทั้งโรงไฟฟ้าในไทยและต่างประเทศ ตลอดจนปรับปรุงพอร์ตโฟลิโอทั้งหมดไปสู่พลังงานสะอาด 100%

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE

 


แชร์ :

You may also like