ร้อนแรงอย่างต่อเนื่องสำหรับตลาดสุกี้-ชาบูเมืองไทย หลังผู้เล่นยักษ์ใหญ่ต่างอัดแคมเปญกระตุ้นตลาดชนิดไม่มีใครยอมใคร ทำให้ตลาดหม้อต้มมีมูลค่ากว่า 23,000-25,000 ล้านบาท และยังมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยเฉพาะในตลาดบุฟเฟ่ต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง
ล่าสุดถึงคิวของอีกหนึ่งบิ๊กเนมตลาดหม้อต้มเมืองไทยอย่าง “ชาบูชิ” ที่ขอร่วมวงชองตลาดด้วยการเดินหน้าเปิดกลยุทธ์ใหม่ “Segmentation Marketing” หรือกลยุทธ์การตลาดแบบแยกกลุ่มลูกค้าอย่างชัดเจนเพื่อรองรับลูกค้าแต่ละกลุ่มตามความต้องการ และทำเลได้อย่างเหมาะสม
เคาะราคา “ซูเปอร์คุ้ม” 259 บาท+ เจาะทำเล ไฮเปอร์มาร์เก็ต
โดยเปิดตัวบุฟเฟต์ใหม่ “ซูเปอร์คุ้ม” 259 บาท+ (บุฟเฟต์หมูหมู) ฟินคุ้มเมนูชาบู – ชาบู เนื้อหมู เนื้อไก่ ลูกชิ้น และผักสด อิ่มครบเมนูอาหารรับประทานเล่น พร้อมผลไม้ ไอศกรีม และเครื่องดื่ม รวมแล้วกว่า 50 เมนู
นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่ม 9 เมนูสุดฮิตได้กับบริหาร “คุ้มพลัส” 39 บาท+ ก็สามารถทาน กุ้งสด เนื้อฮารามิ เนื้อสไลซ์ และซีฟู้ดหลากชนิดได้ส่วนใครที่อยากจัดเต็มก็ยังมีบริการบุฟเฟต์ “สุขอิ่ม” 399 บาท+ สำหรับลูกค้าประจำที่ต้องการประสบการณ์เต็มรูปแบบ ทั้งชาบู – ชาบู ซูชิ และเมนูอาหารรับประทานเล่น เช่น กุ้งเทมปุระ ตลอดจนผลไม้ ไอศกรีม และเครื่องดื่ม รวมกว่า 70 รายการ
เน้นเจาะตลาดแมสและมีการแข่งขันสูงอย่างสาขาในไฮเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งมีกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับ “ความคุ้มค่า” และ “ความสะดวกสบาย” ชาบูชิ ได้ออกแบบกลยุทธ์เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในด้านราคาและความยืดหยุ่นในการเลือกบริโภค
ชู Lifestyle & Experience ยึดทำเล “ห้างสรรพสินค้า”
ส่วนชาบูชิ สาขาใน “ห้างสรรพสินค้า” จะเน้นความเป็น Lifestyle & Experience เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ผู้บริโภคมองหาประสบการณ์เชิงไลฟ์สไตล์ โดยได้เปิดตัว “ร้านดีไซน์ใหม่” เพื่อยกระดับประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นในมิติที่เหนือกว่าทั้งด้านอาหาร บริการ และบรรยากาศ มีจุดเด่นสำคัญอย่าง “Sushi-Master Station” ครัวเปิดที่ให้ลูกค้าได้ชมทุกขั้นตอนของการสร้างสรรค์ซูชิอย่างสดใหม่…คำต่อคำ
โดยมี 3 ระดับคาราให้เลือก ได้แก่
- Regular Buffet (สุขอิ่ม) 399 บาท+/ท่าน
- Premium Buffet (สุขคุ้ม) 499 บาท+/ท่าน
- Platinum Buffet (สุขล้น) 599 บาท+/ท่าน
ปัจจุบันร้านดีไซน์ใหม่เปิดให้บริการแล้วใน ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ชั้น G, เซ็นทรัล ขอนแก่น, มาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน, เกตเวย์ เอกมัย, เซ็นทรัล พัทยา, เซ็นทรัล ศาลายา, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัล นครศรีธรรมราช, จังซีลอน ภูเก็ต และเร็ว ๆ นี้ ที่ เซ็นทรัล กระบี่ และยังอยู่ระหว่างการขยายไปในสาขาหลักทั่วประเทศ
นับเป็นการตอบโจทย์ลูกค้าแบบ “Insight-Driven” และปรับกลยุทธ์เชิงพื้นที่ สร้างสมดุลระหว่าง “ประสบการณ์ที่เหนือกว่า” และ “คุณค่าที่จับต้องได้” โดยมุ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความคุ้มค่า ควบคุมงบประมาณได้ และสามารถเลือกได้ตามสไตล์ของตนเอง พร้อมตอกย้ำการเป็น “Top of Mind Brand” ที่ผู้บริโภคนึกถึง






