HomeBrand Move !!นักท่องเที่ยวจีนลด “เวียตเจ็ทไทยแลนด์” บุกอินเดียชดเชย ไตรมาส 4 เพิ่มฝูงบิน เริ่มเส้นทางใหม่ “เกาหลี-ญี่ปุ่น”

นักท่องเที่ยวจีนลด “เวียตเจ็ทไทยแลนด์” บุกอินเดียชดเชย ไตรมาส 4 เพิ่มฝูงบิน เริ่มเส้นทางใหม่ “เกาหลี-ญี่ปุ่น”

แชร์ :

เป็นที่ทราบกันดีว่าสถานการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนลดลงกว่า 30% นั่นทำให้ “เวียตเจ็ทไทยแลนด์” ต้องบริหารเส้นทางการบิน ลดจำนวนเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพไปเมืองรองต่างๆ ของจีนลง เหลือไว้เพียงเส้นทางหลัก ขณะเดียวกันก็เร่งเพิ่มเส้นทางใหม่ๆ ตามความต้องการของลูกค้า

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

กำไรเป็นครั้งแรกหลังจากโควิด

ก่อนที่จะเล่าถึงแผนการในอนาคต คุณวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเวียตเจ็ทไทยแลนด์ ได้เล่าถึงความสำเร็จในปี 2567 ซึ่งมีผู้โดยสารทั้งสิ้น 6.7 ล้านคน แบ่งเป็น ผู้โดยสารในประเทศ 4.2 ล้านราย โดยตลอดปีนี้น่าจะมีอัตราการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) เฉลี่ยเกิน 80% และมีรายได้ 15,000 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นปีที่รายได้กำไรเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิด Covid -19 เป็นต้นมา

และครึ่งปีแรก ของ 2568 ก็มีรายได้ 7,500 ล้านบาท ทำให้คาดการณ์ว่าในปี 2568 ทั้งปีจะมีรายได้ 15,000 ล้านบาทเทียบเท่ากับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

เพิ่ม โบอิ้ง 737-8 อีก 50 ลำ

ในปี 2568 นี้ จากความเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ด้านการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีน ทำให้ “เวียตเจ็ทไทยแลนด์” ต้องปรับลดเส้นทางเดินทางจากประเทศไทยไปประเทศจีนให้เหลือ 4 เส้นทางเพื่อตอบสนองการเดินทางในเมืองหลักเท่านั้น ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง กวางโจว และหางโจว แล้วหันไปรองรับนักท่องเที่ยวชาวอินเดียมากขึ้น โดยมองว่าเป็นกลุ่มที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยในปีนี้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีจุดเด่นที่บินตอนกลางคืนทำให้ Utilize การใช้เครื่องในช่วงเวลาดังกล่าวได้ดี จนเป็นที่มาของเส้นทางล่าสุด มุมไบ-ภูเก็ต ซึ่งเริ่มต้นไปเมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

แผนการณ์บินในปีนี้ “เวียตเจ็ทไทยแลนด์” จะเพิ่มฝูงบินอีก 23 ลำ แบ่งเป็น Airbus 14 ลำ และ Boeing 737-8 อีก 9 ลำ และจะเพิ่มฝูงบิน โบอิ้ง 737-8 รวมแล้วทั้งหมด 50 ลำ ภายในปี 2571 เหตุผลที่ “เวียตเจ็ทไทยแลนด์” ต้องสั่งเครื่องบินใหม่เข้ามาใหม่ก็เพือรองรับเส้นทางการบินที่เส้นทางยาวขึ้น ในต่างประเทศ โดยตั้งเป้าเปิดเส้นทางบินใหม่กว่า 5 เส้นทางในปีนี้ เช่น กรุงเทพฯ–โซล ซึ่งจะเปิดเส้นทางการบินช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป,  ส่วนกรุงเทพฯ–โกลกาตา ในเดือนพฤศจิกายน กับกรุงเทพ-อาห์เมดาบัด ในเดือนธันวาคม และกรุงเทพฯ–โตเกียว(นาริตะ) กับกรุงเทพ-โอซาก้า จะเริ่มบุกเต็มตัวเดือนธันวาคม ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นในตลาดเกาหลี ญี่ปุ่น และอินเดีย ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนเส้นทางยอดนิยมในต่างประเทศช่วงนี้ คือ เส้นทางบินตรงไปเวียดนาม ไม่ว่าจะเป็น ดานัง และฟูก๊วก หากว่าแผนการณ์ทั้งหมดเป็นไปตามเป้าที่วางไว้จะทำให้ จะทำให้ “เวียตเจ็ทไทยแลนด์”  มีเส้นทางบินทั้งหมด 32 เส้นทาง ครอบคลุม 7 ประเทศ

