ท่ามกลางกระแสการดูแลสุขภาพที่มาแรง เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหลายชนิดได้รับความสนใจจากผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะ “มัจฉะ” ที่ได้กลายเป็นดาวเด่นที่ครองใจผู้บริโภคชาวไทยและกลายเป็นกระแสที่มาแรงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และด้วยแรงส่งของกระแส “Matcha Mania” นี้ ทำให้ผู้เล่นในตลาดเดิมต้องปรับตัว และยังเปิดประตูต้อนรับคู่แข่งหน้าใหม่ที่หมายตาเค้กก้อนโตนี้เช่นกัน
ล่าสุด “Super Matcha” (ซูเปอร์มัจฉะ) มัจฉะตัวดังจากเกาหลีก็ได้ ประกาศรุกตลาดไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมนำเสนอมิติใหม่ของมัจฉะ ที่ผสมผสานความพรีเมียม สุขภาพ และสไตล์เกาหลี เตรียมมาเขย่าบัลลังก์ผู้เล่นเดิม พร้อมสื่อสารวัฒนธรรมการดื่มมัจฉะของชาวเกาหลี
รู้จัก SUPER MATCHA แบรนด์ดังจากเกาหลี กับแนวคิด “ลดคาเฟอีน แต่ไม่ลดพลังชีวิต”
SUPER MATCHA ก่อตั้งขึ้นในกรุงโซลเมื่อปี 2560 โดยสองผู้ก่อตั้ง เฮย์เดน (Hayden) และเอมี่ (Amy) ที่มีแนวคิด “ลดคาเฟอีน แต่ไม่ลดพลังชีวิต” ซึ่งหมายความว่าในยุคที่วัฒนธรรมกาแฟครองใจคนทั่วโลก SUPER MATCHA ต้องการสร้าง “วัฒนธรรมใหม่แห่งการดื่มอย่างมีสติ” ผ่านเครื่องดื่มมัทฉะที่ทั้งดีต่อสุขภาพ สวยงาม และมีความหมายในทุกดีเทล ตั้งแต่วัตถุดิบไปจนถึงดีไซน์แก้ว มีจุดแข็งคือวัตถุดิบชาออร์แกนิก 100% จากไร่ชาเกาะ Jeju (เจจู) และ Boseong (โบซง)
ส่วนในประเทศไทย SUPER MATCHA เข้ามาทำตลาดครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ที่ “เซ็นทรัล พาร์ค” โดยมี บริษัท ซุปเปอร์ มัทฉะ (ไทยแลนด์) จำกัด ถือสิทธิ์มาสเตอร์แฟรนไชส์ในไทย ซึ่งเปิดให้บริการแห่งแรกไปแล้วที่ “เซ็นทรัล พาร์ค” ก่อนจะเดินหน้าขยายต่อ
คุณสุฑาทิพย์ มนูญผล CEO Super Matcha Thailand กล่าวว่า เกิดจากความชอบใน Branding บวกกับความชื่นชอบในการดื่มมัจฉะอยู่แล้ว จนได้มีโอกาสไปลองที่ประเทศเกาหลี จนติดใจ เมื่อผสานกับแบรนด์มัจฉะเกาหลีในไทยยังไม่มีมากนัก ส่วนใหญ่ในตลาดจะเป็นแบรนด์จากญี่ปุ่น จึงมองว่าเป็นโอกาสอันดีในการสร้างทางเลือกใหม่ๆ ให้กับลูกค้า 4-5 สาขาภายในครึ่งปี 2569 โดยเตรียมขยายเพิ่มอีก 1 สาขาที่ไอคอนสยาม ในสิ้นปีนี้ ก
ประเทศไทยคือศูนย์กลางของเทรนด์สุขภาพและคาเฟ่วัฒนธรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ SUPER MATCHA จึงเลือก Central Park เป็นจุดเริ่มต้น เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสมัตจะคุณภาพระดับโลกในรูปแบบที่เข้าถึงได้ทุกวัน สื่อสารผ่านโลโก้ SUPER MATCHA โดดเด่นด้วยสี “Whisk Green” สัญลักษณ์แห่งพลัง ความสดชื่น และความกล้าในการแตกต่าง ดีไซน์ของร้านสะท้อนแนวคิด “Modern Zen” ที่ผสมผสานความเรียบง่ายกับพลังชีวิตอย่างลงตัว
ส่วนเมนูภายในร้านจะมีทั้ง มัจฉะ กาแฟ และซอฟต์เสิร์ฟ ในระดับราคาเริ่มต้น 150 บาท โดยมีไฮไลต์ที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน ได้แก่
- SUPER MATCHA LATTE – Signature menu ที่ต้องลอง Super Matcha ที่ sugar free หวานจากสารให้ความหวานธรรมชาติ อร่อยได้โดยไม่รู้สึกผิด
- OAT CREAM MATCHA SHOT LATTE – ความลงตัวของมัตจะเข้มข้นกับครีมโอ๊ตเนียนนุ่ม ตัดกับ espresso shot อย่างพอดี
- SUPER BORI LATTE – เครื่องดื่มจากข้าวบาร์เลย์คั่ว ไม่มีคาเฟอีน ไฟเบอร์สูง ดีต่อระบบย่อย
- MATCHA RICE SOFT SERVE – ซอฟต์เสิร์ฟมัตจะ และครีมข้าวเกาหลีสูตรพิเศษ
สร้างการรับรู้ “มัจฉะ” จาก “เกาหลี” กับความหมาบ “SUPER” ที่ทุกคนต้องลอง
“ความท้าทายของแบรนด์จากนี้คือ การ Educate ลูกค้า พร้อมสื่อสารการดื่มมัจฉะในแบบของเกาหลี ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะถ้านึกถึงมัจฉะหลายคนจะนึกถึงญี่ปุ่นมากกว่าเกาหลี แน่นอนเราอยากนำวัฒนธรรมการดื่มแบบฉบับเกาหลี ที่เบา ลีน และดื่มได้ตลอดทั้งวันในการสร้างแบรนด์ในไทยและนั้นคือสิ่งที่แบรนด์ต้องทำนับจากนี้” คุณธนากร มนูญผล Partner , Super Matcha Thailan กล่าวถึงการทำตลาดในไทย
พร้อมกันนี้ยังจะการเน้นย้ำ Branding ผ่านการสื่อสารคำว่า SUPER แต่ละคำ ได้แก่
- S = Sugar-Low (หวานน้อย ใช้สารให้ความหวานธรรมชาติแทนน้ำตาลทราย)
- U = Ultra-Nutritious (อุดมด้วยสารอาหาร และคุณประโยชน์)
- P = Purely Organic (มัตจะออร์แกนิกแท้ 100%)
- E = Energy Boost (ให้พลังงานดีต่อใจและสมอง)
- R = Rich in Antioxidants (มีสารต้านอนุมูลอิสระระดับสูงจาก EGCG และ L-theanine)
นอกจากนี้ยังย้ำ BRAND PURPOSE & SUSTAINABILITY ของ SUPER MATCHA ไม่ใช่เพียงแบรนด์เครื่องดื่ม แต่เป็นแบรนด์ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างผลดีต่อโลก โดยรายได้ส่วนหนึ่งของบริษัทบริจาคให้กับ water.org เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงน้ำสะอาดในพื้นที่ห่างไกลทั่วโลก นอกจากนี้ยังใช้บรรจุภัณฑ์ biodegradable materials (PLA) และกระดาษ FSC-certified เท่านั้น พร้อมใช้หมึกพิมพ์ soy ink ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ No Plastic. Yes Recycle. ทุกการดื่มมัตจะคือการร่วมสร้างโลกที่ยั่งยืนขึ้น