ส่วนเส้นทางในประเทศ ปัจจุบันเวียตเจ็ทไทยแลนด์ มีเส้นทางทั้งหมด 10 เส้นทาง และจะเปิดตัวเส้นทาง กรุงเทพ-นครศรีธรรมราช ในเดือนธันวาคมนี้เพิ่มเติม

คุณวรเนติ กล่าวว่า  “การเตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่ๆ ที่ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นแผนการขยายฝูงบินทั้งในระยะสั้นและกลาง เพื่อรองรับการเติบโตของสายการบินให้บริการ จะช่วยให้เวียตเจ็ทไทยแลนด์เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลว์คอสต์ที่รุนแรง และสร้างความพร้อมให้ไทยก้าวสู่การเป็นฮับการบินในภูมิภาค และที่สำคัญยังจะสร้างงานกว่า 4,000 – 5,000 ตำแหน่ง ครอบคลุมนักบิน พนักงานต้อนรับ พนักงานภาคพื้นดิน และฝ่ายวิศวกรรม ควบคู่ไปกับการยกระดับด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม”

ปรับปรุงบริการ – การสื่อสาร

คุณปิ่นยศ พิบูลสงคราม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการพาณิชย์ เล่าว่า นอกจากเพิ่มเส้นทางการบินแล้วเวียตเจ็ทไทยยังเตรียมมอบประสบการณ์การบินที่น่าประทับใจด้วยการให้บริการด้านความบันเทิงบนเที่ยวบิน (In-Flight Entertainment) โดยจับมือกับแพล็ตฟอร์มสตรีมมิ่ง ให้บริการกับลูกค้าโดยการใช้ดีไวซ์ของลูกค้าเองล็อกอินเข้ากับระบบ แล้วรับชมคอนเทนต์ผ่านรูปแบบการรับชมโฆษณา แลกกับการรับชมฟรี

“ที่สำคัญไม่แพ้กัน สายการบินเวียตเจ็ทไทยแลนด์ยังคงพัฒนาความตรงต่อเวลาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันก้าวขึ้นสู่อันดับ 4 ของสายการบินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและการมอบบริการที่เป็นเลิศแก่ผู้โดยสาร”

จนกระทั่งได้รับรางวัล“สายการบินโลว์คอสต์ที่ดีที่สุดในไทยแห่งปี 2567” จากนิตยสารโกลบอลแบรนด์ สหราชอาณาจักร  และ “พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเป็นมิตรมากที่สุด” โดยนิตยสารอินเตอร์เนชั่นแนล ไฟแนนซ์

ในส่วนของการให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน เวียตเจ็ทไทยแลนด์ประกาศตอกย้ำพันธกิจด้านความยั่งยืน ภายใต้นโยบาย Fly Green เดินหน้าศึกษาการใช้ Sustainable Aviation Fuel (SAF) และนำเครื่องบินรุ่นใหม่ที่ลดการปล่อยคาร์บอน 15–20% เข้ามาเสริมทัพ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น การอนุรักษ์ธรรมชาติ การศึกษา และการสนับสนุนชุมชน


แชร์ :

You may also like